SHARE

คัดลอกแล้ว

คงไม่มีประโยคไหนสื่อความป๊อปปูล่าของภาพยนตร์ไทบ้านเรื่อง ‘สัปเหร่อ’ ได้เท่ากับคำว่า “เป็นตางึดหลาย” อีกแล้ว ถึงแม้จะฉายซ้ำไปซ้ำมาตลอดสัปดาห์แต่กระแสยังลู่ลมลอยฟ้าไม่หยุด เปิดรายได้ล่าสุดทะยานสู่ 600 ล้าน ทลายภาพจำหนังทุนต่ำด้วยคุณภาพคับแก้วครองใจทั้งคนทั้งไทย-ลาว

แต่ทุกความสำเร็จล้วนจุดเริ่มต้น ผู้คน ความหลงใหล และแรงสนับสนุน กลายเป็นฟันเฟืองหลักประสานแรงออกมาเป็นผลงานภาพยนตร์ดราม่า-คอมมี้ดี้ชิ้นเยี่ยมส่งตรงจากศรีสะเกษออกสู่สายตาคอหนังไทบ้าน

TODAY มีโอกาสได้พูดคุยกับสองฟันเฟืองหลัก ต้องเต – ธิติ ศรีนวล ผู้กำกับภาพยนตร์ ‘สัปเหร่อ’ และ เสี่ยโต้ง – สิริพงศ์ อังคะสกุลเกียรติ ผู้อำนวยการสร้าง ‘ไทบ้าน สตูดิโอ’ ขุมพลังของภาพยนตร์ทรงคุณค่าเรื่อง ‘สัปเหร่อ’ ถึงแรงบันดาลใจ ความคาดหวัง และความสำเร็จ

แนวคิดอะไรที่ทำให้ ‘สัปเหร่อ’ แตกต่างจากภาพยนตร์เรื่องอื่นในจักรวาลไทบ้าน

ต้องเต : มีแค่ใส่ความเป็นตัวเองลงไป เดิมจักรวาลไทบ้านจะเล่าความเป็นวิถีชีวิตเรียบง่าย นักแสดงส่วนใหญ่ด้นสด แต่เราไม่ได้ทิ้งความเป็นไทบ้านเดิม เราคงไว้ แค่อยากหยิบสิ่งที่เรียนมาพวกสัญลักษณ์หรือคุณค่าความเป็นอีสาน พิธีกรรม ประเพณี ความเชื่อ พยายามเอามาใส่ให้หนังบันทึกพวกนี้ไว้ กลัวว่าเด็กรุ่นใหม่จะไม่ได้เห็นแล้ว เมื่อเด็กรุ่นใหม่ไม่รู้ว่าสิ่งนี้คืออะไรหนังเรื่องนี้จะบันทึกไว้

ต้องเตกับการเติมประสบการณ์ ‘การใช้ชีวิต’ เข้าไปภาพยนตร์

ต้องเต : การไปใช้ชีวิตมามันมีอิทธิพลในการเล่าในหนังเยอะมาก เช่น พ่อกับลูกพูดเรื่องความสุขมันก็เป็นอารมณ์ที่เราไปใช้ชีวิตแล้วเราเรียนรู้ มันอาจจะไม่ใช่คำสละสลวยแต่มันเป็นคำง่ายๆ ที่เราเข้าใจและรู้สึกว่า “นี่เหรอสิ่งที่กูตามหามา” และเราเป็นคนรุ่นใหม่เราตั้งคำถามกับพิธีกรรม หรือความเชื่อต่างๆ จนเราได้คำตอบในมิติของเรา แต่เราก็ไม่ได้เอาคำตอบไปครอบคนดู เราให้ตัวละครตั้งคำถามและให้คนดูวิเคราะห์ เว้นช่องว่างให้คนดูได้คิด แต่ละคนเขาได้ในจุดไหน แตกต่างกันออกไป บางคนทัชใจ บางคนมีประสบการณ์ร่วม บางคนชอบ บางคนก็ไม่ชอบ ขึ้นอยู่กับความคิดของคนดู

