Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ต้อนรับ ‘The Wall Song’ สู่ 200 เทป กับการเปิดเบื้องหลังกว่าจะมาเป็น ‘ร้องข้ามกำแพง’ รายการวาไรตี้อันดับต้นของเมืองไทย

ถ้าพูดถึงรายการวาไรตี้อันดับต้นๆ ของไทยในตอนนี้ คงหนีไม่พ้น รายการ “The Wall Song” หรือ ที่รู้จักกันดีกับรายการ “ร้องข้ามกำแพง” ออนแอร์ทางช่อง เวิร์คพอยท์ 23  ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 20.05 น. รายการสุดฮิตกับความสนุกที่ ดูง่าย เข้าถึงทุกเพศทุกวัย ผ่านความตลก และเสียงเพลง กับเรตติ้งรายการที่พุ่งสูงในแต่ละตอน รวมถึงยอดเข้าชมคลิปในช่องยูทูปที่พุ่งทะลุเกิน 1 ล้าน นอกจากนี้รายการยังถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปอีก 19 ประเทศ ซึ่งผลิตและออกอากาศไปแล้ว 5 ประเทศ ได้แก่ ฮอลแลนด์ , นอร์เวย์, บราซิล, เวียดนาม และ กัมพูชา

‘ลูกกอล์ฟ – ณัฐภัชศร รัตนสิทธิวุฒิ’ ครีเอทีฟรายการ, ‘ปั๊กกี้ – สมัชญ์ มูลทอง’ โปรดิวเซอร์รายการ และ ‘ทัช – ณัฐพงษ์ พันธุ์เพ็ชร์’ ครีเอทีฟรายการ

ในตลอดระยะเวลา 4 ปี ที่ผ่านมา ล่าสุด “ร้องข้ามกำแพง” เตรียมก้าวเข้าสู่ 200 เทป (4 ก.ค. 2567) วันนี้ TODAY PLAY จะพาทุกคนไปรู้จักเบื้องหลังกว่าจะมาเป็น “ร้องข้ามกำแพง” ใน 1 เทป รวมถึงโมเม้นต์สุดประทับใจในแต่ละตอน ผ่านทีมงาน ทั้ง 3 คน นำทีมด้วย โปรดิวเซอร์ของรายการ ‘ปั๊กกี้ – สมัชญ์ มูลทอง’ พร้อมทีมงาน ครีเอทีฟ อีกสองคน ‘ลูกกอล์ฟ – ณัฐภัชศร รัตนสิทธิวุฒิ’ และ ‘ทัช – ณัฐพงษ์ พันธุ์เพ็ชร์’ ที่จะมาพูดคุยพร้อมเจาะลึกเบื้องหลังของรายการ “ร้องข้ามกำแพง” ไปพร้อมกัน

กว่าจะมาเป็น “ร้องข้ามกำแพง” หนึ่งเทป

แน่นอนกว่าจะมาเป็น “ร้องข้ามกำแพง” หนึ่งเทปไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการถ่ายทำ การวางและหาแขกรับเชิญ การดำเนินรายการให้สนุก

เมื่อก่อนวิธีการถ่ายทำในเวิร์คพอยท์จะเป็นเดือนละ 2 คิว อาจจะเป็นต้นเดือนกับกลางเดือนหรืออาจจะเป็นต้นเดือนกับปลายเดือน ตั้งแต่เจอ โควิด-19 วิธีการถ่ายทำก็เปลี่ยนไป ทีมรายการเคยประสบปัญหาที่ไม่มีเทปออนแอร์ถึง 1 เดือน กลายเป็นว่าจากเรตติ้งที่เคยสูงทำให้คนดูหายไปกับโควิด-19เลย  เราเลยเปลี่ยนวิธีการถ่ายทำใหม่เป็น 2-3 วันติดกัน เผื่อถ้าเกิดปัญหา โควิด-19 อีกครั้ง จะได้มีเทปออนแอร์ต่อไป  ซึ่งอาจจะเหนื่อยทีมงานโดยวิธีการถ่ายทำจะเป็นเดือนครึ่ง ถ่ายทำ 1 ครั้ง หรือ 2 เดือน ถ่ายทำ 1 ครั้ง ก็แล้วแต่ 

