
โรเมลู ลูกากู
ถือเป็นนักเตะรายล่าสุดที่ตกเป็นเหยื่อของการเหยียดสีผิว สำหรับโรเมลู ลูกากู ดาวยิงเบลเยี่ยมวัย 26 ปี ชาวเบลเยี่ยม โดยเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา 2 ก.ย. 62 ในเกมที่ทีม “ชาวเกาะ” กายารี่เปิดสนาม Sardegna Arena ต้อนรับการมาเยือนของ “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน โดยทางลูกากูสวมบทฮีโร่ยิงจุดโทษพาทีมเนรัซซูรี่คว้า 3 แต้มไปครอง โดยในช่วงยิงจุดโทษนี้เองที่แฟนบอลกายารี่ร้องโห่ใส่หัวหอกเบลเยี่ยม
โดยหลังจบเกมลูกากูได้โพสต์อินสตาแกรมระบุว่า “ช่วงเดือนที่ผ่านมามีนักเตะหลายคนที่ต้องอยู่กับความรู้สึกเจ็บปวดจากการถูกเหยียดสีผิว ผมเองก็โดนมาเมื่อวาน ฟุตบอลคือเกมที่ทุกคนควรมีความสุขไปกับมัน เราไม่ควรยอมรับพฤติกรรมการเหยียดผิวไม่ว่าจะรูปแบบใดก็ตาม ซึ่งมันจะทำให้เกมฟุตบอลมีรอยด่างพร้อย ผมหวังว่าสมาคมฟุตบอลทั่วโลกจะจัดการการเหยียดอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในโซเชียลมีเดีย ทุกวันนี้คุณสามารถเห็นข้อความเยียดสีผิวอย่างน้อยหนึ่งข้อความในโพสต์ของคนผิวสี เป็นเรื่องที่เราคุยกันมาหลายปีแต่แก้ปัญหากันไม่ได้เลย ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี นี่มันปี 2019 แล้ว แทนที่เราจะก้าวไปข้างหน้า เรากลับก้าวถอยหลัง ในฐานะนักเตะ ผมคิดว่า เราควรร่วมมือกันและแถลงการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อให้กีฬาชนิดนี้สะอาดและสนุกสำหรับทุกคน”

อันโตนิโอ คอนเต้
ด้านอันโตนิโอ คอนเต้ กุนซืออินเตอร์ มิลาน ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า “เอาจริงๆ ผมไม่ได้ยินเสียงอะไรจากแฟนบอลกลุ่มนั้นหรอกนะ อย่างไรก็ตามผมก็ยังเห็นด้วยว่าทั่วทั้งอิตาลีควรได้รับการศึกษาที่มากกว่านี้เพื่อพัฒนาจิตใจผู้คน” ย้อนกลับไปเมื่อฤดูกาลที่แล้วแฟนบอลกายารี่ก็เคยแสดงพฤติกรรมเหยียดสีผิวใส่แบล๊ส มาตุยดิ้ กองกลางชาวฝรั่งเศสของทีมยูเวนตุส แม้แฟนบอลเหล่านั้นจะถูกเรียกตัวไปสอบสวน แต่ทางสมาคมกลับไม่ได้ลงโทษแฟนบอลเหล่านั้นแต่อย่างใด