บทสัปเหร่อมีการด้นสด ทำไมถึงให้นักแสดงด้นสดแทนเล่นตามบทที่วาง

ต้องเต : ด้นสดน่าจะเป็นสไตล์ของหนังไทบ้านไปแล้ว อาจจะมองว่าเป็นจุดเด่นเลยก็ได้ ในระบบอุตสาหกรรมผมก็ไม่รู้ว่ามันผิดหรือมันถูกแต่เราเชื่อว่าไทบ้านมันทำแบบนี้และเราเองก็ชอบที่จะทำแบบนี้ มันเลยเป็นมาตรฐานหลักของหนังไทบ้าน เราเขียนโครงสร้างไว้แล้วเราก็ไปรอความบังเอิญจากนักแสดง รอนักแสดงเซอร์ไพรส์เรา รู้สึกว่ามันสนุกดี

มีหมุดหมายในใจในการพาหนังไปเดินทางบ้างไหมกับสัปเหร่อ

ต้องเต : จริงๆ อันนี้ก็เป็นประสบการณ์อีกอย่างนึง เราทำหนังมาเราไม่คิดถึงขบวนการส่งหนังชิงรางวัลในต่างประเทศมันเป็นยังไง บางอันเราก็ต้องส่งก่อนซึ่งก็ไม่ทันก็เลยรู้สึกว่าเรื่องต่อไปมันเปิดทางให้เราแล้วว่าเราต้องส่งหนังไปยังไง หนังเรื่องนี้อาจจะส่งไปน้อยด้วยว่าเราไม่รู้จริงๆ แต่ก็จะพยายามให้มันไปไกลที่สุด อยู่ที่คุณภาพของมันด้วย ถ้าดีจริงก็น่าจะไปของมันได้

เห็นต้องเตพูดว่าเป้าหมายของไทบ้านคือการโกอินเตอร์ ตอนนี้มันน่าจะมีโอกาส ในอนาคตหากจะเล่าก็ยังจะยืนพื้นเป็นการพูดถึงเรื่องอีสานส่งไปอยู่ไหม

ต้องเต : ใช่ครับ ยังเป็นเหมือนเดิมไม่ได้เปลี่ยนตัวตน แต่อยากพัฒนาตัวตนของตนเองให้มันเปิดกว้างมากขึ้น แต่ก่อนอาจจะเป็นไทบ้านเดอะซีรีส์ทำหนังให้คนอีสานในเมืองดูแล้วคิดถึงบ้าน แต่ไทบ้านปัจจุบันพยายามทำหนังอีสานให้คนทั้งประเทศดูว่าอีสานเป็นแบบนี้นะ มีวัฒนธรรมแบบนี้ มีวิถีชีวิตแบบนี้

ความเป็นสากลของหนังไทบ้าน คืออะไร

ต้องเต : ความเป็นมนุษย์ครับ เราเชื่อว่าความเป็นมนุษย์ในหนังของเรามีอยู่ค่อนข้างเยอะ ภาษาอาจจะเป็นของเฉพาะถิ่น แต่ความเป็นมนุษย์อาจจะเป็นสากลมากๆ

มุมมองจากผู้อำนวยการสร้างกว่า 6 ปี เห็นการเติบโตของไทบ้านมากขนาดไหน

เสี่ยโต้ง : เห็นการเติบโตของไทบ้านเดอะซีรีส์มาทุกภาค ทุกภาคเขาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ เทคนิคเขาดีขึ้น อุปกรณ์ก็ดีขึ้น นักแสดงมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น เนื้อเรื่อง แง่คิดที่ได้จากหนังคมคายมากขึ้น ฐานลูกค้ากว้างขึ้น ทันทีที่ดูเรื่องสัปเหร่อจบเดินมาเจอต้องเตคำเดียวที่พูดกับเขาว่า “โตเป็นผู้ใหญ่ละ” และก็เป็นความรู้สึกเดียวที่ผมคิดว่าหลังจากดูหนังเรื่องนี้คือทุกคนโตแล้วจริงๆ เป็นภาคที่บรรยายหลังจากดูหนังสั้นที่สุด เพราะปกติหนังซีรีส์ไทบ้านผมจะไม่ดูก่อนหนังฉายโรงเลย จะดูพร้อมกับการฉายโรงกับสื่อทุกๆ ครั้ง

