สรุปไทม์ไลน์ ‘อัยการสูงสุด’ ชี้แจงให้กองทัพบก พิสูจน์ GT200 ตั้งแต่ปี 60 ยืนยันขณะนี้คดีถึงที่สุดแล้ว
จากที่ พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกลาโหม ได้ชี้แจงแทนกองทัพบก กรณีตั้งงบ 7.5 ล้านบาท ตรวจ GT200 ระบุตามคำแนะนำ ‘อัยการสูงสุด’ เพื่อสู้คดีเรียกค่าเสียหาย เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น ล่าสุดทางด้านอัยการสูงสุดได้ชี้แจงกลับ โดยวันนี้ (6 มิ.ย. 2565) นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ไล่เรียงไทม์ไลน์สำคัญๆ ในรายการเจาะลึกทั่วไทย inside thailand สรุปได้ดังนี้
– 13 ม.ค. 2560 กองทัพบก ได้ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด เพื่อขอให้จัดพนักงานอัยการสำนักงานคดีปกครองว่าต่าง ฟ้องบริษัท เอวิเอแซทคอม จำกัด กับพวกรวม 4 คน เพื่อให้รับผิดตามสัญญาปกครอง กรณีซื้อขายเครื่อง GT200 รวม 12 สัญญา ทุนทรัพย์ขณะนั้นยังไม่รวมดอกเบี้ย คือ 683,900,000 บาท เมื่อได้รับเรื่องมาทางอัยการสูงสุด ก็มอบให้สำนักงานคดีปกครอง และมอบให้ “สำนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีปกครอง 5” เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการคดีนี้
“ในระหว่างตรวจสำนวน ทางพนักงานอัยการ เห็นว่าการที่จะบอกว่าเครื่องนี้ มันไม่มีคุณสมบัติตามสัญญา หรือเป็นเครื่องที่ใช้การไม่ได้ มันเป็นสาระสำคัญในการที่จะบอกคดีนี้แพ้หรือชนะ ท่านก็ขอให้แจ้งหนังสือไปยังกองทัพบก ให้ดำเนินการในเรื่องนี้ รายละเอียดหลักการมีประมาณนี้ ระหว่างแจ้งไปก็มีการตอบโต้หนังสือกันหลายครั้ง” รองโฆษกอัยการสูงสุด ระบุ
– 24 ม.ค. 2560 เป็นวันที่อัยการออกหนังสือไปให้กองทัพบกดำเนินการตรวจเพื่อจะได้เป็นข้อเท็จจริง… เพื่อให้ศาลใช้ประกอบการตัดสินคดี
– 23 เม.ย. 2560 อัยการพิเศษฝ่ายคดีปกครอง 5 ก็ยื่นฟ้องคดีนี้ไปต่อศาลปกครอง โดยฟ้องบริษัท เอวิเอแซทคอม จำกัด เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1 นายสุทธิวัฒน์ วัฒนกิจ เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 2 ธนาคารกสิกรไทย เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 3 ในฐานะเป็นแบงก์การันตี และธนาคารกรุงเทพ เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 4 ในฐานะแบงก์การันตี โดยกสิกรไทย รับผิดในวงเงินประมาณไม่เกิน 56 ล้านบาท ส่วนธนาคารกรุงเทพ รับผิดไม่เกิน 6 ล้านบาทเศษ แต่ทุนทรัพย์ที่เรายื่นฟ้องไปคือ ณ 27 เม.ย. 2560 คือ 687,691,975.45 บาท
– 28 ธ.ค. 2560 ศาลปกครองกลาง สั่งไม่รับคำฟ้องคดีนี้ โดยวินิจฉัยว่า คดีขาดอายุความ ให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ อัยการพิเศษ ฝ่ายคดีปกครอง 5 ยื่นอุทธรณ์ว่าคดีไม่ขาดอายุความ
– 1 มิ.ย. 2561 ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งให้ศาลปกครองกลางรับคดีไว้ โดยคดีไม่ขาดอายุความ คดีก็ดำเนินการต่อไป กระบวนการที่ให้ตรวจเครื่อง GT 200 ก็ยังเป็นหนึ่งในเงื่อนไขของการที่จะต้องดำเนินคดี ซึ่งรายละเอียดจะเป็นอย่างไรเป็นเรื่องของกองทัพบก หรือตัวความที่ส่งเรื่องมาให้ไปดำเนินการ จนกระทั่งเครื่องที่จะต้องตรวจทั้งหมด มี 757 เครื่อง
