Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

“เลิกงานแล้วไปกินหมูทะกัน! เครียด หาอะไรอร่อย ๆ มากินกันเถอะ! คอแห้งจัง สั่งชาไข่มุกมากินสักแก้วดีกว่า!”

เมื่อเศรษฐกิจและสังคมยุคใหม่กำลังขับเคลื่อนไปด้วยกระแสบริโภคนิยม ทำให้เราถูกรายล้อมไปด้วยธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มมากมายแถมยังกดสั่งได้รวดเร็วทันใจจากสมาร์ตโฟน กล่าวได้ว่าสมัยนี้ถ้าอยากกินอะไรก็หากินได้อย่างไม่ยากเย็น แต่ความสะดวกสบายที่มากเกินไปนี้กำลังทำให้คนรุ่นใหม่มีความเสี่ยงต่อโรคอ้วนเพิ่มขึ้นกว่าในอดีตหลายเท่าตัว!

เมื่อปัญหาโรคอ้วนและภาวะน้ำหนักเกินทวีความรุนแรงจนเป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพของผู้คน ทำให้องค์การอนามัยโลกกำหนดให้วันที่ 4 มีนาคมของทุกปีเป็น “วันอ้วนโลก (World Obesity Day)” อย่างเป็นทางการ เพื่อยกปัญหานี้ขึ้นเป็นวาระสำคัญระดับโลกและกระตุ้นให้ทุกคนตระหนักถึงภัยจากโรคอ้วน ตลอดจนมีความเข้าใจต่อภาวะแทรกซ้อนและสนับสนุนวิธีการปฏิบัติจริงเพื่อให้ทุกคนบรรลุผลและรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ สำหรับประเทศไทย

ข้อมูลจากเครือข่ายคนไทยไร้พุง ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย (2558) ชี้ว่าเกิดปัญหาโรคอ้วนรุนแรงขึ้นทุกปี เพราะคนไทยมีพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนไป โดยมีคนไทยที่มีภาวะน้ำหนักเกินและเป็นโรคอ้วนถึง 21.4% หรือราว 17.6 ล้านคน ซึ่งข้อมูลที่น่าสนใจคือ ผู้หญิงไทยมีอุบัติการณ์โรคอ้วนมากกว่าผู้ชายเกือบเท่าตัว!

  • สถานการณ์โรคอ้วนในเด็กไทย

นพ.ฐากูร วิริยะชัย กุมารแพทย์ แพทย์ผู้ชำนาญการโรคติดเชื้อในเด็ก ศูนย์กุมารเวช โรงพยาบาลวิมุต อธิบายว่า “การสำรวจสุขภาพประชาชนกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2563 พบว่าโรคอ้วนในเยาวชนอายุ 6-14 ปีของกรุงเทพฯ มีอัตราสูงถึง 12.5% โดยเป็นเด็กผู้ชายมากกว่าเด็กผู้หญิง ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการกินอาหารที่มีแป้ง น้ำตาลและไขมันสูง รวมถึงใช้เวลาว่างทำกิจกรรมที่ไม่ค่อยได้ใช้พลังงานหรือออกกำลังกายน้อย เช่น เล่นเกมคอมพิวเตอร์หรือเล่นโทรศัพท์มือถือ”

นพ.ฐากูร แนะนำวิธีลดน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งควรประกอบด้วย 3 แนวทาง ได้แก่ 1. การปรับอาหารให้ถูกสัดส่วน โดยในแต่ละมื้อแบ่งอาหารเป็น 4 ส่วน คือผักกับผลไม้รวมกัน 2 ส่วน โปรตีน 1 ส่วน และคาร์โบไฮเดรต 1 ส่วน รวมถึงปรุงอาหารด้วยวิธีการตุ๋น ต้ม นึ่ง อบ ยำและลวก หลีกเลี่ยงการคั่ว ปิ้ง ย่าง เผา ผัด หรือทอด รวมถึงไม่ควรรับประทานอาหารในช่วง 4 ชม. ก่อนเข้านอน 2. การออกกำลังกาย เน้นกิจกรรมที่ทำให้หัวใจเต้นแรงและหายใจเร็วขึ้นในระดับที่ไม่สามารถร้องเพลงได้อย่างต่อเนื่อง แต่ยังสามารถพูดคุยประโยคยาว ๆ ได้ เช่นการเดินเร็วหรือขี่จักรยานต่อเนื่อง 10 นาทีขึ้นไป และ 3. การปรับแนวคิดและอารมณ์ โดยสร้างเป้าหมายในการลดน้ำหนัก หากรู้สึกหิวให้หากิจกรรมอย่างอื่นทำแทน เช่น ออกกำลังกายหรือดื่มน้ำ ตลอดจนขอให้บุคคลรอบข้างช่วยสนับสนุนการลดน้ำหนักและปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมไม่ให้เกิดความอยากรับประทานอาหาร