เพราะสมมติไปดูก่อนที่เขาจะทำหนังออกมาฉาย กลัวว่าจะเอาทัศนคติของตัวเองยัดใส่เขามากเกินไปจนหนังเสียความเป็นตัวตนของเขา หรือไปดูแล้ววิจารณ์อะไรออกไปมันจะกดดันน้องๆ มากเกินไป ปกติไทบ้านมีเดดไลน์ส่งหนังให้ กบว.วันไหนก็คือวันนั้น คนอื่นอาจจะส่งก่อนเป็นเดือนหรืออาทิตย์ แต่ไทบ้านไม่ใช่ สมมติหนังจะเข้ารอบสื่อวันไหนก็วันนั้น มีเวลาอีก 2-3 วันก่อนจะเข้าโรงถ้าแก้กันหลังจากไปดูแล้ว เราก็แก้อีก 2 วันแล้วก็ส่ง บางทีพรุ่งนี้หนังจะฉายแล้วยังมาปั๊มใส่ฮาร์ดดิสกันอยู่เลย ฉะนั้นเราก็พยายามไม่ดูก่อนเดี๋ยวได้แก้เยอะ แล้วฉายไม่ทัน เขาจะเสียความเป็นตัวเองด้วยกลัวตรงนั้น

ไทบ้านทิ้งภาพยนตร์ไปโฟกัสที่สื่อแนวอื่นได้ไหม

เสี่ยโต้ง : ทิ้งไม่ได้ ทำหนังไม่เหมือนทำละคร ทำละครจะมีช่องจ้างมีสปอนเซอร์เข้าแล้วเราทำละครไปลง แต่ทำหนังเราหาเงินมาทำแล้วไปวัดดวงในโรงหนัง มีอยู่ช่วงนึงน้องๆ มาคุยว่าต่อไปจะเลิกทำหนัง เพราะทำหนังมันลุ้นเหนื่อยทุกภาค น้องเคยมาคุยว่าบางเพลงมันมีรายได้ 3-4 ร้อยล้านวิวมีรายได้เข้าบริษัท น้องๆ เลยบอกว่าไม่เอาแล้วเฮียไม่อยากจะทำหนังแล้ว อยากจะทำเพลงอย่างเดียวเพราะมันไม่ต้องลุ้นมากดูแลง่ายกว่า

เฮียบอกว่าไม่ได้มันต้องไปด้วยกัน เพลงบางเพลงมันดีที่ตัวของมัน แต่บางเพลงถ้ามันไม่แข็งแรงมากหนังมันจะช่วยให้เพลงไปต่อได้ เขาก็เลยวางเพลงกับหนังมาด้วยกัน สังเกตเพลงของหนังเรื่องสัปเหร่อ สัปเหร่อถ่ายครั้งแรกเมื่อ 4 ปีก่อน ต้องเตมาถ่ายซ่อม เพลงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ‘กอดเสาเถียง’ ทรัพยากรก็มาจากที่ถ่ายเอาไว้เมื่อ 4 ปีก่อน ตอนเราโฆษณาก็มีเพลง ‘ยื้อ’ เตรียมเอาไว้ว่าจะเป็นเพลงของหนังสัปเหร่อ เพลงยื้อถูกเผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ 4 ปีก่อน แต่ก็ถูกร้อยเรียงเข้ามาในภาคนี้ ฉะนั้นสำหรับไทบ้าน หนังกับเพลงมันไปด้วยกัน

นายกรัฐมนตรีเดินทางชมภาพยนตร์ ด้วยตัวเอง ด้วยนโยบายซอฟต์พาวเวอร์มีการพูดคุยทิศทางการสนับสนุนภาพยนตร์เรื่องนี้ไหม

พี่โต้ง : หมอเลี้ยบติดต่อมาบอกว่า เขาเห็นว่าหนังไทยที่ผ่านมาค่ายหนังเล็กๆ หรือใหญ่ก็ตามทุกคนต้องดิ้นรนไปประกวดหนังที่ต่างประเทศกันเอง ด้วยความที่เขาเป็นคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์เลยมองว่าอยากจะมีส่วนในการส่งทีมไทยไปงานเทศกาลหนังสักเทศกาลนึงอย่างที่ใกล้ๆ อาจเป็นโอซาก้าเป็นหนังสัก 2-3 เรื่องเป็นแพ็กมัดรวมกันไป แล้วเขาก็อยากให้สัปเหร่อเป็นหนึ่งในหนังนำ เพราะเขาถือว่าหนังของเรากระแสดีในประเทศไทยและในประเทศลาว ซึ่งเราทำรายได้สูงสุดตลอดกาลไปแล้ว แต่เมื่อไปถึงเวทีระดับนั้นมันจะไปได้ไกลขนาดไหนก็ให้หนังมันทำงานของมันไป

