SHARE

คัดลอกแล้ว

ไทยประกาศต่อนานาชาติว่าจะยุติเอดส์ให้ได้ภายในปี 2573 แต่ก็เกิดปัญหาความไม่ชัดเจนของนโยบายการยุติปัญหาเอดส์ของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ส่งผลให้เกิดสุญญากาศในการรับบริการ เมื่อกระทรวงสาธารณสุขออกประกาศห้ามภาคประชาชนแจกยา PrEP และยา PEP ทำให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงเกิดความสับสนในการเข้าถึงสิทธิในระบบบริการสุขภาพ ผู้ถือบัตรทองสามารถรับบริการในโรงพยาบาลตามสิทธิ แต่ไม่ครอบคลุมผู้มีสิทธิประกันสังคม ข้าราชการ และรัฐวิสาหกิจ 

“ผมใช้สิทธิประกันสังคม ผมรับ PrEP ไม่ได้ ผมตรวจ HIV ไม่ได้ ต้องเสียเงิน แต่ถ้าผมติดแล้วเข้าสู่การรักษาพยาบาลได้ หมายความว่า ต้องติดก่อนถึงจะได้รับบริการใช่หรือไม่” 

นี่คือเสียงสะท้อนของผู้ใช้บริการยาเพร็ป (Pre-Exposure Prophylaxis หรือ PrEP) จากคลินิกชุมชน (SWING) ที่ต้องการให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตอบคำถาม หลังมีประกาศกรมสนับสนุนการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เรื่อง แนวทางการจัดบริการยา PrEP และประกาศของคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติฯ ให้การป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี ครอบคลุมเฉพาะผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ส่งผลให้ภาคประชาชนต้องหยุดจ่ายยาเพร็พ (PrEP : ยาป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อเอชไอวี) และยาเป๊ป (PEP : ยาป้องกันหลังสัมผัสเชื้อเอชไอวี)

ชโยดม สมบัติ คือหนึ่งในผู้ใช้บริการคลินิกชุมชน เล่าว่า เขารับยา PrEP ที่คลินิกชุมชนมานานกว่า 10 ปี เขาเป็นพนักงานบริษัทที่ใช้สิทธิประกันสังคม หากไม่สามารถไปใช้บริการที่ SWING ได้ ก็ต้องไปดูว่าประกันสังคมสามารถตรวจเอชไอวีและรับยา PrEP ได้ไหม ซึ่งในความเป็นจริงแล้วประกันสังคมมุ่งเน้นเรื่องการรักษาพยาบาล ไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องการป้องกัน จึงกลายเป็นว่าถ้ามีสิทธิประกันสังคม ต้องการอยากตรวจเอชไอวี หรืออยากรับ PrEP จะต้องจ่ายเงินเอง นี่คือปัญหาที่เกิดขึ้น

ชโยดม กล่าวว่า การให้บริการยา PrEP เป็นหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขที่จะต้องให้กับทุกคน แต่เมื่อประชาชนจะไปรับบริการยา PrEP ที่โรงพยาบาลที่มีสิทธิประกันสังคมไม่ได้ ไม่มี นั่นหมายความว่า รัฐกำลังผลักภาระไปให้ประชาชนในการจัดหาเครื่องมือในการป้องกันตัวเอง ซึ่งการป้องกันตัวเองของเขาก็คือ การป้องกันสังคม เป็นการผลักภาระให้เขาต้องไปซื้อยากินเองจากคลินิกเอกชนหรือโรงพยาบาลเอกชน ถามว่าตรงนี้มีใครได้ประโยชน์เปล่า