นพ.ฐากูร วิริยะชัย กุมารแพทย์ แพทย์ผู้ชำนาญการโรคติดเชื้อในเด็ก ศูนย์กุมารเวช โรงพยาบาลวิมุต
นพ. ชาญวัฒน์ ชวนตันติกมล แพทย์ผู้ชำนาญการโรคเบาหวานและต่อมไร้ท่อ ศูนย์เบาหวานและต่อมไร้ท่อ โรงพยาบาลวิมุต

  • ภาวะโรคอ้วนในวัยทำงานกำลังเข้าขั้นวิกฤติ

นพ. ชาญวัฒน์ ชวนตันติกมล แพทย์ผู้ชำนาญการโรคเบาหวานและต่อมไร้ท่อ ศูนย์เบาหวานและต่อมไร้ท่อ โรงพยาบาลวิมุต แบ่งปันข้อมูลที่น่าสนใจเนื่องในวันอ้วนโลกว่า “ผลการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยจากการตรวจร่างกายครั้งที่ 6 พ.ศ. 2562-2563 พบว่าคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป มีภาวะอ้วนถึง 42.2% และอ้วนลงพุง 39.4% โดยคนกรุงเทพฯ มีความชุกของภาวะอ้วนสูงที่สุดที่ 47% โดยเฉพาะผู้หญิงในกรุงเทพฯ มีความชุกภาวะอ้วนลงพุงสูงถึง 65.3% ซึ่งน่าเป็นห่วงมาก เพราะโรคอ้วนจะเพิ่มความเสี่ยงกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ได้แก่ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โรคระบบหัวใจและหลอดเลือด และมะเร็ง”

  • กินน้อยยังไงก็ไม่ผอม แพทย์แนะตรวจไทรอยด์

บางคนที่เจอปัญหาอ้วนง่าย แม้ลดอาหารแล้วก็ยังไม่ผอม นพ. ชาญวัฒน์ อธิบายว่า “นอกจากภาวะทางพันธุกรรมและการรับประทานยาบางชนิดที่ทำให้น้ำหนักเพิ่ม เช่นสเตียรอยด์ การเป็นโรคไทรอยด์ต่ำก็อาจเป็นสาเหตุให้อ้วนขึ้นได้แม้เราจะกินอาหารตามสัดส่วนปกติก็ตาม ดังนั้น หากเรารู้สึกว่าอ้วนง่ายผิดปกติและไม่สามารถลดได้แม้จะพยายามทำตามคำแนะนำทั่วไปอย่างเคร่งครัดแล้ว ควรรีบมาพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริง หรืออาจะเป็นไปได้ว่าแนวทางการลดน้ำหนักที่เราปฏิบัติอยู่อาจไม่ถูกต้อง ซึ่งแพทย์ก็จะได้ให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลต่อไป”

ทางโรงพยาบาลวิมุตร่วมต้อนรับวันอ้วนโลก พร้อมนำเสนอแพ็กเกจ Obesity Awareness Day Healthy Slim Life โปรแกรมลดน้ำหนักภายใต้การดูแลของแพทย์ในราคาเพียง 7,999 บาท รับเพิ่มโปรแกรมตรวจคัดกรองโรคไทรอยด์มูลค่า 2,120 บาท ทันที โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม เพื่อให้ผู้ที่มีปัญหาโรคอ้วน สามารถลดน้ำหนักได้อย่างเห็นผล มีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากที่สุด

ผู้ปกครองที่ต้องการปรึกษาปัญหาโรคอ้วนในบุตรหลาน สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ศูนย์กุมารเวช ชั้น 3 โรงพยาบาลวิมุต โทร. 02-079-0038 ทุกวัน ในเวลา 08.00-20.00 น. ส่วนผู้ที่ต้องการปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วน สอบถามรายละเอียดได้ที่ ชั้น 9 โรงพยาบาลวิมุต โทร. 02-079-0070 ทุกวัน ในเวลา 07.00-19.00 น.

Handsome bearded adult European man feels hesitant whether to eat hamburger or pizza prefers eating junk food wears round spectacles and jumper isolated over pink background. Cheat meal concept

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า