Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

รู้หรือไม่ว่าประเทศไทยมีธนาคารผิวหนัง หรือ คลังผิวหนัง สำหรับรักษาผู้ป่วยที่ถูกไฟไหม้ เพื่อลดความเจ็บปวดและเสียชีวิต มีประสิทธิภาพในการรักษาสูง สามารถปลูกถ่ายผิวหนังข้ามกรุ๊ปเลือดได้

สภากาชาดไทยได้จัดทำโครงการธนาคารผิวหนัง (skin bank) เป็นครั้งแรกของประเทศไทย และมีระบบการรับบริจาคผิวหนังอย่างครบวงจร โดยก่อนหน้านี้เพจหมอเวรได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับคลังผิวหนังว่า สภากาชาดฯ มีผิวหนังของคนที่มาบริจาคไว้พร้อมช่วยเหลือคนที่ประสบอุบัติเหตุไฟไหม้ หรือน้ำร้อนลวก ข้อดีของการใช้ผิวหนังจริงแบบนี้มารักษา จะช่วยลดอาการบาดเจ็บและเสียชีวิตลงจากผู้ป่วยไฟไหม้ได้เยอะมาก แต่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก หรือรู้กันอย่างแพร่หลายว่ามีการรักษาด้วยวิธีนี้

หมอเวร ระบุว่า การทำแผลผู้ป่วยไฟไหม้ มันไม่สามารถทำแผลได้ง่ายๆ เหมือนผู้ป่วยประสบอุบัติเหตุอื่นๆ เพราะแผลอักเสบจากไฟไหม้นั้นสร้างความเจ็บปวดและทรมานเป็นอย่างมาก เพราะผิวหนังที่ถูกไฟไหม้เบิร์นไปหมดนั้น อย่าว่าแต่เจ็บปวดจากการทำแผลเลย เอาแค่ลมพัดมาโดนร่างกายก็ทรมานทุรนทุรายมากๆ แล้ว อีกทั้งแผลไฟไหม้จะทำให้ร่างกายจะขาดเกราะป้องกันจากเชื้อโรคภายนอก เพราะไม่มีผิวหนังอยู่ และเชื้อโรคจะแทรกผ่านเนื้อเยื่อบริเวณนั้นมาโจมตีเราได้ง่ายมาก ทำให้ส่วนใหญ่ผู้ป่วยไฟไหม้มักจะเสียชีวิตจากการติดเชื้อผ่านผิวหนัง เสียน้ำและเกลือแร่ภายหลังอีกทีได้ด้วย

สมัยก่อนเมื่อแพทย์เจอเคสคนถูกไฟไหม้ สมมุติโดนเบิร์นด้านหน้าร่างกาย วิธีรักษาคือแพทย์จะไถเอาผิวหนังจากด้านหลัง เพื่อมาแปะบริเวณที่มันไหม้ ถ้ามีผิวหนังเหลือใช้รักษาได้แค่ไหนก็ทำได้แค่นั้น บริเวณอื่นทำได้เพียงล้างแผล พันผ้าก๊อซ ทำซ้ำแบบนี้ทุกวันเป็นเดือน สร้างความทรมานต่อผู้ป่วยเป็นอย่างมาก ส่วนใหญ่ต้องวางยาสลบก่อนทำแผลด้วยซ้ำ นึกภาพเราแกะสะเก็ดแผลเล็กๆ ยังเจ็บเลย แต่ถ้าโดนไฟไหม้มาแล้วแกะผ้าก๊อซทั้งตัวเพื่อล้างแผลทุกวันคือเป็นอะไรที่ความเจ็บปวดเกินจินตนาการไปมากๆ เก็ตมะ

  • ผิวหนังจริงรักษาผู้ป่วยไฟไหม้

ถ้าแพทย์ใช้ผิวหนังจริงจากคลังผิวหนังของกาชาดฯ มาปะคนไข้บริเวณที่ถูกไฟคลอกแทนผ้าก๊อซ เทคนิคนี้จะช่วยลดอาการบาดเจ็บดังกล่าวได้หมดเลย รวมถึงทำให้ร่างกายฟื้นฟูได้เร็วขึ้นมากๆ การรับบริจาคอวัยวะในอดีตที่ผ่านมา บางส่วนจะมีการเก็บผิวหนังมาเอาไว้สำรองด้วย ทำให้ตอนนี้ที่กาชาดมีคลังเนื้อเยื่อผิวหนังในสต็อกอยู่พอสมควร