ส่วนการหาแขกรับเชิญยากไหม ยากนะ ในช่วงแรกก็กลัวเรื่องความสนุก จะเห็นได้ว่าในช่วงเทปแรกจะมีนั่งกันแค่ 3 คน จะไม่มีผู้ช่วย ถ้าถามว่าทำไมเทปหลัง ๆ ถึงมีผู้ช่วย เพราะว่าพอเราเชิญคนที่เป็นตลกมาอยู่ในเทปจนครบตัวท็อปที่เป็นตลกซึ่งยังไงก็ตลก ในส่วนศิลปินที่เป็นแขกรับเชิญก็จะมีศิลปินที่เป็นคนนิ่ง ไม่ค่อยพูด ทีมงานเลยต้องหาตัวช่วย เพื่อให้ศิลปินมีความสนุกมากยิ่งขึ้น จะได้ช่วยแกล้งกันหลายทาง

ส่วนดาราก็ยาก ยากตรงไหนรู้ไหมคะ ในช่วงแรก ๆ ถ้าสังเกตจะเป็นดาราคนไหนก็ได้ จนมาถึงจุดที่เปิดหลังกำแพงมาเป็น “มาดามแป้ง” เปิดมาแล้วเป็น “พี่ชมพู่ อารยา” เปิดมาแล้วเป็นแบบเป็นดาราที่คนไม่ค่อยได้เห็น ผู้ชมจะค่อนข้างตื่นเต้น ที่นี่ก็จะเป็นโจทย์ยากสำหรับทีมงานแล้วว่าจะทำยังไงให้คนดู ว้าว! ในแต่ละเทป บางเทปก็ผ่านไป บางเทปก็มีว้าว!”

‘ปั๊กกี้ – สมัชญ์ มูลทอง’ โปรดิวเซอร์รายการ “ร้องข้ามกำแพง”

“สนุก” และ “เสียงเพราะ” เป็นพื้นฐานในการวางแขกรับเชิญ “หน้ากำแพง” และ “หลังกำแพง”

เมื่อการหาแขกรับเชิญเริ่มเป็นโจทย์ยากสำหรับทีมงานการวางแขกรับเชิญก็เป็นหนึ่งสิ่งที่จะทำให้รายการสนุกในแต่ละตอน

 “ในหนึ่งเทปการวางแขกรับเชิญเราก็จะมี “สนุก กับ เพราะ” จะมีแค่นี้เลย มี “สนุก กับ เพราะ” ก็คือคนต้องการความสนุก และ คนต้องการฟังเสียงเพราะ มีแค่นี้เลย แล้วก็เห็นไหมคะบางเทปก็จะมีตลก, มีนักร้อง และ มีนักแสดง คือสลับกันไปให้อยู่ในพื้นฐานที่เราวางไว้ ต้องมีอะไรบางอีกที ต้องมีคนตลกนะ ต้องมีคนร้องเพลงเพราะ สุดท้ายรายการนี้อาจจะไม่ใช่รายการร้องเพลง 100% แต่ก็ยังอยากฟังเสียงที่เพราะ”

เพิ่มเอเนอจี้ความสนุกไปกับ “เกมคำใบ้”

การวางเกมของแต่ละคู่ แต่ละตอนถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เพิ่มเอเนอจี้ความสนุกให้กับผู้ชม

“เกมเราวางตามคาแรกตเตอร์ของศิลปิน คือจริง ๆ เราก็อยากจะแกล้ง ศิลปิน ดารา ให้ทำอะไรเยอะแยะ เช่น ถ้าดาราท่านนี้มีอายุหน่อย เราก็จะหาอะไรง่าย ๆ หน่อย เช่นอ่านป้ายไหม หรือมาเป็นคู่ เป็นกลุ่ม เราก็จะดึงคาแรกเตอร์ความสนุกของแต่ละคนออกมา ถ้าถามว่าทำไมต้องใช้เกมในการให้คำใบ้ ทีมงานเคยทำ VTR แล้วรู้สึกว่าซ้ำ ทีมงานก็เลยหาอะไรที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เพื่อให้คนดูไม่จำเจ ก็ยังมีแบบเดิมที่เป็นข้อความ แล้วก็อาจจะมีเกมเข้ามาเพื่อให้เอเนอจี้มันสนุกขึ้น

