สัมภาษณ์ 2 ผู้กำกับหน้าใหม่จากเรื่อง ‘ส้มป่อย’ หนังไทยที่ฉีกกฏสาวเหนือผู้อ่อนหวาน

สัมภาษณ์ 2 ผู้กำกับหน้าใหม่จากเรื่อง ‘ส้มป่อย’ หนังไทยที่ฉีกกฏสาวเหนือผู้อ่อนหวาน กับความคลั่งรักแบบไม่ต๊ะต่อนยอน

‘ส้มป่อย’ ภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้ฉบับล้านนา ที่จะมาม่วน บ้า ฮาไปกับส้มป่อย สาวโสดที่ใครก็ต้องตกหลุมรัก มาพร้อมกับความคลั่งรักแบบไม่ต๊ะต่อนยอน และฉากหลังอันสวยงามของภาคเหนือ เรื่องล่าสุดจาก ‘เอ็ม พิคเจอร์ส’ ผลงานกำกับของ 2 ผู้กำกับหน้าใหม่ ‘ค็อป-อนวรรษ พรมแจ้ เเละ โจ้-อรุณกร พิค’ พร้อมได้ ‘โขม-ก้องเกียรติ โขมศิริ’ มานั่งเเท่นโปรดิวเซอร์ เเละยังได้นางเอกสาวเหนือ น้ำตาล-พิจักขณา มารับบท ‘ส้มป่อย’ ร่วมด้วยสอง ตี๋-ธนพล กับบท ‘แซ้ป’ และ ป๊อบ-ธัชทร ในบท ‘แวน’ พร้อมทีมนักแสดงอีกมากมาย

แน่นอนว่า workpointTODAY PLAY ได้มีโอกาสร่วมพูดคุยกับ 2 ผู้กำกับหน้าใหม่ ‘ค็อป-อนวรรษ พรมแจ้ เเละ โจ้-อรุณกร พิค’ ถึงภาพยนตร์ ‘ส้มป่อย’ หญิงสาวผู้ลบภาพ “เอื้องเหนือ” ผู้เรียบร้อยฉบับต๊ะต่อนยอน ให้กลายเป็น คนตรงไปตรงมา พร้อมพุ่งชน เเละเบื้องหลังการทำงาน ความพิเศษของภาพยนตร์เรื่องนี้ 

‘ค็อป-อนวรรษ พรมแจ้ เเละ โจ้-อรุณกร พิค’ 2 ผู้กำกับหน้าใหม่

จุดเริ่มต้นของภาพยนตร์ ‘ส้มป่อย’

ค็อป-อนวรรษ :: เริ่มต้นมาจากเพจเฟซบุ๊กใช้ชื่อว่าเพจ “ของว่าง” ก็คือทำการ์ตูนแก๊กภาษาเหนือ เเล้วรู้สึกว่าคนตอบรับ ยอดผู้เข้าชมเยอะมาก ก็เลยรู้สึกว่า ขนาดการ์ตูนเป็นสิ่งที่ คนภาคเหนือไม่ค่อยคุ้นเคยลายเส้นญี่ปุ่น เขายังสนใจ เเล้วถ้าการ์ตูนมีตัวตนขึ้นมาจริงๆ ล่ะ ถ้ามีการเคลื่อนไหวแบบมนุษย์จริงๆ ขึ้นมา ก็น่าจะสนใจมากขึ้น มีเสียงมีอะไรเพิ่มมากขึ้นด้วย ก็เลยนำมาสู่การทำเรื่องนี้ขึ้นมา จากนั้นก็เลยชวนพี่โจ้ เข้ามาร่วมโปรเจกต์กัน เพราะว่าพี่โจ้ก็เป็นคนทำหนังในเชียงใหม่

โจ้-อรุณกร :: เเละผมมีไอเดียที่อยากจะทำสื่อบางตัว ที่มันเฉพาะของภาคเหนืออยู่แล้ว เเต่ผมมีแค่ไอเดียลอยๆ ยังไม่รู้จะทำอะไร เป็นช่วงพอดีที่ ค็อป เอ่ยถึงโปรเจกต์ตัวนี้ที่อยากทำขึ้นมาพอดี ผมก็พร้อมร่วมโปรเจกต์เลยทันที

