SHARE

คัดลอกแล้ว

เมื่อแอนิเมชั่นที่ตีแผ่ชีวิตของกระต่ายในห้องทดลองเป็นไวรัลไปทั่วโลก

‘Save Ralph’ เป็นเรื่องราวของ ‘ราล์ฟ’ กระต่ายที่มีงานประจำเป็น ‘ตัวทดลอง’ อยู่ในห้องแล็บ เขาตาบอดหนึ่งข้าง หูข้างหนึ่งไม่ได้ยินอะไรนอกจากเสียงวิ้ง ผิวตามสันหลังไหม้แสบจากการทดลองเคมีบนผิว เขาต้องเผชิญความเจ็บปวดนี้เช่นเดียวกับกระต่ายตัวอื่น ๆ ที่ต้องทนทุกข์ทรมาน ในครอบครัวที่ต้องสละชีพเพื่อมนุษย์ที่ ‘อยู่เหนือกว่า’ กระต่ายอย่างพวกเขา เพียงเพื่อให้มนุษย์รู้สึกว่าเครื่องสำอางค์ที่เขาใช้ปลอดภัยขึ้น

ในฉากจบราล์ฟเดินเข้ามาในห้องล็อคเกอร์ที่มีชื่อกระต่ายที่ตายไปถูกขีดฆ่าจนเต็มฝาตู้ เขาตาบอดทั้งสองข้าง คอถูกดามไว้ และข้างหลังเปิดให้เห็นแผลพุพองที่เกิดจากเคมี แม้เขาจะเจ็บปวด เขาก็ยังบอกกับผู้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตาว่า ‘so good’

ที่จริงแคมเปญต่อต้านการทดลองในสัตว์มีมานานแล้วทั้งที่ดำเนินการโดย Humane Society International (HSI) องค์กรไม่แสดงผลกำไรที่รณรงค์เรื่องสิทธิสัตว์มาอย่างยาวนาน ผู้ผลิตแอนิเมชั่นเรื่องนี้ และองค์กรอื่น ๆ เป็นต้นว่า PETA นอกจากนี้ยังมีคลิปจริง ที่ถ่ายทอดชีวิตสัตว์ในห้องทดลองให้ดูอยู่มากมายตาม youtube แต่กลับไม่ได้รับความสนใจเท่านี้ อาจเป็นเพราะภาพความรุนแรง ที่ทำให้ผู้ชมช้ำใจเกินจะดู แต่ ‘Save Ralph’ นำเสนอในรูปแบบแอนิเมชั่นทำให้ทุกอย่างดูนุ่มนวลขึ้น แม้จะไม่ได้ลดทอดความความโหดร้ายที่สัตว์ทดลองต้องเผชิญ

การที่ราล์ฟพูดถึงความจำปวดของเขาในฐานะสัตว์ทดลอง ความตายของกระต่ายตัวอื่นในครอบครัวราวกับเป็นเรื่องธรรมดาและเป็นส่วนหนึ่งของงานยิ่งส่งให้เรื่องน่าสะเทือนใจ และวิธีการเล่าเรื่องผ่านรูปแบบสารคดีล้อเลียน (Mockumentary) ที่มีการสัมภาษณ์ราล์ฟ เหมือนสารคดีตามติดชีวิตคน การโชว์ภาพราล์ฟทำกิจวัตรประจำวันไม่ต่างจากคน ยิ่งทำให้ผู้ชมสัมผัสได้ว่ากระต่ายก็มีจิตใจและควรได้รับชีวิตที่ดี มีอิสระเช่นเดียวกับคนทั่วไป

เรื่องราวประกอบกับพลังดาราชื่อดังของฮอลลีวูดที่มาร่วมให้เสียงอย่าง ไทก้า ไวทีที ริกกี เจอร์เวส แซค แอฟรอน โอลิเวีย มันน์ พอม เคลเมนเทียฟ ฯลฯ ยิ่งทำให้ ‘Save Ralph’ ดึงดูดความสนใจได้มากขึ้น ซึ่งส่งให้แอนิเมชั่นสั้นขนาด 3.53 นาที กลายเป็นไวรัลทั่วโลก

ปัจจุบันการทดลองในสัตว์ยังจำเป็นสำหรับการวิจัยและพัฒนายาและเคมีต่าง ๆ แต่หลายองค์กรก็เน้นย้ำว่าการทดลองในสัตว์จะทำต่อเมื่อจำเป็นและไม่มีทางเลือกอื่น และกระบวนการจะต้องเจ็บปวดน้อยที่สุด ใช้สัตว์จำนวนน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ รวมถึงการมีพันธกิจว่าสัตว์ในห้องทดลองจะต้องมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดี มีสวัสดิการและผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล แต่อย่างไรก็ตามก็ยังเป็นที่ถกเถียงจากหลายภาคส่วนว่าการทดลองในสัตว์นั้นจำเป็นจริงหรือไม่ และยังคงมีการหาวิธีการทดแทนอยู่เสมอเช่นการทดลองในเซลล์ แม้จะยังไม่สามารถทดแทนการทดลองในสัตว์ได้อย่างเต็มที่

ในตอนนี้มีประเทศที่แบนการทดลองเครื่องสำอางค์ในสัตว์ 40 ประเทศ รวมถึงบางรัฐในสหรัฐอเมริกา และมีสินค้ากว่า 2000 แบรนด์ที่ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบจนถึงการผลิตไม่มีการทดลองในสัตว์ แต่ยังมีอีกหลายประเทศที่ยังเพิกเฉยต่อปัญหา หนึ่งในจุดเริ่มต้นที่เราสามารถทำได้คือการไม่สนับสนุนสินค้าที่มีการทดลองในสัตว์ เพราะ ไม่มีสัตว์ตัวไหนสมควรตายหรือทุกข์ทรมานในนามของความงามคงต้องรอดูกันว่าประโยคทรงพลังที่ปิดท้ายแอนิเมชั่นนี้จะติดอยู่ในใจผู้ชมจนเกิดความเปลี่ยนแปลงในธุรกิจความงามได้แค่ไหน

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า