ส่วนตัวกับท่านนายกไม่ได้มีการกระซิบอะไรกันมีถามความเห็นบ้างเรื่อง กบว.เป็นยังไง ก็ได้มีแนะนำกันไปบ้างเรื่องการสนับสนุน ว่าต่อไปไม่ควรจะสนับสนุนแบบบังคับแนวแล้ว แต่ควรจะมีเข็มมุ่งให้เขาว่าอยากจะโฆษณาอะไร อยากสอดแทรกอะไร แล้วก็ให้เงินสนับสนุนเขาไปแทนที่จะไปกำหนดว่าอยากจะได้หนังแนวไหนมากกว่า

ในฐานะผู้สร้างอยากได้อะไรจากรัฐบาล นอกจากการจูงมือพากันไปต่างประเทศ

ต้องเต : เป็นคำถามที่ตอบยาก จริงๆ ก็ขอบคุณที่สัปเหร่อมันเป็นแรงขับเคลื่อนให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ให้คนและรัฐบาลเล็งเห็นบ้างว่ายังมีตรงนี้อยู่ ถ้าเล็งเห็นก็อยากให้เข้ามาซัพพอร์ตจริงๆ มีการหารือหรือมีการพูดคุยจริงจังหน่อย เพราะเราก็ไม่รู้ว่าถ้าซอฟต์พาวเวอร์เข้ามา มีการพูดคุยการสนับสนุนจากรัฐบาลว่าจะไปในทิศทางไหนคนทำหนังก็จะรู้ว่าเราต้องไป เราพร้อมที่จะไป แต่ตอนนี้มันยังไม่มีคนมาซัพพอร์ตเลย เราก็ยังไม่รู้เลยว่าหนังสัปเหร่อมันดีจริงหรือมันเป็นเพราะกระแส ถ้ามันดีจริงก็ให้มันเดินทางไปให้ไกลที่สุดถ้ามันเป็นกระแสก็ให้มันอยู่ที่กระแส แต่ก็อยากให้พาไปทั้งอุตสาหกรรม

ฝากกับผู้ชมสำหรับคนที่ดู ‘สัปเหร่อ’ หรือดูไปแล้ว

ต้องเต : ฝากหนังไว้ด้วยสำหรับคนที่ยังไม่ได้ดูก็อย่าเชื่อคำพูดของคนอื่นว่ามันดีหรือไม่ดี อาจจะต้องเปิดใจให้กับหนังเรื่องนี้หน่อย ให้เข้าไปอยู่ในความทรงจำ คุณจะชอบหรือไม่ชอบก็ยินดีเสมอสำหรับคำติชมและขอบคุณทุกการสนับสนุนที่ติดตามไทบ้านมาตลอด

เสี่ยโต้ง : ก็เหมือนกับทุกภาคที่ต้องขอบคุณการสนับสนุนหนังเล็กๆ จากภาคอีสาน ขอบคุณที่สนับสนุนไทบ้านเดอะซีรีส์ ขอบคุณที่ยังเป็นแฟนๆ ที่เหนียวแน่น ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมจักรวาลไทบ้านเดอะซีรีส์ วันนี้สัปเหร่อทำให้ไทบ้านเดอะซีรีส์เป็นที่รู้จักมากขึ้น เพราะว่าวันนี้ในเน็ตฟลิกซ์เราก็มีตัวตนขึ้นมาอีกรอบแล้วจากอันดับ 3 อันดับ 4 อันดับ 5 มาหลายสัปดาห์ล่าสุดเปิดเข้าไปเมื่อวานนี้ก็เป็นอันดับ 1 อันดับ 2 แล้ว ฉะนั้นก็ขอบคุณที่มาทำความรู้จักกับเราและรักเรา โดยเฉพาะภาคนี้ที่มีคนที่รักเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษคือต้องเต

หวังว่าจักรวาลไทบ้านและสัปเหร่อ รวมทั้งไทบ้านเดอะซีรีส์ทุกภาคจะเป็นแรงบันดาลใจเล็กๆ สำหรับคนที่รักหนัง มีฝัน หรือคนที่อยากจะสู้เพื่อความฝันของตัวเองให้มีความกล้าที่จะลุกขึ้นมาทำ แล้วสิ่งที่สำคัญซึ่งเป็นตัวอย่างที่มากกว่าความสำเร็จของจักรวาลไทบ้านคือเราเดินทางกันมานาน ผ่านร้อนผ่านหนาวกันมา สิ่งนี้คงจะบอกว่าถ้าเรามีฝันและเราเริ่มเดินแล้วต่อให้มันยังไม่ประสบความสำเร็จก็อย่าเพิ่งหยุดเดินตราบเท่าที่เรายังฝันอยู่

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า