ส่วนการวางคำใบ้ก็จะตามตัวศิลปินเลย แต่จะอ้อม ขึ้นอยู่กับว่าจะอ้อมมากหรืออ้อมน้อย เราก็ต้องไปหาข้อมูลมาก่อนว่า หลังกำแพงเขาเคยทำงานกับใครหรือว่าเขาเกี่ยวข้องอะไรกับใคร ชื่อหรือชื่อเล่นความหมายว่าอะไร อย่างเช่น คำใบ้ดาราคนนี้ไม่เกี่ยวข้องแต่เขาใส่โบว์ หลังกำแพงชื่อ “โบว์” หรือ คำผวน”

ความหลากหลายของแนวเพลง

เสียงเพลงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ผู้ชมชื่นชอบ ทั้งความหลากหลายของแนวเพลง และการ Arrange เพลงใหม่ในทุก ๆ เพลงที่นำมาร้องฟีทเจอริ่งของศิลปินทั้ง “หน้ากำแพง” และ “หลังกำแพง”

“ในเรื่องเพลงเราจะให้หน้ากำแพงเลือกเพลง 3-5 เพลงเป็นโจทย์ตั้งต้น และจากนั้นก็ส่งต่อให้กับหลังกำแพง ซึ่งก็แจ้งว่า “เป็นโจทย์ที่หน้ากำแพงเขาเลือกมาให้ หากไม่ชอบก็จะให้หน้ากำแพงเลือกใหม่ หรือ เลือกเพลงมาให้หน้ากำแพงได้เลย” จนกว่าจะได้หนึ่งเพลงที่หน้ากำแพงกับหลังกำแพงจะมาร้องด้วยกัน โดยทางทีมงานก็จะถามก่อนว่าถนัดแนวเพลงไหน เจนไหน ปีไหน และทีมงานเองก็จะมีการ Arrange เพลงใหม่ทุกรอบ และปรับคีย์ เป็นปัญหาใหญ่ ๆ ที่จะเจอคือ เสียงของ ผู้ชาย และ ผู้หญิง คีย์จะไม่ค่อยไปด้วยกัน”

“เซอร์ไพรส์” ซ้อน “เซอร์ไพรส์” เรื่องราวความประทับใจของ “หน้ากำแพง” และ “หลังกำแพง”

เรื่องราวความประทับใจ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้รายการ “ร้องข้ามกำแพง” กลายเป็นที่พูดถึง และทำให้คนรู้จัก รายการ และ ศิลปิน มากยิ่งขึ้น ซึ่งแน่นอนว่ามีหลากหลายคู่ที่ถูกพูดถึงและมีเรื่องราวที่เรียกได้เซอร์ไพรส์ทั้ง “ทีมงาน” และ “ผู้ชม” ไปพร้อมกัน

“โมเม้นต์แรกที่ประทับใจจะเป็น “ทิกเกอร์” กับ “นิโคล” ที่เป็นเทปข้างหน้าเป็นคุณแม่ ข้างหลังเป็นคุณลูก ซึ่งจริง ๆ ทีมงานค่อนข้างที่จะกลัวว่าจะจับได้ จริงๆ ทีมงานติดต่อไปถึง 3 ครั้ง ก่อนจะได้คิวในครั้งที่ 4 ก็กลายเป็นเทปที่มีคนดูเยอะ และคนพูดถึงมาก ๆ จนกลายเป็นเทปที่แจ้งเกิด ทิกเกอร์ จากรายการนี้ เพราะจริง ๆ แล้วมีหลายคนแจ้งเกิดหลายคนจากร้องข้ามกำแพง  เป็นความรู้สึกที่ จริง ๆ มีโจทย์เยอะทั้ง คู่เพื่อน คู่แฟน คู่แม่ลูก และอีกหลากหลายคู่ ถ้าถามว่าวิธีหาแขกรับเชิญก็คือ ทีมงานเริ่มต้นการหาจากความสัมพันธ์ของศิลปินเเละดารา หลาย ๆ คน จากอดีตจนถึงปัจจุบัน รวมถึงผลงานหลาย ๆ ผลงาน หรือ ศิลปินบางคนที่คิดว่าน่าจะเซอร์ไพรส์กับศิลปิน “หน้ากำแพง” มาก ๆ ทางทีมงานก็จะเชิญมา ในบางคู่ที่อยากให้ตรงข้ามกันเช่น “นางเอก” กับ “ตลก” หรือ “พระเอก” คู่กับอะไรที่เป็นไปไม่ได้ประมาณนี้ นอกจากคู่ “ทิกเกอร์” กับ “นิโคล” ที่เป็น ทอล์กออฟเดอะทาวน์ แล้ว ก็จะมีอีกเช่น “พี่บีม” กับ “พี่โดนัท” จริง ๆ ทีมงานไม่รู้ ก็คือรู้เท่ากับผู้ชมตอนอัดเทปตอนนั้น ทีมงานก็ตกใจ อีกคู่ก็จะเป็น “เชียร์” กับ “กอล์ฟ” ก็เหมือนกัน ทีมงานจะไม่ค่อยรู้โมเม้นต์ที่เป็นกอสซิบมาก ๆ เท่าไหร่ ซึ่งเป็นเซอร์ไพรส์ ซ้อนเซอร์ไพรส์ คือหนึ่ง เซอร์ไพรส์ทีมงาน และสอง เซอร์ไพรส์ ผู้ชมไปด้วยกัน”

