SHARE

คัดลอกแล้ว

สรุป เหตุการณ์ ไฟไหม้ถังเก็บแก๊สโซลีนของ บ.มาบตาพุดแท็งค์ เทอร์มินอล ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง มีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 4 คน 

เพจเฟซบุ๊ก ‘ชมรมอาสาสมัครดับเพลิงภาคตะวันออก’ เผยคลิปวิดีโอ โดยระบุว่า เมื่อเวลา 10.45 น. รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ภายในพื้นที่มาบตาพุด ถนน i6 นิคมอุตสาหกรรม มาบตาพุด

 

เวลาต่อมา เพจเฟซบุ๊ก ‘ก้าวไกล ระยอง’ ระบุว่า “ณ ขณะนี้กำลังเกิดเหตุไฟไหม้ ในนิคมมาบตาพุดครับ เจ้าหน้าที่กำลังเร่งเข้าดับไฟ เบื้องต้นมีผู้บาดเจ็บจำนวน 3 ราย แทงค์ที่ไหม้อยู่ในระดับ 3 สูงสุดระดับ 4 ยิ่งตัวเลขสูงยิ่งไหม้ไว อันตรายต่อสุขภาพระดับ 2 สูงสุดระดับ 5 ยิ่งตัวเลขสูงยิ่งอันตรายต่อสุขภาพ Pyrolysis Gasoline เป็นสารเพิ่มค่าออกเทนในน้ำมัน และเป็นสารตั้งต้นสำหรับผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีอีกหลายรายการ”

 

เสียชีวิตแล้ว 1 คน เหตุไฟไหม้ถังสารเคมี ระยอง รัฐบาลเปิดวอร์รูมประสานระงับเหตุ ไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมาบตาพุด ปิดทำการชั่วคราว

คืบหน้ากรณีไฟไหม้ถังเก็บแก๊สโซลีนของ บริษัท มาบตาพุดแท็งค์ เทอร์มินอล ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง หลังสกัดดับไฟไหม้สงบได้ ในเวลา 12.30 น. ก่อนจะปะทุขึ้นมาอีกรอบลุกไหม้ถัง ก่อนไฟจะโหมแรงขึ้นลานล้นถัง หัวฉีดดับเพลิงอัตโนมัติ ได้ฉีดน้ำเลี้ยงถังลูกโลกไว้ ซึ่งคาดเป็นถังเก็บแอลพีจี หวั่นระเบิดอีกถัง

ด้าน นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) สั่งการให้ สำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด (สทร.) และสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด (สนพ.) จังหวัดระยอง อพยพคนในพื้นที่ทั้งพนักงาน และสถานประกอบการโรงงานทุกแห่งในพื้นที่เกิดเหตุออกจากพื้นที่โดยด่วน หลังเริ่มมีการลุกลามของเพลิงไหม้ โดยในพื้นที่ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินระดับที่ 2 แล้ว

บริษัทมาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 เหตุไฟไหม้ถังเก็บสารไพรโรไลสิส แก๊สโซลีน ของบริษัทฯ ที่ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง โดยระบุว่า เหตุการณ์นี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 คน แต่ต่อมาได้รับแจ้งว่ามีพนักงานเสียชีวิต 1 คน

พร้อมชี้แจงการเกิดกลุ่มควันบริเวณถังจัดเก็บสารประกอบไฮโดรคาร์บอน C9+ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์พลอยได้ (by product) จากการผลิตสารตั้งต้นในการผลิตเม็ดพลาสติก โดยได้แยกเบนซีน โทลูอีน มิกซ์ไซลีน ออกหมดแล้ว ซึ่งใช้เป็นตัวทำละลายในอุตสาหกรรมต่างๆ (Solvent)

ขณะที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความล่าสุดว่า “ผมทราบการเกิดเหตุเพลิงไหม้ ถังเก็บวัตถุดิบสารไพโรไลสีส แก๊สโซลีน ของ บริษัท มาบตาพุดแทงค์เทอร์มินัล จำกัด พร้อมได้ประสานท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เข้าไปติดตามการระงับเหตุ และป้องกันผลกระทบที่จะเกิดต่อพี่น้องประชาชน รวมถึงขอให้ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บ”

นายกฯ ระบุต่อว่า โดยได้มีการเปิดห้อง War Room เพื่อประสานเหตุการณ์ในการระงับเหตุ และให้รถตรวจการณ์ EMCC เข้าตรวจวัดคุณภาพอากาศบริเวณเหนือลม และท้ายลม รวมทั้งตรวจสอบผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศบริเวณพื้นที่ชุมชน พบว่า ไม่เกินค่ามาตรฐานที่กำหนด นอกจากนี้ ได้ประสานกับบริษัท SCG เพื่อใช้เรือในการอพยพผู้คนทางเรือ และได้อพยพคนออกมาอยู่ในจุดปลอดภัยแล้ว

“ผมห่วงใยไปถึงพี่น้องประชาชน และได้กำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีมาตรการป้องกัน และควบคุมให้ดียิ่งขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดเหตุลักษณะนี้อีกครับ” นายเศรษฐา ระบุทิ้งท้าย

