สรุปเหตุ 10 ชม. นักโทษก่อจลาจลเรือนจำกระบี่

เกิดเหตุความวุ่นวายขึ้นภายในเรือนจำกระบี่ นักโทษชายกว่า 300 รายพากันลุกฮือขึ้นเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่นำผู้ต้องขังที่ติดเชื้อโควิด-19 ออกไปรักษาตัวนอกเรือนจำ มีการทำลายข้าวของภายในเรือนนอน จนกลายเป็นเหตุจลาจล  ต้องใช้เวลานานกว่า 10 ชั่วโมงจึงควบคุมสถานการณ์ไว้ได้

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วง 22.00 น. ของวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา นักโทษ 70 คน ไม่พอใจมาตรการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งในเรือนจำแห่งนี้มีผู้ต้องขังติดเชื้อแล้วกว่า 100 คน เนื่องจากเรือนจำกระบี่เป็นเรือนจำที่มีแดนคุมขังเพียงแดนเดียว ทำให้มีปัญหาเรื่องคัดแยกผู้ต้องขังที่ติดเชื้อ จึงพากันออกมาเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เรือนจำเข้าไปคัดกรองและนำนักโทษที่ป่วยออกไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลนอกเรือนจำ เกิดการทำลายข้าวของภายในเรือนนอนและกลายเป็นเหตุจลาจลขึ้น

เจ้าหน้าที่เรือนจำประสานขอกำลังจากตำรวจ ทหาร เข้าควบคุมสถานการณ์ ระหว่างนั้นพบว่าเหตุการณ์เริ่มรุนแรงนักโทษชายบางส่วนพยายามจะปีนกำแพงหนีออกมา เจ้าหน้าที่ต้องใช้กระสุนยางยิงสกัดเป็นระยะทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนหนึ่ง นายพุฒิพงษ์ ผู้ว่าฯ จังหวัดกระบี่ ได้เจรจากับนักโทษพร้อมนำตัวผู้ที่อาการโควิด-19 รุนแรงแยกออกไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล

กระทั่งเวลา 04.30 น. วันที่ 17 ธ.ค. ผู้ต้องขังได้เริ่มเผาทำลายอาคารร้านค้าสงเคราะห์และสูทธรรม โดยใช้ถังแก๊ส เจ้าหน้าที่ได้ใช้รถดับเพลิงเข้าควบคุมไม่ให้เพลิงลุกลาม ขณะที่อีกส่วนได้ประชุมแผนเพื่อเข้าควบคุมสถานการณ์อีกครั้ง โดยพลตำรวจตรีชัยวัฒน์ ผบก.ภ.จว.กระบี่ ร่วมกับ ผบ.กลุ่มราชทัณฑ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร ร่วมวางแผนขณะด้านนอกเรือนจำได้ปิดการบริเวณถนนอุตรกิจ พร้อมเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดควบคุมฝูงชน ตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ เจ้าหน้าที่เรือนจำ จังหวัดใกล้เคียง

ขณะที่นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ บินด่วนลงพื้นที่จังหวัดกระบี่ เพื่อบัญชาการแก้ไขสถานการณ์จลาจลในเรือนจำ ยืนยันว่าสถานการณ์ไม่ได้บานปลายและล่าสุดควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว โดยทำการย้ายผู้ต้องขังหญิงไปที่เรือนจำชั่วคราวกระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ เพื่อดูแลความปลอดภัย ส่วนผู้ต้องขังที่ยังอยู่ในเรือนจำ ให้คัดกรองโควิด-19  แยกผู้ป่วยโควิด-19 เพื่อเร่งรักษาตามขั้นตอน

• นายกฯ กำชับแก้ไขสถานการณ์ เน้นความปลอดภัย

ล่าสุดพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม รับทราบรายงานสถานการณ์การก่อจลาจลภายในเรือนจำจังหวัดกระบี่ พร้อมสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจับตาควบคุมสถานการณ์ภายในเรือนจำ รักษาผู้ต้องขังที่ติดเชื้อให้ดีที่สุด และอำนวยความสะดวกในการขนย้ายผู้ต้องขังที่จะต้องย้ายเรือนจำด้วยความปลอดภัย มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งค้นหาสาเหตุและถอดบทเรียนจากสถานการณ์ดังกล่าวเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย พร้อมสั่งให้มีรายงานความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

• รมว.ยุติธรรมยืนยันยารักษาโควิดเพียงพอสำหรับผู้ต้องขัง

ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม สั่งการให้มีการทำงานแบบบูรณาการร่วมกับทุกหน่วยงานเพื่อแก้ปัญหาให้จบโดยเร็ว ส่วนการขนย้ายผู้ต้องขังที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ก็ทำอย่างละเอียดถี่ถ้วน ยืนยันว่า ในเรือนจำที่กระบี่ มียารักษาเพียงพอสำหรับผู้ต้องขังทุกคน และมีมาตรการควบคุมและมาตรการรักษาตัวผู้ป่วยโควิด และขณะนี้มีการทยอยย้ายผู้ต้องขังออกไปแล้ว ส่วนเงื่อนไขการกำกับดูแลเรือนจำนั้นเป็นอำนาจของแต่ละจังหวัด หลังจากนี้จะมีการตรวจสอบอย่างละเอียด