SHARE

คัดลอกแล้ว

เทรนด์ เฮลท์ตี้ ที่ทำให้คนหันมาใส่ใจในเรื่องของสุขภาพมากขึ้น ก้อย รัชวิน วงศ์วิริยะ เป็นหนึ่งคนที่สร้างปรากฎการณ์ สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้หญิง ให้หันมาปฎิวัติตัวเองและโฟกัสในเรื่องของการออกกำลังกาย

การวิ่งเคียงข้างตูน บอดี้สแลม แฟนหนุ่ม หลายร้อยกิโลเมตร ภาพของการพิชิตมาราธอน ในระดับนานาชาติหลายสนาม รวมไปถึงภาพของสาวสวยสุขภาพดี ที่รักการออกกำลังกาย สิ่งเหล่านี้ ไม่ได้เกิดขึ้นได้เพียงชั่วข้ามคืน แต่เกิดจากการฝึกฝนและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง

“การวิ่ง เป็นกีฬา ที่ทำให้เราได้รู้จักตัวเองมากขึ้น เพราะเราไม่ต้องแข่งกับคนอื่น แต่เราแข่งกับตัวเอง มันทำให้เรามีวินัยกับตัวเองมากขึ้นและสิ่งนั้นมันก็จะถูกพัฒนาไปสู่มุมอื่นๆ ในชีวิตเราด้วย”

สตอรี่และไลฟ์สไตล์ ของก้อย รัชวิน ถูกถ่ายทอดผ่าน Fanpage Rachwin Journey ล่าสุด (23 ก.ค.2563) มีผู้ติดตามเพจนี้ 439,943 คน ตอกย้ำการเดินทางของสาวเก่ง จากนักแสดง ไปสู่นักวิ่ง ด้วย #ก้อยไม่เก่งแต่ก้อยไม่หยุด แฮชแท็ก เล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่ นี้ เหมือนเครื่องเตือนใจ เป็นคำพูดที่ใช้เตือนสติตัวเอง ให้ทุกอย่างของการดำเนินชีวิต ทำด้วยความตั้งใจ

“เพราะมาราธอนไม่ใช่เริ่มที่สนาม แต่มันเริ่มตั้งแต่วันแรกที่เราฝึก”

เมื่อค้นพบว่า เรื่องราวของก้อย ได้สร้างพลังบางอย่าง สร้างแรงบันดาลใจส่งไปถึงคนอื่น โดยเล่าเรื่องราวของเธอผ่าน โซเชียล ทำให้ได้เห็นว่าระหว่างทางต้องผ่านอะไรมาบ้าง ทั้งการฝึกซ้อม ความเหน็ดเหนื่อยและความอดทน ซึ่งทุกคนสามารถทำได้ แน่นอนว่าการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องผ่านการออกกำลังกายกลางแจ้งมาเป็นเวลานาน ทำให้ต้องมองหาตัวช่วยให้กับร่างกาย ด้วยการเดินทางต่อไปสู่เส้นทางนักธุรกิจ

จากเรื่องราวและไลฟ์สไตล์ในโซเชียลมีเดีย สู่จุดเริ่มต้นของ ATIRA
ATIRA คืออะไร 

ATIRA เป็นวิตามินที่รวบรวมสารสกัดจากธรรมชาติ ช่วยในเรื่องการต้านอนุมูลอิสระ แสงแดดจากมลภาวะ จากฝุ่นควัน จากอะไรต่างๆ ที่มีส่วนในการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย”

ก้อย รัชวิน วงศ์วิริยะ และผลิตภัณฑ์ ATIRA

ที่มาของ ATIRA

ATI และ RA “มาจากชื่อก้อยและพี่ตูนรวมกัน อยากให้เกียรติ คนที่ถือว่าเป็นผู้ที่จุดประกายให้ทำ และรู้สึกว่าไม่มีอันไหนเหมาะไปกว่าอันนี้แล้ว” ซึ่งเป็นความตั้งใจของก้อยที่อยากสื่อสารให้เห็นถึงสิ่งดีๆ ให้กับตัวเองและคนที่รัก

