SHARE

คัดลอกแล้ว

ย้อนคดีใส่ซองทำบุญ 2,000 บาท สู่การแจก ‘ใบส้ม’ ในการเลือกตั้งปี 62 ต้อน กกต. เข้ามุม ต้องชดใช้เป็นเงินสูงถึง 64.1 ล้านบาท

– ขณะที่ รองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย ‘วิษณุ เครืองาม’ ชี้ชัดหาก กกต. แพ้คดี ‘สุรพล เกียรติไชยากร’ อดีต ส.ส. เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ก็ต้องใช้เงินของทางราชการจ่ายชดใช้ ระบุ คดีนี้ยังไม่ถึงที่สิ้นสุด อุทธรณ์ได้

จากกรณี ศาลจังหวัดฮอด พิพากษาให้คณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) เยียวยาให้ นายสุรพล เกียรติไชยากร อดีต ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย จำนวน 64.1 ล้านบาท เนื่องจากให้ใบส้มในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ทำให้หลายคนเกิดข้อสงสัยว่า “ผู้ที่ต้องชดใช้” ให้นายสุรพล คือกกต. ชุดปัจจุบัน 7 คน หรือสำนักงาน กกต. เรื่องนี้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ในวันที่ 21 เม.ย. 2565 ระบุว่า นายสุรพลไม่ได้ฟ้องเป็นรายบุคคล แต่ฟ้องในฐานะที่เป็นองค์กร องค์กรนั้นจึงต้องรับผิดชอบ เหมือนฟ้องนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือแม้กระทั่งกระทรวง

“หากแพ้คดีมาท้ายที่สุดก็ต้องใช้เงินหลวง แต่อย่างไรก็ตามคดีนี้ยังไม่ถึงที่สุด กกต. สามารถอุทธรณ์ต่อได้”

ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนตัวรู้สึกแปลกใจหรือไม่กับกรณีที่เกิดขึ้น นายวิษณุ กล่าวว่า “ไม่มีความเห็น แต่ กกต.สู้คดีอย่างไงถึงแพ้ ผมยังงงอยู่เหมือนกัน เพราะต้องคิดก่อนที่จะมีคำสั่งออกไป เข้าใจว่า กกต. ต้องเชื่อหลักฐานที่มี แต่นายสุรพลไปงัดเอาหลักฐานอื่นที่เหนือกว่าขึ้นมา สุดท้ายแพ้คดี”

“ส่วนที่สื่อถามสุดท้ายแพ้คดีใช้เงินใครควักนั้น กกต. แต่ละคนที่ออกคำสั่งไป ไม่ได้สั่งโดยเถยจิต หรือเจตนาร้ายเป็นส่วนตัว เป็นการทำในหน้าที่ราชการ เหมือนตำรวจกระทำผิดแล้ว เราฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ถ้าแพ้คดี เราจะฟ้องตำรวจไม่ได้ หากแพ้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ต้องควักเงินจ่าย เพราะถือว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติตามหน้าที่ ซึ่งแต่ละปีรัฐควักงบประมาณจ่ายเพื่อการเช่นนี้มากอยู่” รองนายกฯ วิษณุ กล่าว

‘สุรพล’ ดีใจเรียกศักดิ์ศรีกลับคืนมาได้

เมื่อวานนี้ นายสุรพล เกียรติไชยากร อดีตผู้สมัคร ส.ส. เชียงใหม่ เขต 8 พรรคเพื่อไทย เปิดแถลงข่าวที่โรงแรมฟูรามา เชียงใหม่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ระบุว่า ศาลจังหวัดฮอดได้พิพากษาคดีที่นายสุรพล ฟ้องเรียกร้องความเป็นธรรมให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ชุดปัจจุบันเยียวยา จากกรณีวินิจฉัยโดยไม่ให้ความเป็นธรรม รวบรัด เร่งรีบ ไม่ได้ไตร่ตรองวินิจฉัยอย่างรอบคอบ แล้วให้ ‘ใบส้ม’ ใบแรกของประเทศไทยกับตนในช่วงที่มีการเลือกตั้ง ปี 2562

จนกระทั่งในที่สุด ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งได้วินิจฉัยว่า ตนไม่มีความผิด จึงฟ้องเรียกค่าเสียหาย จาก กกต. ที่ทำให้เสื่อมเสียเกียรติในฐานะ ส.ส. 8 สมัย จำนวนเงิน 86 ล้านบาท ซึ่งศาลได้วินิจฉัยให้ กกต. ชดใช้เป็นวงเงิน 64.1 ล้านบาท 

“วันนี้ดีใจเป็นอย่างยิ่งที่สามารถเรียกร้องศักดิ์ศรีคืนมาให้ตัวเองและพรรคเพื่อไทยได้ว่า เราไม่เคยใช้เงินซื้อเสียง เราได้คะแนนมาอย่างยุติธรรมขาวสะอาด โดยการเลือกตั้งครั้งต่อไป จะลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคเพื่อไทยในพื้นที่เดิมอย่างแน่นอน” นายสุรพล กล่าวระหว่างการแถลงข่าวที่ จ.เชียงใหม่

กกต. ยังไม่เคลื่อนไหวต่อกรณีนี้

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปทางสำนักงาน กกต. ในเวลาประมาณ 14.30 น. วันนี้ ทางด้าน กกต. ยังไม่มีความเคลื่อนไหวในการจะชี้แจงประเด็นดังกล่าว ทราบเบื้องต้นว่า กกต. อยู่ระหว่างหารือ