จากรายการที่ถูกสร้างในยุคโควิด-19 ที่มาพร้อมกับข้อจำกัดอย่างมากมาย จนปัจจุบัน “ร้องข้ามกำแพง” กลายเป็นรายการวาไรตี้อันดับต้นๆ ของประเทศไทย การันตีด้วย เรตติ้งรายการ ยอดวิวในการรับชมในแต่ละตอน รวมถึงยอด # บน X (ทวิตเตอร์) ที่ถูกพูดถึงโมเมนต์ที่ประทับใจต่างๆ อีกมากมาย

ซึ่ง ‘ปั๊กกี้-สมัชญ์, ‘ลูกกอล์ฟ-ณัฐภัชศร และ ‘ทัช-ณัฐพงษ์’ ทีมงานเบื้องหลังรายการ “ร้องข้ามกำแพง” ได้ทิ้งท้ายฝากถึงรายการไว้อีกด้วย “อยากให้ผู้ชมดูแล้วสนุกมากกว่าเดิม แต่อย่าคาดหวังอะไรเยอะ (หัวเราะ) ทีมงานเองก็พร้อมที่จะทำให้เต็มที่ สนุกที่สุดเท่าที่จะทำได้”

‘ลูกกอล์ฟ – ณัฐภัชศร รัตนสิทธิวุฒิ’ ครีเอทีฟรายการ, ‘ปั๊กกี้ – สมัชญ์ มูลทอง’ โปรดิวเซอร์รายการ และ ‘ทัช – ณัฐพงษ์ พันธุ์เพ็ชร์’ ครีเอทีฟรายการ

“ตอนนี้ดาราก็คือหมดประเทศแล้วนะคะ (หัวเราะ) ที่ไม่มาก็คือมีสัญญา กับบางคนก็คือไม่ร้องเพลงเลย มีประมาณนี้ หลายคนถามว่าทำไมถึงวน 200 เทป ถ้าคิดแบบง่าย ๆ 200 คูน 6 ตอนนี้คนมารายการเราก็คือ ประมาณ 1200 คนแล้วอันนี้เป็นอย่างต่ำนะคะ เพราะบางเทปมีแขกรับเชิญเป็น 10 คน พอเราเชิญคนเก่ามาจะบอกว่า “ซ้ำ” แต่เมื่อทีมงานเชิญคนใหม่มาก็จะมีคอมเมนต์ถามว่า “ใคร?” ก็เลยคิดว่าจะทำอย่างไรกันดีนะ ทีมงานก็เลยพยายามหาอะไรที่ใหม่มาให้ ทั้งในไทยและก็ต่างประเทศ ก็อยู่ที่จังหวะและเวลา ก็ฝากติดตามรายการด้วยนะคะ จากตอนแรกจะสิ้นสุดแค่ 26 เทป จนตอนนี้สู่ 200 เทปเป็นที่เรียบร้อย”

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า