“จุดเริ่มต้น ไม่ได้เริ่มจากการอยากทำธุรกิจ ไม่ได้อยากมีแบรนด์ของตัวเอง ไม่ได้อยากทำ เพราะอยากรวย แต่ทุกอย่างเริ่มต้นจากการหาตัวช่วยที่ดีที่สุด ให้กับร่างกายของตัวเองและคนที่เรารัก”

กว่า 4 ปีกับการตั้งไข่ ธุรกิจอาหารผิว ATIRA ด้วยโจทย์ “ปลอดภัยและดีที่สุด”

“เพราะว่าเราต้องการสิ่งนี้ แต่ไม่มีใครสามารทำให้เราได้ นอกจากตัวเราเอง แน่นอนว่า พอเรามาทำเอง เราจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง เราจะใส่ใจรายละเอียดสุดพลัง เพราะมันต้องเอาเข้าไปในร่างกายของเรา คนที่เรารักและอยากให้เขาทาน”

แม้จะทำทุกอย่างด้วยตัวเอง แต่เส้นทางการทำธุรกิจของก้อย ต้องใช้เวลากว่า 4 ปี ในการทำแบรนด์ของตัวเอง ศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเอง จนออกมาเป็นสิ่งที่ลงตัวที่สุดในวันนี้

“กว่าจะเทสต์ กว่าจะเดินเข้าไปคุยกับโรงาน กว่าทดลองทานด้วยตัวเอง ซึ่งการทานอาหารเสริม ไม่ใช่ทานแค่ 1 วันเห็นผล ต้องทานต่อเนื่องและใช้เวลา มีการปรับสูตร สรรหานวัตกรรมใหม่ๆ สารสกัดใหม่ๆ ที่เห็นผลจริงๆ และมีคุณภาพจริงๆ ในขั้นตอนการพัฒนา ก็ใช้เวลาเกือบ 2 ปี”

สเตชั่นหลัก ของการทำธุรกิจ

การทำธุรกิจในสมัยนี้ หลายคนอาจจะคิดว่ามันง่าย มีโรงงานมาพร้อม แค่เดินเข้าไป อยากได้อะไรก็จิ้ม ทำเสร็จเป็นแพคเกจ แต่นั่นไม่ใช่ก้อย รัชวิน ด้วยความตั้งใจและมีเป้าหมายที่ชัดเจน ว่าหาตัวช่วยดีๆ ต่อสุขภาพ ให้กับตัวเองและคนที่รัก ทำให้ ATIRA เป็นอาหารเสริม ที่เกิดจากก้อย รัชวิน ทุกขั้นตอน ตั้งแต่การศึกษาค้นคว้าสารสกัดที่ดี ปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียง ไปจนถึงการหาโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐาน มีนวัตกรรมใหม่ๆ มีทีมงานที่มีความรู้ความสามารถ ไปจนถึงความใส่ใจในเรื่องแพคเก็จจิ้ง

“ยิ่งพอเป็น โปรดักซ์ของตัวเรา เราก็อยากให้ทุกอย่างออกมาเป็นตัวเรา ทั้งสี referent ที่พอเขาแกะออกมา ก็จะได้พบกับผลิตภัณฑ์ที่มาจากตัวก้อย ผู้บริโภคได้รับรู้ ถึงความจริงใจของเรา เหมือนแมสเซ็จ ที่เราอยากจะสื่อสารถึงเขา ซึ่งก้อยเป็นคนคิดเอง ว่าจะมีข้อความจากตัวเอง เพื่อสร้างความประทับใจและความจริงใจ

เป็นดารา สร้างแบรนด์ง่าย ต้องขายดีและดังอยู่แล้ว

ด้วยภาพจำของก้อย รัชวิน ไม่ได้มีภาพของการขายของมาตั้งแต่แรก แต่กลับเป็นภาพนักแสดงที่ชอบวิ่ง หรือเป็นพรีเซนเตอร์ในสินค้าต่างๆ มาถึงวันนี้เธอต้องสร้างภาพจำใหม่ ให้เป็นนักธุรกิจ มีแบรนด์ของตัวเอง ที่ต้องสร้างความเชื่อใจทั้งในตัวเธอเองและผลิตภัณฑ์

