https://www.youtube.com/watch?feature=youtu.be&v=YZ9jA2uaUkY&app=desktop
กรณีการหายตัวของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ ที่อยู่ในความสนใจของสังคมอีกครั้งเมื่อกรมสอบสวนคดีพิเศษพบชิ้นส่วนกระดูกในถังน้ำมัน ซึ่งก่อนหน้าที่ภรรยาของบิลลี่ได้เดินหน้าร้องต่อหน่วยงานรัฐหลายแห่งเพื่อตามหาสามี หลายครั้งที่ต้องเจออุปสรรค ซึ่งคดีบิลลี่กับคดีทนายสมชาย นีละไพจิตร มีความคล้ายกัน
นายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ นักต่อสู้สิทธิชาวกระเหรี่ยง หายตัวไปเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2557
5 ปีผ่านไป กรมสอบสวนคดีพิเศษพบกระดูกบิลลี่ในถังน้ำมัน อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ผลการตรวจชัดแล้วว่า บิลลี่ถูกฆาตกรรม
น้ำตาที่หลั่งรินของมึนอ ภรรยาในพิธีรำลึกถึงบิลลี่ คือห้วงอารมณ์ของความสูญเสีย
ก่อนหน้านี้หญิงสาวร่างเล็กตามหาสามี เธอเข้าแจ้งความที่สภ.แก่งกระจานแต่เจ้าหน้าที่แจ้งเพียงว่า ให้ไปหาหลักฐานมายืนยันว่าบิลลี่หายตัวไป
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่หญิงชาวบ้านจะหาพยานมายืนยัน มึนอ ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อหลายหน่วยงาน รวมถึงร้องต่อศาลขอให้มีการไต่สวนเจ้าหน้าที่อุทยานที่คุมตัวบิลลี่ แต่ท้ายสุด ศาลฎีกายกคำร้องเพราะมึนอมีเพียงแค่พยานบอกเล่า น้ำหนักจึงไม่เพียงพอ
กรณีคนถูกบังคับให้สูญหาย เป็นเรื่องยากที่ญาติจะเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมตั้งแต่ต้น เช่น คดีทนายสมชาย นีละไพจิตร
ด้วยกฎหมายการป้องกันการกระทำให้บุคคลสูญหายยังไม่บังคับใช้ ขณะที่การอุ้มหายหลายกรณีมีเจ้าหน้าที่รัฐไปเกี่ยวข้อง การแจ้งความมักถูกเพิกเฉย

อังคณา นีละไพจิตร อดีตคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ภรรยาของทนายสมชาย
หากมีกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งกำหนดให้สามีภรรยาเป็นผู้เสียหาย สามารถร้องความเป็นธรรมได้ทันที และเจ้าหน้าที่รัฐผู้ที่คุมตัวเป็นคนสุดท้ายจะต้องหาหลักฐานเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง
เรื่องที่เกี่ยวข้อง