กรณีศึกษา รุ่งโรจน์หรือล้มละลาย เมื่อ 1 คลิปวิจารณ์ของนักรีวิว กำหนดชะตาชีวิตสตาร์ทอัป

ในยุคนี้ไม่ว่าใครก็เป็นนักรีวิวได้ ซึ่งในแง่หนึ่งก็ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าอย่างเราๆ ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลรีวิวก่อนตัดสินใจซื้อ ยิ่งนักรีวิวมีชื่อเสียงมาก ก็ยิ่งได้รับความเชื่อใจจากผู้บริโภคมาก และยิ่งเป็นแรงกระตุ้นให้ผู้ผลิตสินค้า ต้องทำผลงานออกมาให้ดีมากพอ เพื่อที่จะไม่โดนรีวิวในทางลบ 

แต่ล่าสุดมีเหตุการณ์ที่ทำให้เราต้องมาถกเถียงกันว่า การวิจารณ์แรงๆ แม้เป็นความจริงก็ตามนั้น เป็นสิ่งที่ถูกต้องจริงหรือ 

Marques Brownlee หรือ MKBHD ผู้ทรงอิทธิพลในการรีวิวผลิตภัณฑ์เทคโนโลยี ลงคลิปรีวิว AI Pin โดยโปรยหัวคลิปว่า “The Worst Product I’ve Ever Reviewed… For Now” หรือเป็นผลิตภัณฑ์ที่แย่ที่สุดที่เขาเคยรีวิวมา ณ ตอนนี้

AI Pin คือผลงานจากสตาร์ทอัปหน้าใหม่ Humane จากซานฟรานซิสโก เป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กเท่าฝ่ามือ กลัดติดกับเสื้อได้ด้วยแม่เหล็ก มีหน้าจอแสดงผลเล็กๆ  และทั้งหมดทำงานด้วย Generative AI 

เราสามารถใช้คำสั่งเสียงสั่งงาน AI Pin ทำงานแทนมือถือในระดับพื้นฐานได้เช่น โทรเข้าโทรออก ส่งข้อความ เล่นเพลง ตรวจสอบราคาสินค้าออนไลน์ เป็นล่ามเรียลไทม์คุยกับคนต่างชาติ ตัว AI Pin แสดงข้อมูลให้เราอ่านได้ด้วยวิธีการยิงเลเซอร์ Laser Ink Display มาที่ฝ่ามือหรือท้องแขน ที่ว้าวกว่านั้นคือ เราใช้การจีบนิ้วควบคุมการใช้งานได้ด้วย 

AI Pin กลายเป็น gadget ที่เป็นกระแสในข้ามคืน ตัวบริษัท Humane ได้รับการระดมทุนสูงถึง 230 ล้านเหรียญ แม้ยังไม่ส่งมอบสินค้า 

อย่างไรก็ตาม AI Pin ราคาไม่ถูกเสียทีเดียว เริ่มต้น 699 ดอลลาร์หรือราวกว่า 25,000 บาท สามารถซื้อมือถือ Android แรงๆ ได้ และยังมีค่า subscription อีกเดือนละ 24 ดอลลาร์ 

AI Pin ถือเป็นสัญญะแห่งการเริ่มต้นใหม่ๆ ในยุค Generative AI ซึ่งนอกจาก AI Pin แล้ว มี gadget ในคอนเซปต์ใหม่ๆ ตามมา เช่น AI Phone มือถือที่ใช้ AI ทำงานแทนแอป, Rabbit AI อุปกรณ์ AI ขนาดเล็ก เป็นต้น 

เดือน มี.ค.-เม.ย เป็นช่วงที่ Humane เริ่มส่งมอบ AI Pin ลูกค้าได้ใช้งานจริง และเริ่มมีคลิปรีวิวลงให้เห็นกัน ซึ่งเป็นไปในเชิงลบ เพราะ AI Pin ยังเป็นของใหม่เกินไป ใช้งานได้ไม่ดีพอ ตัวเลเซอร์จางลงจนอ่านยากเมื่อใช้งานเอาท์ดอร์ มีภาวะโอเวอร์ฮีท และด้วยความที่ AI Pin ไม่ทำงานกับแอปบนมือถือเลย การตั้งค่าและจัดการข้อมูลของเราจึงเป็นเรื่องยากพอสมควร 