ที่มาของชื่อตัวละคร ‘ส้มป่อย’

ค็อป-อนวรรษ :: อย่างส้มป่อย คือจากไอเดียดั้งเดิม เป็นสิ่งที่ผจญภัยกับประเพณีภาคเหนือเยอะอยู่ประมาณนึง เเล้วก็รู้สึกว่าส้มป่อยเป็นไม้มงคลที่แทบจะอยู่ในทุกประเพณีของภาคเหนือเลยมั้ง ก็เลยรู้สึกว่าชื่อนี้ พอพูดออกไปจะรู้สึกถึงความล้านนา ประเพณีในภาคเหนือ จึงเป็นที่มาของชื่อนี้ 

คาเเรกเตอร์ของตัวละครหลัก ส้มป่อย, แซ้ป และ แวน

ค็อป-อนวรรษ :: ส้มป่อยเป็นสาวเหนือค่อนข้างที่จะตรง โผงผาง คิดอะไรเเล้วก็พูดออกมาแบบนั้น ทำอะไรทำจริง เเล้วก็ทำสุดด้วย แต่ที่การกระทำที่ทำออกไปแบบสุดๆ ก็มีเรื่องราวที่เป็นปมปัญหาในใจ ทำให้แสดงออกมาแบบนั้น เหมือนตัวละครก็มีความบอบบางในใจแม้จะแสดงออกมาแบบโผงผาง ชอบกินเหล้า ชอบนั่น ชอบนี่ ดูเหมือนไม่สนอะไร แค่สนุกไปวันๆ แต่ในความสนุกนั้นนะ มีอะไรอยู่ข้างในตัว

ส่วนตัวแซ้ป แซ้ปเป็นเจ้าทรงกำมะลอคนหนึ่ง ที่รู้สึกว่าเขาโหยหาผู้คน ที่จะยอมรับอะไรบางอย่างในตัวเขา เลยพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะอยากเป็นที่สนใจในหมู่บ้าน เเล้วการเป็นเจ้าทรงมันก็ตอบรับสิ่งนั้น เพราะคนดันมาสนใจ รวมไปถึงตัวส้มป่อยด้วย

โจ้-อรุณกร :: แวนเป็นหนุ่มกรุงเทพฯ ที่เหมือนจะขาลุย สบายๆ ชอบผจญภัย แล้วเหมือนพอดีประจวบเหมาะมาเจอความพื้นบ้านมากๆ ของส้มป่อย เเล้วก็มีบางอย่างที่ทำให้แวนคลิ๊กในตัวส้มป่อย

‘ส้มป่อย’ กับความคลั่งรักแบบไม่ต๊ะต่อนยอน

ค็อป-อนวรรษ :: คือปกติเราดูแบบละครเหนือหรืออะไรแบบนี้ จะติดภาพสาวเหนือ อ่อนแอ เรียบร้อย อ่อนหวาน ต๊ะต่อนยอน เเล้วก็ตอนสุดท้ายน่าจะเกือบทุกเรื่องนางเอกตายหมดเลย ผมก็เลยรู้สึกว่า สาวเหนือถูกทรีตให้เป็นภาพจำแบบนี้มาตลอด ไม่ว่าจะยุคไหนๆ ก็เลยรู้สึกว่าถ้าเราจะทำให้ภาพสาวเหนือดูใหม่ไม่เหมือนเดิม มันต้องฉีกทุกอย่าง ตัวส้มป่อยเลย ฉันไม่ต๊ะต่อนยอนนะ ฉันขาแรงนะ รักใครฉันพุ่งนะ คำที่คลั่งรักแบบไม่ต๊ะต่อนยอน ตรงนี้น่าจะตอบโจทย์ที่สุดเลย เป็นสาวเหนือที่พุ่งเข้าหาเลย 

โจ้-อรุณกร :: เหมือนเราพยายามเล่นอะไรที่มันเป็นขั้วตรงข้ามของสาวเหนือในอุดมคติ เหมือนเราจะมีภาพจำของสาวเหนือมาตลอดว่า สาวเหนือต้องเป็นแบบนี้ รู้สึกว่ามันไม่เสมอไป ยังมีเหนืออีกหลายรูปแบบ ในตัวอย่างหนังก็น่าจะเห็นชัดเเล้วว่ายังมีเหนืออีกตัวละครหนึ่ง 