สำหรับขั้นตอนการใช้ผิวหนังเพื่อรักษาคือ แพทย์จะใช้อะไหล่ผิวหนังมาหุ้มแผลที่ถูกไฟไหม้ พูดง่ายๆคือใช้ผิวหนังจริงแทนผ้าก๊อซนั่นแหละ หลักการใช้เหมือนกันเด๊ะ ทำความสะอาดผิวให้เรียบร้อยก็แปะผิวป๊าบลงไปได้เลย

ข้อดี คือ ถ้าใช้หนังจริง 7 – 10 วันถึงแกะเปลี่ยนผิวหนังรอบนึง ต่างจากผ้าก๊อซที่ต้องแกะล้างแผลทุกวัน สร้างความทรมาณให้กับผู้ป่วยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก รวมถึงการใช้ผิวหนังจริงมาหุ้มไว้จะช่วยลดการติดเชื้อและให้เนื้อเยื่อผิวหนังของเราสมานกันเองได้ดีกว่า รวมถึงพอมีชั้นผิวมาคลุมไว้แบบนี้ทำให้ร่างกายไม่สูญเสียโปรตีน แร่ธาตุ และน้ำเหลืองออกมาภายนอก ลดอาการอักเสบตัวบวม และเพิ่มโอกาสรอดชีวิตให้กับผู้ป่วยเป็นอย่างมาก

หากเทียบกับค่าใช้จ่ายผิวหนังแท้กับผ้าก๊อซที่ต้องเปลี่ยนหลายสิบม้วนต่อการรักษาแผลไฟไหม้แล้ว ผิวหนังแท้ถือว่ามีค่าใช้จ่ายที่ถูกและคุ้มค่ากว่า จริงอยู่ที่โลกเรามีเทคโนโลยีผิวหนังเทียมแล้ว แต่ทว่าค่าใช้จ่ายยังมีราคาที่ค่อนข้างสูง ถ้าเป็นผิวหนังจากคลังกาชาดฯ ค่าใช้จ่ายตก 27 บาทต่อตร.เซนติเมตรเท่านั้น

หมอเวร ให้ข้อมูลว่า ถ้าเป็น Euro Skin Bank ที่ยุโรป อย่างของเนเธอร์แลนด์คิดที่ 51.80 บาทต่อตารางเซนติเมตร (ตร.ซม.) หรืออย่างเยอรมนีคิดค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 64 บาท/ตร.ซม. เรียกว่าราคาที่กาชาดไทยเคาะออกมานั้นถูกกว่าต่างประเทศเยอะ และเป็นราคาต้นทุนในการเก็บรักษาผิวหนังล้วนๆ ไม่เจือปนกำไรแม้แต่สตางค์เดียว

  • ต้องการผิวหนังจริงรักษาผู้ป่วยไฟไหม ติดต่อ สายด่วน 1666 สภากาชาดไทย

ปัจจุบันที่กาชาดไทยมีผิวหนังอยู่ในสต็อกอยู่เกือบ 100,000 ตารางเซนติเมตร ใช้รักษาได้อีกหลายชีวิต และสามารถเบิกมาใช้ได้ทันทีถ้ามีเหตุต้องการเร่งด่วน ที่สำคัญสำหรับคนไข้บางรายหากที่ไม่มีกำลังทรัพย์รักษาตัวเองจริงๆ ทางกาชาดก็ให้ความอนุเคราะห์ดูแลค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ให้ด้วย

เอาจริงๆ จนถึงทุกวันนี้ยังมีคุณหมอที่เพิ่งทราบว่า ประเทศไทยมีคลังผิวหนังที่กาชาดอยู่เป็นประจำ คนส่วนใหญ่และอาจารย์หมอหลายๆ ท่านอาจยังไม่ทราบว่ากาชาดคอยช่วยเหลือผู้ป่วยไฟไหม้แบบนี้ด้วย ทำให้คนไข้อาจต้องรักษาด้วยวิธีพันผ้าก๊อซแบบเดิม ทั้งที่ผิวหนังพวกนี้ปลอดภัย ส่วนใหญ่จัดเก็บจากคนที่สมองตาย และบริจาคอวัยวะเอาไว้แล้ว ซึ่งคนที่รับการปลูกถ่ายผิวหนังแบบนี้ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการเข้ากันได้ของผิวหนังใหม่กับร่างกายเดิมเลย สาเหตุก็เพราะว่าผิวหนังแท้เป็นผิวหนังที่ตายแล้ว