ภาครัฐไม่พร้อมและไม่มีความชัดเจนในการให้บริการ 

ด้านสุรางค์ จันทร์แย้ม ผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อนพนักงานบริการ (SWING) องค์กรชุมชนที่ดำเนินงานในการส่งเสริมสิทธิและโอกาสในการเข้าถึงสุขภาพของพนักงานบริการ กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ กลุ่มเปราะบางอื่นๆ เปิดเผยถึงสาระสำคัญในประกาศคณะกรรมการ สปสช. ว่าการจัดบริการยา PrEP นั้นจะต้องให้บริการโดยแพทย์ในโรงพยาบาลของรัฐ และเภสัชกรในโรงพยาบาลของรัฐเท่านั้น แต่เราเป็นอาสาสมัครภาคประชาชน เป็นเพียงแค่ผู้อำนวยความสะดวกที่จะส่งผู้รับบริการไปพบแพทย์ และเภสัชกร ช่วยส่งยาให้เท่านั้น เมื่อมีประกาศนี้สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ ยุติการให้บริการ ไม่เช่นนั้นจะเป็นการทำผิดกฎหมาย ซึ่งมันจะส่งผลกระทบอย่างมโหฬาร

เพราะจากสถิติมารับบริการในคลินิกของ SWING เฉพาะในกรุงเทพฯ 2 แห่ง คือที่สีลมและสะพานควาย ปี 2565 มีผู้มารับยา PrEP ทั้งหมด 5,625 คน ถ้าต้องหยุดให้บริการวันสุดท้าย (9 ม.ค. 2566) แล้วผู้ใช้บริการทั้ง 5,625 คนจะไปใช้บริการที่ไหน รัฐบาลเตรียมเรื่องยาต้านเอชไอวีไว้รอได้เลย เชื่อว่าอัตราการติดเชื้อเอชไอวีจะเพิ่มขึ้นแน่นอน เตรียมพร้อมไหม

“ถ้าเราป้องกันได้ ก็จะลดอัตราการติดเชื้อเอชไอวีในประเทศไทยได้ดี ซึ่งตั้งแต่การมียา PrEP ก็เห็นว่าอัตราการติดเชื้อเอชไอวีในประเทศไทยลดลง โดยเฉพาะอัตราการติดเชื้อในกลุ่มผู้ค้าบริการทางเพศผู้ชายที่พบการติดเชื้อเกือบจะ 20% พอมียา PrEP เข้ามา การติดเชื้อกดลงไม่ถึง 10% รวมถึงกลุ่มเกย์ กลุ่มสาวประเภทสองด้วย นั่นแสดงว่ายา PrEP ช่วยได้จริงๆ” ผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อนพนักงานบริการ กล่าว

ในปี 2565 มีผู้มารับบริการยา PrEP เฉพาะในกรุงเทพฯ มีจำนวน 2,667 คน เป็นการกินยา PrEP ครั้งแรกในชีวิตและกินอย่างต่อเนื่อง เพราะเชื่อว่าทางเลือกที่ดี ช่วยทำให้เกิดความปลอดภัยได้ ซึ่งจากข้อมูลงานวิจัยทั่วโลกหรือแม้แต่ในประเทศไทยก็บอกแล้ว มันสามารถป้องกันเอชไอวีได้เกือบ 100%

คำถามที่ตามมาคือ รัฐมีการเตรียมความพร้อมไว้แค่ไหนในการจัดหน่วยบริการ บุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องรับมือไหวไหม SWING เคยส่งคนไปโรงพยาบาลในต่างจังหวัด ทางโรงพยาบาลแจ้งมาว่า เราสามารถส่งผู้รับบริการไปได้แค่เดือนละ 2 คน นั่นหมายความว่า เราจะทำยังไงที่จะให้คนที่ไม่สามารถมารับบริการที่เราได้ไปรับบริการในโรงพยาบาลของรัฐได้ ถ้ามีผู้ต้องการรับบริการ 5 คน แต่โรงพยาบาลรับได้แค่ 2 คน แล้วเมื่อไรจะครอบคลุม เมื่อไรที่เราจะเข้าถึงเครื่องมือการป้องกันเอชไอวีได้อย่างทันท่วงที

สุรางค์ ระบุว่า สปสช. หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องแจ้งให้ประชาชนทราบอย่างชัดเจนว่า พลเมืองไทยสามารถไปใช้สิทธิของหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าอะไรบ้าง และไปใช้ที่เหลือได้หรือไม่ เพราะเมื่อไม่มีความชัดเจน ผู้ที่ไปรับบริการก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องทำยังไง การเกิดสุญญากาศอย่างนี้ ทำให้ประสิทธิภาพในการป้องกันตัวเองของประชาชนลดลง