ค็อป-อนวรรษ :: เราคุ้นชินกับเหนือที่อยู่ในสื่อ เป็นเหนือสวยงามซะส่วนใหญ่ เหนือแบบฟ้อน ชุดพื้นเมือง หรือว่าสถานที่ท่องเที่ยว แต่ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ เหมือนพาคนไปค้นหาว่า นอกจากเหนือที่เราเห็นว่ามันสวยงาม ยังมีเหนืออีกรูปแบบหนึ่งนะ เหนือดิบๆ การกินลาบดิบ การทรงเจ้าเข้าผี การรำฟ้อนแบบผี รำดาบ ซึ่งทั้งสองอัน ถ้าให้นิยามขึ้นมาก็แบบ เหนือสวยงาม กับเหนือดิบๆ แต่เหนือสวยงามก็ป่วงได้นะ เช่น ส้มป่อยใส่ชุดพื้นเมืองก็เถิดเทิงได้ เหนือแบบดิบๆ กินลาบดิบอยู่ก็โรแมนติกได้ เรารู้สึกว่าน่าจะได้เห็นสองขั้ว สองอันที่แตกต่างกัน แล้วดูบาลานซ์กันได้

เป็นอย่างไรบ้างหลังได้ ‘น้ำตาล’ มารับบท ‘ส้มป่อย’ , ‘ตี๋’ มารับบท ‘แซ้ป’ เเละ ‘ป๊อป’ มารับบท ‘แวน’

ค็อป-อนวรรษ :: ผมติดตามผลงานพี่น้ำตาลมาตั้งแต่ตอนที่เขาเล่นหนังสั้นให้สายป่าน หนังเรื่องนั้นทำให้ภาพลักษณ์พี่น้ำตาลดูเป็นสาวเหนือที่เล่อค่าประมาณหนึ่ง แต่มีอยู่คลิปหนึ่งที่พอค้นหาชื่อน้ำตาลปุ๊ปก็จะเจอ เป็นละครที่เล่นกับเคน-ภูภูมิ ซึ่งมีช็อตหนึ่งที่พูดเหนือ โอ้โห ถึงพริกถึงขิง มากไม่ต่อนยอนนะ และเป็นผู้หญิงที่พูดเหนือเเล้วมันส์มาก เมื่อพอได้พูดคุยกับพี่น้ำตาล ก็รู้สึกได้เลยว่าแบบพี่น้ำตาลมีวัตถุดิบความเป็นพื้นบ้านอยู่ แม้ภาพลักษณ์จะดูสวย ไฮโซ แต่เขาเติบโตค่อนข้างที่จะคล้ายกับส้มป่อยเหมือนกันนะ พี่น้ำตาลมีย่าหรือยายเนี่ยเเหละเป็นร่างทรง แล้วก็กินลาบด้วย มีเพื่อนต่างจังหวัด คือรู้สึกแบบพี่น้ำตาลเนี่ยเเหละส้มป่อย

โจ้-อรุณกร :: ผมก็เห็นเหมือนที่ค็อปเห็น ก็คาดหวังว่าน้ำตาลจะเล่นได้ เเล้วพอเขามาแสดงจริงๆ เขาทำสิ่งนู้นสิ่งนี้ ทุกๆ อย่างที่เขาแสดงออกมา ทุกอย่างที่เขาตีความ ก็เป็นส้มป่อยไปหมดเลย แทบตามภาพที่เราเห็นเลย รู้สึกโชคดี ทุกอย่างดูราบรื่นจนน่าตกใจ เขาทำทุกอย่างให้ดูเป็นส้มป่อยหมดเลย

โจ้-อรุณกร ::  สำหรับตี๋ ไม่ได้ตรงกับคาเเรกเตอร์แซ้ป ที่เราวางไว้ตอนแรก เเต่ว่าตี๋ก็มีวิธีในการเป็นแซ้ปอีกรูปแบบหนึ่ง ก็ดูเป็นแซ้ปอีกทางหนึ่ง เราได้เห็นแซ้ปในแบบทะเล้น เเละน่ารัก