– 1 ก.ย. 2564 ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาตามคำฟ้อง ที่พนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีปกครอง 5 ฟ้องไปว่า “เครื่อง GT200 จำนวน 757 เครื่อง เป็นสินค้าไม่มีคุณภาพ ไม่มีคุณลักษณะเฉพาะ ตามเอกสารแสดงคุณสมบัติของเครื่อง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสัญญา จึงพิพากษาดังนี้ ให้บริษัท เอวิเอแซทคอม ชำระเงินให้กับกองทัพบก เป็นเงิน 683,441,561.64 บาท ให้ธนาคารกสิกรไทยชำระในส่วนตัวเองการันตี 56,856,438.87 บาท ให้ธนาคารกรุงเทพ ชำระ 6,195,452.05 บาท ยกฟ้อง นายสุทธิวัฒน์ วัฒนกิจ ผู้ถูกฟ้องที่ 2 เพราะเป็นผู้บริหาร และไม่ความว่าทำเกินขอบเขตของนิติบุคคล”
– 8 ก.ย. 2564 สำนักงานอัยการสูงสุด แจ้งผลไปยังกองทัพบก เพื่อทราบถึงผลคดีดังกล่าว
– 23 ก.ย. 2564 ผู้ถูกฟ้องทุกคนอุทธรณ์
– 8 มี.ค. 2565 อัยการอุทธรณ์ในส่วนที่ยกฟ้อง ผู้ถูกฟ้องที่ 2
– 7 ก.พ. 2565 ผู้ถูกฟ้องที่ 1 คือ บริษัท เอวิเอแซทคอม จำกัด ยื่นถอนอุทธรณ์
– 7 มี.ค. 2565 ศาลปกครองสูงสุดอนุญาตให้ถอนอุทธรณ์ คดีถึงที่สุด
“สรุปอย่างนี้ ณ เวลา 7 มี.ค. 65 ที่ศาลปกครองสูงสุดอนุญาตให้ถอนอุทธรณ์ หมายความว่า คำพิพากษาที่ศาลปกครองกลางให้บริษัท เอวิเอแซทคอม จำกัด ตามที่อัยการฟ้องชำระเงินให้กับกองทัพบก เป็นเงิน 683,441,561.64 บาท จึงเป็นที่สุด กระบวนการตั้งแต่ 7 มี.ค.65 รายละเอียดว่า เครื่องจะต้องตรวจหรือไม่อย่างไร จึงไม่ใช่ประเด็น ไม่ใช่สาระสำคัญ มันเลยตรงนั้นมาแล้ว ส่วนคดีที่ค้างอยู่ตอนนี้ เพียงแต่อัยการสูงสุดกำลังอุทธรณ์ประเด็นที่ค้างอยู่ประเด็นเดียว คือตัวนายสุทธิวัฒน์ ต้องมารับผิดชอบกับบริษัทด้วย ส่วนธนาคารอย่างไรก็มีวงเงินรับผิดในส่วนที่แบงก์การันตีไม่เกินวงเงินที่แบงก์การันตีอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นในประเด็น ที่อัยการเรามีข้อสั่งการว่าจะต้องไปตรวจตามที่ไล่เรียงตามลำดับ เพราะ ณ เวลานั้นเป็นสาระสำคัญในการที่จะต้องชี้แพ้ชนะคดี แต่ ณ เวลานี้ มันเดินมาถึงคดีถึงที่สุดแล้ว และคดีถึงที่สุดตั้งแต่ 7 มี.ค. 2565 และและในส่วนของรายละเอียดว่าจะต้องไปตรวจอะไร เขาเรียกว่า “เกลื่อนกลืนและตกไปโดยปริยาย ไม่จำเป็นต้องไปพูดตรงนั้น” รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด
นายประยุทธ กล่าวด้วยว่า เราต้องให้ความเป็นกองทัพบกอย่างนี้ กระบวนการงบประมาณหน่วยงานของรัฐ เมื่อทางอัยการสั่งการทางคดีว่าต้องไปทำเพื่อวินิจฉัยว่าจะแพ้ชนะคดีอย่างไร ตามดุลยพินิจของอัยการเจ้าของสำนวน ส่วนประเด็นจะไปดำเนินการอย่างไรเราไม่ก้าวล่วง ขณะที่การตั้งงบประมาณ มีกระบวนทางไทม์ไลน์ ยื่นคำขอต่อสำนักงบประมาณ รวบรวมคำขอ เพื่อจะรวบร่างเป็นพ.ร.บ.รายจ่ายงบประมาณประจำปี ในความเห็นส่วนตัวเข้าใจว่า จะเป็นค้างท่อมาเก่า

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
GT200 ตรวจระเบิดลวงโลก ย้อนอดีต ไทยเสียค่าโง่พันล้าน
‘อ.เจษ’ ย้อน 14 ปี ตรวจ GT200 รู้ทั้งโลกแล้ว “มันใช้ไม่ได้” หลัง ‘จิรัฏฐ์’ ส.ส.ก้าวไกล ฉะงบฯ กลาโหม
ภาพจาก : สำนักงานอัยการสูงสุด