ในยุคโซเชียล ที่ทำให้คนสามารถค้นหาองค์ความรู้ได้มากขึ้น การเป็นดาราก็ไม่อาจสร้างความเชื่อมั่นได้ ร้อยเปอร์เซ็น การทำแบรนด์จึงต้องทำด้วยความระมัดระวังและใส่ใจในรายละเอียดมากขึ้น ซึ่งนั่นเป็นโจทย์ที่ท้าทายและยากขึ้นไปกว่าเดิม

“ไม่ได้มีอะไรได้มาง่าย ทุกอย่างไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ การเป็นนักแสดงหรือคนที่มีชื่อเสียง อาจจะโชคดีในเรื่องของช่องทางการสื่อสารกับคนในจำนวนมาก แต่ในอีกมุมหนึ่งก็ต้องคำนึงถึงความถูกต้อง ปลอดภัยและดีที่สุด ยิ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องรับประทาน ทุกอย่างละเอียดอ่อน ก้อยไม่สามารถเอาชื่อเสียงของก้อยมาแลกกับอะไรแบบนี้ได้”

โมเดลธุรกิจ ATIRA

ย้อนหลังกับไป เมื่อ 2-3 ปีก่อน ในช่วงเวลาที่เริ่มต้นทำ ATIRA มีการทำโมเดลในเรื่องตัวแทนจำหน่าย เป็นจำนวนมาก ก้อย เปิดเผยว่ามีคนติดต่อมากขอเป็นตัวแทนจำหน่ายเป็นจำนวนมาก แต่ด้วยมุมมองที่เห็น ATIRA เป็นแบรนด์ Start Up ก็อยากให้ทุกการสื่อสารส่งตรงจากตัวเธอเอง ซึ่งธุรกิจตัวแทน ที่มีคนเข้ามาอยู่เป็นจำนวนมาก การแชร์ข้อมูลออกไป อาจไม่ใช่สิ่งที่ต้องการจะบอกกับผู้บริโภคจริงๆ ง่ายต่อการผิดพลาดและไม่สามารถควบคุมได้ เธอเลือกที่จะลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง

“เราลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง เราใส่ใจอยู่กับมันจริงๆ ให้มันเริ่มมาจากเราก่อน อันนั้นแหละ จะเป็นตัวชี้วัด ว่าเราเป็นตัวจริงหรือเปล่า และเราจะอยู่กับมันได้นานแค่ไหน ไม่อยากให้คนรู้สึกว่าทำเพราะกระแส แล้วก็ผ่านไป แต่เราอยากให้ ATIRA เป็นผลิตภัณฑ์ของคนรักสุขภาพ ที่อยากจะแชร์สิ่งดีๆ ให้ตัวเองและคนที่รัก”

การสร้าง ATIRA ให้เติบโตในกลุ่มคนรักสุขภาพ ด้วย Trust

“ก่อนอื่นเราต้องเชื่อตัวเองก่อน ซึ่งสำคัญมาก เชื่อมั่นในสิ่งที่เราทำและตระหนักอยู่เสมอว่า การทำธุรกิจของเราไม่ได้เกิดจากการอยากขาย แต่เป็นการที่เราได้เจอสิ่งดีๆ แล้วอยากจะแชร์ให้กับคนอื่น ขณะที่สินค้าที่ดีจะต้องเห็นผลลัพท์ที่ชัดเจนทั้งกับตัวเราและคนรอบข้าง”

ไม่เพียงแต่การสร้างความเชื่อ ให้เกิดขึ้นกับแบรนด์เท่านั้น ก้อย ยอมรับไมได้เป็นคนเก่งและมีความรู้ด้านธุรกิจมากมายมาตั้งแต่ต้น แต่ในวันที่ตัดสินใจลงสนาม ว่าจะทำแบรนด์ก็ต้องไปศึกษาและพัฒนา เหมือนเรื่องของการวิ่ง จากคนที่วิ่งไม่ได้ก็พยายามศึกษา ฝึกฝน จนวิ่งได้ การทำธุรกิจก็เช่นกัน สิ่งเดียวที่บอกได้คือผลิตภัณฑ์ที่ดี มีการพัฒนาและศึกษานวัตกรรมอย่างไม่หยุดนิ่ง ซึ่งถือเป็นโมเดลที่น่าจับตา และเป็นต้นแบบหลายๆ คนที่อยากจะเดินบนเส้นทางธุรกิจเหมือนอย่างก้อย