 SWING ประกาศ งดให้บริการยา PrEP และ PEP 

ตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2566 เป็นต้นไป SWING คลินิกสาขาสีลมและสาขาสะพานควาย งดให้บริการยา PrEP และ PEP เนื่องจากประกาศของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ไม่อนุญาตให้หน่วยบริการที่ไม่ใช่โรงพยาบาลจ่าย PrEP, PEP ได้ (อ้างอิง สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ) ขอให้ผู้รับบริการที่รับบริการไปรับบริการ ดังนี้

1. ผู้รับบริการที่มีสิทธิบัตรประกันสุขภาพ 30 บาท สปสช. สามารถไปรับยาฟรีได้ที่โรงพยาบาลตามสิทธิของตนเอง หรือไปรับยาได้ที่ 16 หน่วยบริการสาธารณสุขของกรุงเทพมหานคร

2. ผู้รับบริการประกันสังคมหรือข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ สามารถไปรับยาฟรีได้ที่ 16 หน่วยบริการสาธารณสุขของกรุงเทพฯ

กรมควบคุมโรค สนับสนุนองค์กรภาคประชาสังคมร่วมจัดบริการ PrEP 

ขณะที่นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ยืนยันว่า ระเบียบกระทรวงสาธารณสุขฯ พ.ศ. 2562 เอื้ออาสาสมัครภาคประชาสังคมนำจ่าย PrEP ได้ โดยต้องมีบุคลากรที่ผ่านการอบรมในหลักสูตรที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด หรือที่กระทรวงสาธารณสุขรับรองและได้รับหนังสือรับรองความรู้ความสามารถจากกระทรวงสาธารณสุข และดำเนินงานภายใต้ ความควบคุมของเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม เจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม และเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ตามระเบียบกระทรวงสาธารณสุขฯ ซึ่งช่วยให้ผู้รับบริการเข้าถึงบริการดูแลสุขภาพได้สะดวก รวดเร็ว โดยไม่ต้องไปที่สถานพยาบาล

อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า ที่ผ่านมากรมควบคุมโรคสนับสนุนและร่วมมือกับองค์กรภาคประชาสังคม เพื่อให้เกิดการจัดบริการเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ลดลงอย่างมาก แต่ความครอบคลุมในกลุ่มประชากรหลักที่มีพฤติกรรมเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ ยังไม่เข้าถึงบริการได้อย่างครอบคลุม

ดังนั้น การส่งเสริมการใช้ถุงยางอนามัยร่วมกับการกินยา PrEP ซึ่งเป็นยาป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อเอชไอวี จะช่วยป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากองค์กรภาคประชาสังคม และสถานพยาบาลภาครัฐในการร่วมจัดบริการ

จากประเด็นปัญหาเรื่องงบประมาณในส่วนของการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคสำหรับผู้ที่นอกสิทธิบัตรทอง (สิทธิประกันสังคม ข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ) ซึ่ง สปสช. กำลังเร่งดำเนินการเพื่อให้มีความชัดเจนทางกฎหมายในการเบิกจ่ายงบประมาณนั้น

นพ.ธเรศ กล่าวว่า ชี้แจงว่า ระหว่างนี้ผู้รับบริการสามารถเข้ารับบริการตามสิทธิเดิม กรมควบคุมโรคจะสนับสนุนถุงยางอนามัยและยา PrEP ให้กับผู้มารับบริการที่มารับบริการที่องค์กรภาคประชาสังคม เพื่อให้มีการจัดบริการได้อย่างต่อเนื่องและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น และได้เตรียมจัดประชุมชี้แจงกับองค์กรภาคประชาสังคมและภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน เพื่อสร้างความเข้าใจ และประสานความร่วมมือในเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน รวมทั้งประสานงานกับโรงพยาบาลในเครือข่ายเพื่อขอให้รับเป็นคู่ร่วมจัดบริการยา PrEP กับองค์กรภาคประชาสังคม เพื่อส่งเสริมให้กลุ่มเป้าหมายได้เข้าถึงบริการการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้สะดวกและครอบคลุมมากขึ้น

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า