ย้อนเหตุการณ์คดีแจก ‘ใบส้ม’ เลือกตั้งปี ’62

กกต. ได้มีแจก ‘ใบส้ม’ ให้ นายสุรพล เกียรติไชยากร ผู้สมัคร ส.ส. เชียงใหม่ เขต 8 ส่งผลให้ระงับสิทธิ์เลือกตั้ง 1 ปี และให้จัดการเลือกตั้งใหม่ (เลือกตั้งซ่อม) เนื่องจากเรื่องร้องเรียนใส่ซองทำบุญ พระสงฆ์ 2,000 บาท เข้าข่ายผิดพ.ร.บ.เลือกตั้งส.ส. มาตรา73 (2) ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้เงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมแก่ชุมชน สมาคม มูลนิธิวัด สถานศึกษา สถานสงเคราะห์ หรือ สถาบันอื่นใด

ต่อมาเมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2562 นายสุรพล ได้ชี้แจงว่า ถูกจัดฉาก ยืนยันเมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2562 ขณะเดินทางไปถวายปัจจัยจำนวน 2,000 บาท ให้ครูบาสามฐานวโร เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยพระเจ้า ที่บ้านกู่ฮ้อ ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เป็นการถวายปัจจัยส่วนตัว เพราะครูบาสามฐานวโร เป็นพระที่เคารพนับถือ จากนั้นครูบาสามฐานวโรได้ทำเทียนสะเดาะเคราะห์มอบให้ แต่กลับมีบุคคลบางกลุ่มจัดฉากถ่ายภาพตนและส่งเรื่องร้องเรียนไปที่ กกต.

จนกระทั่ง ปี 2563 ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งมีคำพิพากษา ได้ยกคำร้องกรณีที่กกต. ให้ใบส้มหรือเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของนายสุรพล ไว้เป็นการชั่วคราว 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 23 เม.ย. 2562 ซึ่งนายสุรพล ได้ฟ้องเรียกค่าเสียหายจาก กกต. พร้อมให้คืนสิทธิ์ ส.ส. จาก ผู้ชนะเลือกตั้งซ่อม คือนางศรีนวล บุญลือ ส.ส. เชียงใหม่ เขต 8 พรรคภูมิใจไทย ที่ขณะนั้นลงสมัครรับเลือกตั้งในนาม พรรคอนาคตใหม่

ที่มาที่ไปของคำว่า ‘ใบส้ม’ คนแรกของประเทศไทย

เดิมที การลงโทษผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ของกรรมการคือ กกต. ในประเทศไทย มีเฉพาะการให้ ‘ใบแดง’ และ ‘ใบเหลือง’ ที่เปรียบเทียบเหมือนการลงโทษในกีฬาฟุตบอล แต่ ‘ใบส้ม’ เป็นนวัตกรรมที่เพิ่งเกิดขึ้นจากการมีรัฐธรรมนูญ ปี 2560 เป็นโทษที่ กรรมการเห็นว่า ควรให้ผู้สมัครคนนั้น ระงับสิทธิ์เลือกตั้ง ให้ออกจากการแข่งขันไปก่อน 1 ปี แต่ยังไม่ถึงขั้นให้ ‘ใบแดง’

โดยอยู่ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 132 ที่ระบุว่า “ก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง  ถ้าคณะกรรมการสืบสวนหรือไต่สวนแล้วเห็นว่า มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าผู้สมัครผู้ใดกระทําการอันเป็นเหตุให้การเลือกตั้งนั้นมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม หรือมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าผู้สมัครผู้ใดก่อให้ผู้อื่นกระทํา สนับสนุน หรือรู้เห็นเป็นใจ ให้บุคคลอื่นกระทําการดังกล่าว หรือรู้ว่ามีการกระทําดังกล่าวแล้วไม่ดําเนินการเพื่อระงับการกระทํานั้น ให้คณะกรรมการสั่งระงับสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้สมัครที่กระทําการเช่นนั้นทุกรายไว้เป็นการชั่วคราว เป็นระยะเวลาไม่เกินหนึ่งปีนับแต่วันที่คณะกรรมการมีคําสั่ง และในกรณีที่ผู้นั้นได้คะแนนอยู่ในลําดับที่จะได้รับการเลือกตั้ง ให้สั่งยกเลิกการเลือกตั้งและให้มีการเลือกตั้งใหม่”

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

ศาลสั่ง กกต. จ่าย 64.1 ล้าน เซ่นแจก ‘ใบส้ม’ เลือกตั้ง ปี 62

ผู้สมัคร ส.ส. เขต 8 เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ร้องถูกจัดฉากสร้างหลักฐานจนถูกใบส้ม

กกต. ไม่หนักใจ ‘สุรพล’ ขู่ฟ้องตัดสิทธิ์ ส.ส. หลังแพ้คดีให้ใบส้ม ชี้กม.คุ้มครองการใช้อำนาจ

อดีต ส.ส.เพื่อไทยฟ้องกกต.70 ล้าน หลังชนะคดีให้ใบส้มใส่ซองทำบุญ จี้เรียกคืนสิทธิ ส.ส. จาก ‘ศรีนวล’

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า