“จุดหนึ่งที่สามารถปลดล็อกได้ คือ ความมั่นใจในสินค้าของเรา แม้ว่าเราจะไม่มั่นใจในตัวเอง ว่าขายแล้ว คนจะสนใจไหม แต่พอเอาคำถามเหล่านั้น ไปวิเคราะห์ แทนที่จะคิดว่าคนจะทานไหม ให้เปลี่ยนความคิดไปเลยว่า เราจะทำสิ่งดีๆ หยิบยื่นให้กับเขา มีประโยชน์ต่อสุขภาพของเขา เขาจะซื้อหรือไม่ไม่สำคัญ เพียงแต่เราเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เราให้มันดีก็พอ เมื่อคิดแบบนี้ มันทำให้ความกลัว ความกังวลและความไม่มั่นใจ ลบหายไปเลย”

Covid-19 กับแบรนด์ ATIRAั

ในช่วงระยะเวลาครึ่งปีที่ผ่านมา หลายธุรกิจอาจได้รับผลกระทบไม่ทางตรงก็ทางอ้อม แต่วิกฤตนั้นกลับเป็นโอกาสให้ก้อย หันมา โฟกัส กับแบรนด์ ATIRA มากขึ้น ซึ่งจากสถานการณ์โควิด ทำให้ธุรกิจออนไลน์เติบโตขึ้น

“อยู่ดีๆ ทุกคนก็มี Second Job ขึ้นมา ซึ่งบางรายเกิดขึ้นจากรายได้หลักที่หายไป ก็จะต้องมองหาช่องทางที่ทำให้ให้มีรายได้อยู่ ใครมีความสามารถอะไร และ ATIRA ก็เป็น Second Job ของก้อยมาตลอด แต่พอเกิดเหตุการณ์โควิด ก็กลับกลายเป็นรายได้หลัก ทำให้เรายิ่งต้องพัฒนา กลายเป็น Passion ที่ต้องการส่งต่อสิ่งดีๆ ให้คนอื่นมากขึ้นไปอีก”

“จริงๆ วิกฤตโควิด ได้ให้อะไรเยอะมาก จากที่ก่อนหน้านี้ เรามี 2 อาชีพ ทั้งนักแสดงและธุรกิจส่วนตัว แต่พอเจอโควิด ทำให้ก้อยมาทำธุรกิจเป็นหลัก โฟกัส ATIRA มากขึ้น มีเวลาอยู่กับมัน มีเวลาคิด วิเคราะห์และลงรายละเอียด ด้วยการสื่อสารมากขึ้น วิกฤตที่ผ่านมาทำให้ก้อยเห็นภาพ ATIRA ชัดเจนขึ้น ว่าเป็นแบรนด์ที่ไลฟ์สไตล์ ให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพเป็นหลัก แน่นอนว่าในอนาคต ก็วางแผนว่าอยากมีผลิตภัณฑ์ตัวต่อไป ที่ยังเป็นเรื่องของสุขภาพให้กับคนรุ่นใหม่ มีนวัตกรรมใหม่ๆ สร้าง ATIRA ให้โตขึ้น

ภาพจาก : Fanpage Rachwin Fanclub

ธุรกิจ ทำก้อยให้โตขึ้นอย่างไรบ้าง

“คีย์สำคัญเลย คือความขยัน ไม่ว่าคุณจะทำอาชีพอะไรก็ตาม ถ้าคุณขยัน คุณจะไม่อดตายแน่นอน ขณะที่โลกมันเปลี่ยน เราก็ต้องปรับตัว เรียนรู้ ที่จะยืนอยู่ให้ได้อย่างมั่นคง”

“ก้อยโชคดีที่ธุรกิจ เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับสุขภาพ และในตอนนี้คนให้ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นหลัก การทำผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการว่าอยากให้สุขภาพดีด้วย ในขณะที่เสริมด้วยความสวยความงาม ก็จะทำให้ทุกอย่างเติบโตได้ไม่ยาก พอเราจับทางได้ว่า ต้องการจะสื่อสารอะไร ก็พุ่งไปที่ประเด็นนั้นให้ชัดเจนที่สุด คนก็จะเข้าใจว่าสินค้าของเราคืออะไร”