แต่กระแสการถกเถียงเกิดขึ้นเมื่อ MKBHD ผู้มีคนติดตามบน YouTube กว่า 18 ล้านคน ลงคลิปรีวิว AI Pin และพาดหัวว่า “The Worst Product I’ve Ever Reviewed… For Now” ณ ช่วงเวลาที่เขียน ตัววิดีโอมียอดรับชมเกือบ 5.5 ล้านครั้ง 

อดีตวิศวกร AWS Daniel Vassallo เขียนใน X ว่า “ฉันพบว่ามันเป็นเรื่องน่ารังเกียจและเกือบจะผิดจรรยาบรรณที่พูดแบบนี้ เมื่อคุณมีผู้ติดตาม 18 ล้านคน ยากที่จะอธิบายว่าทำไม แต่การมีอิทธิพลเข้าถึงคนมาก มาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ การทำลายโครงการที่เพิ่งเริ่มต้นของคนอื่น อาจเป็นความประมาทเลินเล่อ เริ่มแรกเลยคือ อย่าทำร้ายใคร”

MKBHD ทวีตตอบ Vassallo ว่า “เราเห็นไม่ตรงกันว่า งานของฉันคืออะไร”

Alex Finn คอนเทนต์ครีเอเตอร์แนวเทคโนโลยีบอกว่าว่า “MKBHD สามารถทำให้บริษัทล้มละลายได้ใน 41 วินาที”

เหตุการณ์ที่คล้ายๆ กันนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อ MKBHD ลงคลิปรีวิวรถ EV จากสตาร์ทอัป Fisker โดยเขาบอกว่า “This is the Worst Car I’ve Ever Reviewed.” หรือรถที่แย่ที่สุดที่เขาเคยรีวิวมา หลังจากนั้นไม่นาน Fisker ก็เจอภาวะขาลง เลย์ออฟพนักงาน 15% หยุดการผลิต 

แต่ประเด็น Fisker ต่างจาก AI Pin ตรงที่ Fisker มีปัญหาอยู่ก่อนหน้า และรถก็มีปัญหาระบบเบรก ซึ่งเป็นเรื่องความปลอดภัยต่อชีวิตของผู้ใช้รถใช้ถนน การรีวิวตรงๆ จึงเป็นเรื่องสมเหตุสมผล 

แต่ AI Pin ยังเป็นเทคโนโลยีระดับเริ่มต้น และไม่สัมพันธ์กับความปลอดภัยในชีวิต นี่จึงกลายเป็นประเด็นให้ MKBHD ถูกวิจารณ์อย่างหนัก ว่าควรหรือไม่ที่จะรีวิวแรงๆ กับ gadget จากสตาร์ทอัปที่เพิ่งระดมทุนซีรีส์ C และยิ่งในช่วงเวลาที่มีของใหม่จาก Gen AI เกิดขึ้นได้อีกมาก 

นี่ถือเป็นประเด็นใหม่ ที่ยังหาจุดลงตัวไม่ได้ ไม่สามารถฟันธงได้ว่าใครถูกใครผิด โดยเฉพาะในยุคที่นักรีวิวคือที่พึ่งของผู้บริโภค และนักรีวิวก็ควรรีวิวสินค้าตามจริง พูดถึงข้อเท็จจริงและข้อดีข้อด้อยจากการใช้งานจริง 

สัปดาห์ที่แล้ว Brownlee สัมภาษณ์พูดคุยกับ Colin และ Samir ซึ่งเป็นยูทูเบอร์เหมือนกันว่า เมื่อก่อนมีเพียง The Wall Street Journal และ The New York Times ที่ผู้บริโภคค้นหาความคิดเห็นเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ แต่ในปัจจุบัน ใครก็ตามบนอินเทอร์เน็ตสามารถแสดงความคิดเห็นได้ โดยไม่คำนึงถึงความผูกพันทางสถาบัน

ที่มา : cnet, youtube, businessinsider, techcrunch