ค็อป-อนวรรษ :: ป๊อป จริงๆ เจอป๊อป น้อยมากก่อนที่จะได้เข้ากองถ่าย แต่สำหรับผมรู้สึกว่าป๊อปเป็นคนที่ทำการบ้านได้ดี แล้วก็ป๊อปเป็นคนเดียวที่พูดเหนือไม่ได้ในกอง ก็เลยทำให้ป๊อปดูมีลุกหนุ่มกรุงเทพฯ จริงๆ และรู้สึกมีความเป็นแวนอยู่ประมาณหนึ่ง

โจ้-อรุณกร :: ที่จริงมีเซอร์ไพรส์และชอบก็คือ สไปร์ท เพื่อนนางเอกรู้สึกว่าเขามีการเล่นนอกบทที่ดี คืออะไรที่อยู่นอกบท สไปร์ททำได้ดี อะไรที่มาเล่นคิดเองหน้ากอง ในบทก็ทำได้ดี เพราะอาจจะด้วยลูกเล่นหรือจุดขายที่เขามีอยู่เเล้ว

ค็อป-อนวรรษ :: นักแสดงท่านอื่นๆ อีกก็ศิลปินล้านนา ทั้งพี่แอน ที่เป็นช่างซอ พี่แอนเล่นมาตั้งเเต่เวอร์ชั่นเเรกเลย เเล้วคนก็ติดใจในการพูดเก่งของเขา รวมถึงมีพี่เหินมาสร้างสีสันด้วย จริงๆยังมีตัวละครอีกหลากหลายที่ยังถูกซ่อนไว้ในเรื่องอีก ส้มป่อยที่ว่าเหนือเเล้ว ยังมีเหนือกว่านั้นอีก

สิ่งที่ผู้ชมจะได้เห็นจากภาพยนตร์ส้มป่อย

โจ้-อรุณกร :: ภาพยนตร์เรื่องนี้มีสิ่งที่ถูกพูดถึงอยู่มากๆ คือการเป็นใครสักคนในพื้นที่ของตัวเอง พอตามหาการยอมรับในพื้นที่ตัวเองไม่ได้ ถึงออกไปหาคุณค่าในพื้นที่อื่นๆ ทั้งๆ ที่ที่ตัวเองอยู่เราก็สามารถเป็นใครสักคนได้ที่มีความสุข

ค็อป-อนวรรษ :: ผมเพิ่มเติมจากพี่โจ้นิดนึง เหมือนภาพยนตร์เรื่องนี้จะชวนกันมาตั้งคำถามว่า ความเหนือที่เราเห็น เป็นยังไงกันแน่ จริงๆ แล้วเป็นแบบไหน อย่างตอนปล่อยทีเซอร์ออกไป ทุกคนก็เถียงกันเรื่องสำเนียงเเล้ว เชียงใหม่ เเพร่ ลำพูน ลำปาง อะไรแบบนี้ ซึ่งมีการตั้งคำถาม แพร่ก็เหนือ เชียงใหม่ก็เหนือเหมือนกัน เเล้วเหนือจริงๆ คืออะไร เหนือแบบฟ้อน เหนือแบบลาบ ลาบก็เหนือ เจ้าทรงก็เหนือ จึงชวนมาค้นหาดีกว่าว่าแบบเหนือจริงๆ เป็นอย่างไร 

เสน่ห์ของภาพยนตร์เรื่องส้มป่อย

โจ้-อรุณกร :: ผมว่าเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม หนังพื้นที่ก็จะมีความเฉพาะในตัวอยู่เเล้ว ส้มป่อยก็คือหนังภาคเหนือพื้นที่หนึ่ง ที่มีเรื่องเล่า มีวัตถุดิบ ที่ให้เราเลือกจับมาใช้เล่า

ค็อป-อนวรรษ :: เรื่องนี้เรากำลังเล่นสนุกกับวัฒธรรม ปกติเราจะเห็นวัฒธรรมมีไว้สวยงาม แต่เรื่องนี้เราสนุกกับมันเเล้วเรารู้สึกว่ามันจับต้องได้ เเละยังคงความสวยงามอยู่ได้แม้ว่าจะสนุกสุดเหวี่ยง