การทำออนไลน์ มีข้อดีต่อแบรนด์ และโครงการการกุศล อย่างไรบ้าง

ไม่เพียงแต่การใช้ช่องทางออนไลน์ มาทำธุรกิจเท่านั้น แต่ที่ผ่านมาโครงการการกุศลต่างๆ ก็ถูกถ่ายทอดผ่านช่องทางนี้ จากโครงการก้าว จนมาสู่ตลาดใจ เป็นการใช้ช่องทางออนไลน์ ในการสื่อสาร มาโดยตลอด เริ่มตั้งแต่พี่ตูน วิ่งจากใต้ไปเหนือ 55 วัน เป็นการทำให้ทุกคนได้ติดการการเดินทางของพี่ตูนตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้าย และมันคือพลังที่มหาศาลมาก เนื่องจากเป็นช่องทางที่สามารถส่งตรงถึงทุกคน ทำให้ทุกคนมีส่วนร่วม ติดตาม เช่นเดียวกับตลาดใจ ที่เกิดขึ้นจากการต้องการสร้างพลัง และกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ใช้ช่องทางออนไลน์เป็นสื่อกลางในการมอบสิ่งของบริจาค หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ ทำให้ผู้ชมเกิดความรู้สึกอยากจะช่วย ทำให้มียอดบริจาคกว่า 43 ล้านบาท ที่มาจากช่องทางออนไลน์ทั้งหมด ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการสื่อสารแบบนี้ ได้ผลลัพธ์เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

อยากจะเป็นแบบก้อย ต้องทำยังไง

มาถึงตอนนี้ ถ้าจะพูดถึงสาวสวย สุขภาพดี รักการออกกำลังกาย คงไม่มีใครไม่คิดถึงก้อย รัชวิน เธอได้กลายเป็นต้นแบบ ไอดอล ของสาวๆ และเด็กๆ รุ่นนี้เป็นอย่างมาก ไม่ใช่เพียงเพราะเธอเป็นแฟนสาวของนักร้องดังเท่านั้น แต่ก้อย สร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่นได้  ด้วยความพยายาม ความมุ่งมั่นและความตั้งใจ แบบเกินร้อย

“เด็กในสมัยนี้เก่งมากๆ หลายครั้งที่ก้อยเอง ก็เรียนรู้จากน้องๆ ซึ่งทุกคนโชคดีมาก ที่เติบโตมาในช่วงที่เทคโนโลยีมีความทันสมัย การทำธุรกิจหรือแม้แต่การสร้างตัวเองขึ้นมาสามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็น เน็ตไอดอล ยูทูบเบอร์ บล็อกเกอร์ ทุกคนสามารถทำได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องรอโอกาสเหมือนเมื่อก่อน ที่เราจะต้องเดินไปหาโอกาสฝึกฝนอย่างหนัก ซึ่งมันยากเหลือเกิน ดังนั้นการสร้างตัวตนสามารถทำได้อย่างไม่มีขีดจำกัด ทุกคนสามารถทำได้ แต่สิ่งหนึ่งที่อยากจะฝากเยาวชน ขอให้ทำด้วยความความรัก และจริงใจต่อคนอื่นเสมอ สิ่งที่ทำออกมาจากใจจะทำให้คนที่ติดตามได้รับความรู้สึกนั้นกลับไป”

“พอทำได้แล้ว อย่าคิดว่าทำเพื่อที่จะได้ แต่ให้คิดว่า ทำเพื่อที่จะให้ มันจะเป็นความสุขที่แท้จริง แม้แต่การทำธุรกิจ เมื่อได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า อะไรก็ตามที่เราสามารถส่งต่อให้สู่สังคม ทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นเมื่อนั้น ทุกอย่างจะครบถ้วนสมบูรณ์ในการดำเนินชีวิต

ก้อย รัชวิน ยังฝากทิ้งท้ายให้กำลังใจคนทำ SME หรือคนทำธุรกิจ ในช่วงโควิด ให้ใช้วิกฤตนี้ กลับมาเป็นพลัง สร้างโอกาส เรียนรู้การปรับตัวใหม่ เพื่อให้ทุกอย่างยังคงเดินหน้าต่อไปได้และฝ่าวิกฤตนี้ไปด้วยกัน

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า