‘ก้าวไกล’ เสนอ 4 ข้อปฏิรูปตร.-ทหาร ป้องกันเกิดเหตุอาชญากรรมซ้ำ

‘รังสิมันต์’ เสนอ 4  ข้อ ปฏิรูปตำรวจ-ทหาร อย่าปล่อยเกิดเหตุอาชญากรรมที่มีต้นตอมาจากองค์กรมีสีซ้ำซาก มองรัฐบาลปล่อยเกียร์ว่าง โยนความผิดให้ผู้ก่อเหตุ แต่ไม่โทษองค์กร

นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกล แถลงกรณีเหตุการณ์ที่จังหวัดหนองบัวลำภู ว่า เหตุการณ์ที่มีการใช้อาวุธในลักษณะแบบนี้ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งแรก 8 ก.พ. 63 จ่าสิบเอกนายหนึ่งเกิดเหตุที่นครราชสีมา มีผู้เสียชีวิต 30 คน ต่อมา 14 ก.ย. 65 เกิดเหตุที่กองทัพบก กรุงเทพฯ มีผู้เสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บสาหัส 1 คน และล่าสุด 6 ต.ค. 65 ก็มีเหตุเกิดอีกครั้งหนึ่ง และล่าสุด 6 ต.ค. 65 ก็เกิดเหตุครั้งล่าสุดทำให้มีผู้เสียชีวิต 38 คน เป็นเด็กเล็ก 22 คน เหตุการณ์ทั้งหมดผู้กระทำล้วนแต่เป็นทหาร-ตำรวจชั้นผู้น้อย

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เหตุการณ์ลักษณะแบบนี้เราไม่สามารถป้องกันได้ทั้งหมด แต่สิ่งที่สังคมเราอยากที่จะเห็น และจริงจังคือการป้องกันให้ได้มากที่สุด เพื่อไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นซ้ำและลดความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นต่อไป ย้อนกลับไปนับแต่การกราดยิงที่โคราช เราแทบไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงขององค์กรตำรวจทหารเลยแม้แต่น้อย ตลอดที่เวลาที่ตนทำงานศึกษาติดตามเรื่องนี้พบว่าภายในองค์กรเหล่านี้ยังมีสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการปฏิบัติหน้าที่ที่ดีของเจ้าหน้าที่ของรัฐและเต็มไปด้วยการทุจริตคอร์รัปชั่นซึ่งหลายครั้งส่งผลเสียต่อเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อย บางครั้งหนักถึงขนาดที่อาหารการกินของชั้นผู้น้อยก็มีการแบ่งแยก

“ปัญหาสุดที่อยู่กับสังคมมานานคือ การใช้เส้นสายฝากคนของตัวเองเข้าทำงาน ระบบตั๋วต่างๆ รวมถึงการเข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมายไม่ว่าจะเป็นยาเสพติด บ่อนการพนัน สถานบันเทิงผิดกฎหมาย ไปจนถึงการค้ามนุษย์ สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ล้วนต้องอาศัยการสมคบของเจ้าหน้าที่รัฐทั้งสิ้น คนทั้งสังคมรู้ว่านี่คือสภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้นจริงขององค์กรตำรวจและทหาร” นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นซ้ำๆ วัฒนธรรมองค์กรที่ใครๆ ก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เราเห็นแต่ความเงียบและการปล่อยเกียร์ว่างของรัฐบาล ผบ.ทบ. และ ผบ.ตร. ทุกครั้งที่ถามหาการแก้ปัญหามักได้คำตอบที่เป็นการโยนความผิดของผู้ก่อเหตุโดยไม่โทษองค์กร ไม่โทษสภาพแวดล้อมเลย ผู้ก่อเหตุมีความผิดที่ปฏิเสธไม่ได้ แต่หากไม่มีการปฏิรูปองค์กรอย่างจริงจัง เหตุการณ์แบบนี้จะกลายเป็นระเบิดเวลาที่อาจจะเกิดขึ้นอีกเมื่อไหร่ก็ได้ จึงอยากเสนอเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ ลดโอกาสที่จะเกิดขึ้นซ้ำ 

“การป้องกันเหตุการณ์เหล่านี้ จะต้องดำเนินการ 4 ประการ เพื่อเป็นแนวทางปฏิรูปทหารและตำรวจ ได้แก่ 1.ป้องกันระบบตั๋วการซื้อขายตำแหน่ง เพื่อไม่ให้คนมีสีเข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมาย เนื่องจากตั๋วมีราคา เงินเดือนไม่เพียงพอ ธุรกิจผิดกฎหมายจึงทำให้คนเหล่านี้มีเงินไปซื้อตั๋ว 2.เจ้าหน้าที่ต้องดูแลผู้น้อยอยู่เสมอ ขณะเดียวกัน องค์กรต้นสังกัด ต้องมีกระบวนการช่วยเหลืออย่างเป็นธรรมและโปร่งใส” นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า 3.รัฐบาลต้องเข้ามาช่วยเหลือ ไม่ผลักภาระผู้ปฏิบัติหน้าที่ การซื้อปืนเอง ซื้อกระดาษเอง จะต้องไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป นอกจากนี้ ต้องไม่มอบภารกิจที่ไม่จำเป็น อย่างทหารรับใช้ เพราะควรได้ทำตามหน้าที่ และ 4.กรณีที่พวกเขาต้องออกจากองค์กร รัฐและองค์กรต้นสังกัดต้องเข้ามาดูด้วยว่า พวกเขาสามารถอยู่ได้อย่างปกติสุขกับประชาชนทั่วไปได้หรือไม่ เพราะความกดดันอาจทำให้พวกเขามีสุขภาพจิตที่ไม่ปกติเหมือนคนทั่วไปได้

//////////