ภาพยนตร์ที่ใช้พูดภาษาเหนือทั้งเรื่อง

ค็อป-อนวรรษ ::  ตัวหนังพูดถึงท้องถิ่นซะส่วนใหญ่ พูดถึงชนบท พูดถึงวิถีชีวิต เเล้วก็รู้สึกว่าทั่วประเทศมีชนบท ต่างประเทศก็ยังมีชนบท แบบมีบ้านนอกเป็นของตัวเอง สิ่งนี้น่าจะเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับคนหมู่มากได้มั้ง ในทางที่ไม่ใช่คนภาคเหนือจะสนใจสิ่งนี้ไหม จะสนใจความท้องถิ่นของภาคเหนือ หรือคนเขาสนใจวัฒนธรรมภาคเหนือ อยากรู้ว่าเหนือมีอะไรบ้าง บางทีอาจจะไม่ได้มีเเค่ฟ้อน แค่รำแบบที่เราเคยเห็นก็ได้ มันมีอะไรอีกเยอะ เรื่องนี้น่าจะตอบโจทย์เรื่องว่า เหนือมีอะไรบ้างนอกจากรำ จากฟ้อน จากวัด

จากทีเซอร์ ‘ส้มป่อยเดอะมูฟวี่ บันทึกลับฉบับคนเมียง’ สู่ภาพยนตร์ ‘ส้มป่อย’ หนังเข้าโรงในปัจจุบันรู้สึกอย่างไรบ้าง

โจ้-อรุณกร :: ในมุมหนึ่งก็รู้ว่ามาไกล เกินกว่าที่คาดไหม ก็เกินกว่าที่คาดนะเพราะว่า เหมือนตอนแรกผมก็ไม่ได้มองว่าจะต้องมาเข้าค่ายหนัง ตอนแรกเหมือนจะหาทุนในพื้นที่นั้นเเหละ แต่ก็ไม่ได้ผู้ใหญ่ใจดีอยากมาลงทุนให้ ตอนนั้นก็ยังมองไม่ออกว่าธุรกิจของภาพยนตร์ จะได้อะไรกลับมา จนสุดท้ายมาลองกับค่ายหนังดู เเเละค่ายหนังก็ตอบรับ ก็รู้สึกว่าเหนือความคาดหมายดี อีกความรู้สึกหนึ่งดีใจที่เหมือนกับมันกำลังจะจบสักที เพราะว่าโปรเจกต์นี้ยืดเวลามานานมาก ตั้งเเต่โควิดเวฟแรก ยันเวฟปัจจุบัน เจอทุกเวฟเลยรู้สึกว่ายืดกว่าปกติ

ค็อป-อนวรรษ :: ผมคิดว่าหนังภาคเหนือไม่ค่อยมี แล้วก็รู้สึกว่าอยากให้มีหนังพูดภาษาเหนือแบบถึงพริกถึงขิงสักเรื่องหนึ่ง ผมขอเพิ่มเติมจากที่พี่โจ้พูดอีกนิดนึงในเรื่องการหาทุน ในส่วนผมว่ามันเป็นความใหม่ของคนที่จะมาลงทุนด้วยมั้ง เพราะว่ายังไม่เคยมีที่แบบเหนือทั้งเรื่อง เเล้วก็ตลาดภาคเหนือ ก็ยังเหมือนเป็นการทดลองอยู่ว่า ถ้ามาทางนี้คนดูจะตอบรับได้ไหม ถ้าพูดภาษาเหนือทั้งเรื่อง แน่นอนเเหละมันอาจจะมีแบบภาคเหนือที่สนใจ แต่ก็ต้องวัดถึงภาคอื่นด้วยว่า ภาคเหนือเราจะแมสแบบเข้าถึงคนทั้งประเทศได้รึเปล่า นี่คือสิ่งที่หนังกำลังจะฉายรอดูผลฟีดแบ็กว่าเป็นอย่างไร