  1. สามารถปลูกถ่ายให้กันข้ามกรุ๊ปเลือดได้

2. ผิวหนังที่เตรียมใช้รอปลูกถ่ายนั้นมีความสะอาดเป็นอย่างมาก ผ่านการฆ่าเชื้อโดยการแช่ผิวหนังในน้ำยาฆ่าเชื้อมาแล้วเป็นอย่างดี สะอาดถึงระดับที่ว่าคนที่ติดเชื้อ HIV เวลาบริจาคผิวหนังทิ้งไว้ น้ำยาที่ใช้จัดเก็บก็สามารถฆ่าเชื้อ HIV ได้เลย ฉะนั้นปลอดภัยหายห่วงได้เลย

ถ้าผู้ป่วยเคสไฟไหม้จากเคสผับที่สัตหีบ หรือกรณีเกิดการเบิร์นหรือน้ำร้อนลวกไม่ว่าจากเหตุการณ์ไหนก็ตาม หากต้องการผิวหนังเพื่อนำมาใช้รักษา แนะนำให้คนไข้หรือญาติแจ้งคุณหมอเจ้าของไข้ผ่านไปทางกาชาดได้เพื่อติดต่อขอรับผิวหนังจริงได้ตรงไปที่กาชาดเบอร์ 1666 เพื่อเพิ่มโอกาสรอดชีวิตผู้ป่วย

สำหรับการดำเนินงานของธนาคารผิวหนัง จะเป็นรูปแบบการขอรับบริจาคผิวหนัง เช่นเดียวกับการขอรับบริจาคอวัยวะหรือเนื้อเยื่อต่างๆ ซึ่งผิวหนังที่ได้รับบริจาคจะนำไปใช้รักษาให้กับผู้บาดเจ็บมีแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวกรุนแรง เนื่องจาก แผลไฟไหม้ผิวหนังชั้นนอกจะถูกทำลาย ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญทำให้เกิดการติดเชื้อ และเกิดพังผืด ทำให้เกิดบาดแผล หดรั้งจนทำให้เกิดความพิการ ทางร่างกาย และเสี่ยงทำให้เสียชีวิต

นพ.วิศิษฎ์ ฐิตวัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย ให้ข้อมูลผ่านไทยพีบีเอสว่า การรักษาบาดแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก แพทย์จะกำจัดผิวหนังที่ถูกทำลายออกไปให้หมด รักษาบาดแผลให้ปลอดเชื้อ เตรียมความพร้อมในการปลูกถ่ายผิวหนังลงไปทดแทน ในระหว่างนี้จะต้องใช้วัสดุปิดแผลชั่วคราวเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ทำให้แผลสมานตัว เมื่อผิวหนังเริ่มสร้างเซลล์ทดแทนจึงนำวัสดุปิดแผลออก ปัจจุบันวัสดุปิดแผลชั่วคราวที่ใช้อยู่แพร่หลายมีหลายชนิด ทั้งวัสดุชีวภาพ วัสดุสังเคราะห์ วัสดุวิศวกรรม มีลักษณะเป็นแผ่นฟิล์มสีขาวบางๆ แต่มีราคาแพง หากสามารถใช้ประโยชน์จากการบริจาคผิวหนังได้ ก็จะสามารถลดต้นทุนและช่วยเหลือชีวิตผู้ป่วยได้มากขึ้น

ทั้งนี้ ศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย พร้อมให้บริการผิวหนังสำหรับปลูกถ่ายเพื่อช่วยชีวิตผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ไม่คิดมูลค่าจำนวน 30 คน ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 กันยายน 2565 โดยสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ คลังเนื้อเยื่อ ศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย โทร 1666, 0 2256 4045-6 ต่อ 2508, 09 2247 9864 เฉพาะสำหรับโรงพยาบาลที่ต้องการใช้เนื้อเยื่อผิวหนังจาก

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า