 

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมาบตาพุด จังหวัดระยอง ปิดทำการชั่วคราว

ตามที่เกิดเหตุเพลิงไหม้บริเวณท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2567 เวลาประมาณ 10.45 น. ส่งผลให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) จำเป็นต้องปิดทำการชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ และขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้

ทั้งนี้ ผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่อำเภอมาบตาพุด จังหวัดระยอง สามารถติดต่อขอรับบริการได้ที่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดระยอง

นายอัธยา นวลอุทัย หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระยอง ได้เปิดเผยในเวลา 15.30 น. วันนี้ (9 พ.ค. 67) ว่า ขณะไฟได้ลุกไหม้ลุกลามไปถังที่ 2 แล้ว นอกจากนี้ ยังมีถังขนาดเล็กที่อยู่รอบลุกลามไปด้วย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไว้ เพื่อให้เพลิงอยู่ในวงจำกัด จะเห็นได้จากเปลวไฟเริ่มลดความรุนแรงลง แต่ก็ยังคงลุกไหม้อย่างต่อเนื่อง

สำหรับถังที่ถูกไฟไหม้ เป็นถังสารโซลีน ที่มีความสูง 18 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 30 เมตร บรรจุได้ 2,500 ลูกบาศก์เมตร ส่วนถังที่ 2 มีขนาดเท่ากัน แต่เป็นสารคนละประเภทกัน ซึ่งลุกลามไหม้ไปแล้ว

สำหรับพนักงานโรงงานในใกล้พื้นที่ไฟไหม้ ได้อพยพพนักงาน รวมถึงชาวบ้านในพื้นที่จุดเสี่ยงไปอยู่ที่โรงเรียนมาบตาพุดพันพิทยาคาร ซึ่งอยู่ในจุดที่ปลอดภัย โดยทางสาธารณะจังหวัดระยอง ได้ส่งทีมแพทย์พยาบาลลงมาดูแลผู้ประสบภัยแล้ว

ด้านการช่วยเหลือเบื้องต้น จังหวัดเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวโรงเรียนมาบตาพุดพันพิทยาคาร รองรับประขาชนที่เดือดร้อน โดยบริการตรวจสุขภาพและอาหารในค่ำคืนนี้ โดยขณะนี้มีผู้เข้ามาพักพิงที่ศูนย์ประมาณ 400 คน

สำหรับมาบตาพุดแทงค์ฯ เคยเกิดเหตุถังระเบิดเมื่อปี 2564 ครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิต 3 ราย

ชมรมอาสาสมัครดับเพลิงภาคตะวันออก อัปเดตสสถานการณ์ ระบุว่า เวลา 16.50 น. คืบหน้าเหตุเพลิงไหม้ถังเก็บสารตั้งต้นผลิตน้ำมัน และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี บริษัท มาบตาพุดแทงค์เทอร์มินัล จำกัด ภายในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง ขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว อยู่ระหว่างฉีดน้ำหล่อเย็นตัวถัง

หลังเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน ใช้เวลากว่า 8 ชั่วโมง

         กนอ. สั่งห้ามปล่อยระบายน้ำที่ใช้ดับเพลิงออกสู่ภายนอก

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 16.35 น. ทางสำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด (สทร.) รายงานว่า สามารถควบคุมสามารถควบคุมเพลิงให้สงบ ขณะนี้ไม่พบกลุ่มควันแล้ว โดยที่จังหวัดระยองยังคงประกาศภาวะฉุกเฉินระดับ 2 และยังคงมีการฉีดโฟมเพื่อหล่อเย็นบริเวณถังเก็บสารเคมีดังกล่าว เพื่อรักษาอุณภูมิป้องกันการประทุขึ้นอีกครั้ง

โดยมีโดรนบินตรวจวัดอุณหภูมิเหนือถังจนกว่าอุณหภูมิจะต่ำกว่า จุดวาบไฟ (42-57 องศาเซลเซียส) พร้อมกำชับให้ติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

สำหรับการจัดการน้ำที่ใช้ในการดับเพลิง จะไม่มีการปล่อยระบายออกสู่ภายนอก โดย กนอ. ได้กำชับให้บริษัท ดำเนินการรวบรวมน้ำทิ้งและส่งกำจัดตามหลักวิชาการต่อไป

ทั้งนี้ บริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 3 ชี้แจงกรณีเกิดเพลิงไหม้ว่า มีผู้บาดเจ็บจำนวน 4 ราย อยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ซึ่งบริษัทฯ จะให้การดูแลและช่วยเหลือผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ยังรวมมือกับหน่วยงานในพื้นที่อพยพประชาชนไปอยู่ในที่ปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ ในวันพรุ่งนี้ (10 พ.ค.67) เวลาประมาณ 10.00 น. น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม จะลงพื้นที่ ณ สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เพื่อติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ด้วยตนเอง เพื่อนำข้อมูล รายงานต่อนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ต่อไป

ภาพ : Fire & Rescue Thailand

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า