รู้สึกกดดันหรือท้าทายบ้างไหม เนื่องจากทั้งคู่เป็นผู้กำกับหน้าใหม่

โจ้-อรุณกร :: กดดันอยู่เเล้ว ทุกอย่างใหม่หมด ยิ่งตอนเเรกผมมองไว้ว่าเป็นโปรเจกต์ขนาดประมาณไทบ้าน ผมมองขนาดไว้ประมาณนี้ เเต่พอผ่านกระบวนการผ่านอะไรต่างๆ มา มีดาราเข้ามาแสดง มีทีมงานที่ใหญ่ขึ้น เลยทำให้กดดันมากขึ้นไปอีก เราใหม่ก็จริง แต่ไม่ใช่ว่าเราใหม่เเล้วเราจะไม่เตรียมตัว เราเตรียมตัวหนักมากกว่าปกติเลยเพราะเรารู้ว่าเรากำลังจะแบกกองหรือแบกอะไรอยู่ ท้ายที่สุดเเล้วพอเราไปทำงานหน้ากอง ความใหม่เราก็ยังเห็นชัดอยู่ จะแปะป้ายอยู่บนหน้าผากเราเลย ทีมงานทุกคนเห็น นักแสดงเห็นหมด ว่านี่คือผู้กำกับหน้าใหม่ แต่ก็โชคดีที่มีพี่ๆ คอยซัพพอร์ต คอยให้คำปรึกษา

การร่วมงานกับพี่โขม-ก้องเกียรติ

โจ้-อรุณกร :: จริงๆ รู้สึกอุ่นใจ พี่โขมมีประสบการณ์ ด้วยบุคลิกของพี่โขมค่อนข้างเป็นมิตร แม้จะมีลุกดุบ้าง เเต่สำหรับผม ผมโอเค ในแง่การทำงานด้วย ซึ่งพี่โขมก็มองเห็นมุมของพี่เขาว่าควรจะต้องไปในทิศทางนี้รึเปล่า บางครั้งเราอยู่กันเอง 2 คน เราก็มองอยู่เเค่นั้น พี่โขมเป็นคนที่ยืนอยู่ห่างออกมาเเล้วเห็นภาพรวมว่าหนังสามารถไปถึงทิศทางไหนบ้าง พี่โขมให้คำปรึกษาดีครับ

โจ้-อรุณกร :: ที่เราเห็นเยอะๆ เลยคือ ไดเรกชั่น ว่าวิธีการกำกับหนังเรื่องหนึ่งออกมา มีได้ถึงเบอร์ไหน เรามองไว้เเค่เบอร์ประมาณนี้ พี่โขมอาจจะบอกว่าลองเบอร์นี้เผื่อไว้ไหม เผื่อเวลาไปใช้ในตัดต่อ

ค็อป-อนวรรษ :: ผมว่าเป็นเรื่องของกองใหญ่ ในการฝึกจิตวิทยาคุมกองด้วยอันหนึ่ง ที่ได้เรียนรู้นะ เอาจริงๆ เรา 2 คนก็ใหม่กับกองใหญ่ มันมีอะไรมากกว่าการกำกับนักแสดง มันเหมือนต้องกำกับทีมงาน ในทางที่แบบจะสั่งอย่างเดียวก็ไม่ได้ จะอ่อนไปก็ไม่ได้ ผมว่าอันนี้ได้จากพี่โขมด้วย

ฝากภาพยนตร์ ‘ส้มป่อย’ หนังรักคอมเมดี้ฉบับล้านนา

โจ้-อรุณกร :: ฝากด้วยครับเรื่องส้มป่อย เป็นหนังภาษาเหนือก็จริง แต่ว่าดูได้ทุกคนครับผม สนุก

ค็อป-อนวรรษ :: ผมรู้สึกว่าคนภาคเหนือรอคอยที่จะเห็นหนังของเราที่เปลี่ยนภาพลักษณ์ของภาคเหนือให้มองในรูปแบบใหม่ใน 2021 มากขึ้น ก็เลยรู้สึกว่าหลายๆคนรอคอย  อยากดูเพราะว่า ครั้งหนึ่งเราเคยรู้จักภาคเหนือผ่านละครหรือหนังเรื่องต่างๆ รอบนี้ลองมาดูภาคเหนือผ่านส้มป่อยดูว่า จะเป็นยังไงมันอาจจะเป็นมุมมองใหม่ ที่ทำให้คุณมองภาคเหนืออีกแบบก็ได้