SHARE

คัดลอกแล้ว

ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน หนึ่งในพฤติกรรมผู้บริโภคที่ปรับเปลี่ยนไป คือ การมีไลฟ์สไตล์ที่ประหยัดขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ ทำให้สินค้า Own Brand หรือสินค้าที่ผลิตขึ้นเฉพาะเพื่อจำหน่ายในห้างนั้นๆ กำลังเป็นตัวเลือกที่ดีให้กับผู้บริโภค 

ปีที่ผ่านมามูลค่าสินค้า Own Brand ของไทยมีมูลค่ากว่า 38,000 ล้านบาท และเติบโตถึง 11.3% แต่ถ้าเทียบกับตลาดโลกสัดส่วนของตลาด Own Brand ประเทศไทยมีเพียง 4% ขณะที่สัดส่วนของตลาด Own Brand ทั่วโลกมีสัดส่วนถึง 22% ทำให้ยังเห็นโอกาสการเติบโตที่ดีอยู่ แต่จำเป็นต้องสร้างภาพจำและพัฒนาคุณภาพของสินค้าให้ผู้บริโภคไว้ใจมากขึ้น

“สินค้า Own Brand  ที่ขายใน Tops เอง 12% โตดีกว่าสินค้าอื่น” ธนวัตร จิรจริยาเวช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการพาณิชย์ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล  เล่าให้ TODAY Bizview ฟัง

[ ผู้บริโภคมองหาของถูก แต่คุณภาพดีเพิ่มขึ้น โอกาสเติบโตของ Own Brand ]

ปัจจุบันแนวคิดเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคที่เคยเน้น “ของถูก” สู่การมองหา “ความคุ้มค่า” มากขึ้น ลูกค้าให้ความสำคัญกับคุณภาพ อายุการใช้งาน และผลกระทบต่อสุขภาพหรือสิ่งแวดล้อม แม้สินค้าบางรายการจะราคาสูงขึ้นเล็กน้อย แต่ถ้าใช้ได้นาน สุขภาพดี หรือบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก ก็พร้อมจะจ่าย ยิ่งไปกว่านั้น ลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะเจเนอเรชัน Y และ Z ยังเปิดกว้างมากขึ้นต่อสินค้า Own Brand โดยไม่ยึดติดกับชื่อเสียงของแบรนด์อีกต่อไป

ด้าน Tops ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ได้ประกาศกลยุทธ์ผลักดันสินค้า Own Brand ให้เป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญของการเติบโตปี 2568 ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จาก Own Brand ให้ทะลุ 20% จากจำนวนสินค้าที่มีอยู่แล้วกว่า 5,000 รายการ ครอบคลุม 80 แบรนด์ ใน 110 หมวดสินค้า มีแบรนด์หลักอย่าง TOPS (ท็อปส์), SmarteR (สมาร์ตเตอร์) และ My Choice (มาย ช้อยส์) 

ที่น่าสนใจคือ Own Brand ทั้งหลายมีกระแสตอบรับที่ดี เช่น ‘เชอรี่’ ของ My Choice (มาย ช้อยส์) มียอดขายราวๆ 100,000 แพ็คต่อปี โดยที่ทีมของทาง My Choice ไปดีลวัตถุดิบเองถึงสหรัฐฯ อเมริกา ส่วนผลิตภัณฑ์อื่นๆ ก็ดีลกับเกษตรกรในไทยให้ส่งวัตถุดิบให้ ทำให้ได้สินค้าที่คุณภาพ 

[ อดีต Own Brand ถูกสร้างขึ้นมาไม่ค่อยถูกต้อง มีสินค้าหน้าตาคล้ายๆ กับยี่ห้อชั้นนำ ] 

“ก่อนหน้านี้ Own Brand ถูกสร้างขึ้นมาไม่ค่อยถูกต้อง มีสินค้าหน้าตาคล้ายๆ กับยี่ห้อชั้นนำ ทำให้ลูกค้าเข้าใจว่าเป็นของปลอมและเกิดภาพจำแง่ลบ เป็นสาเหตุที่ทำให้ในอดีตผู้บริโภคอาจจะไม่นิยมซื้อกินสินค้า Own Brand เท่าไหร่นัก แต่ตอนนี้เทรนด์เปลี่ยนแล้ว”

โดยตอนนี้ Tops วาง  4 กลยุทธ์ “T-O-P-S” เพื่อก้าวสู่ความสำเร็จในธุรกิจฟู้ดรีเทล ประกอบด้วย 

T – Trusted Quality การเป็นแบรนด์สินค้าที่มีคุณภาพน่าเชื่อถือ ด้วยมาตรฐานสินค้าในระดับประเทศและระดับสากล อาทิ มาตรฐานรับรองคุณภาพออร์แกนิก (USDA Organic, EU Organic, CERES), มาตรฐานคุณภาพส่งออก เช่น เครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทย ตราสัญลักษณ์รวงข้าว โดยกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ตลอดจนผลิตภัณฑ์ทั้งหมดได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิตและคุณภาพตามเกณฑ์ของหน่วยงานภาครัฐ 

 O – Offer Variety นำเสนอทางเลือกของสินค้าทั้งอุปโภคและบริโภคภายใต้แบรนด์ที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองต่อผู้บริโภคในทุกๆ เซกเมนต์ โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลักได้แก่ Specialized brands จำนวน 69 แบรนด์ ครอบคลุมสินค้า 707 รายการ เน้นที่หมวดหมู่ผลิตภัณฑ์เฉพาะที่นำเสนอสินค้าคุณภาพสูงในราคาที่เข้าถึงได้ Core brand จำนวน 13 แบรนด์ ครอบคลุมสินค้า 2,166 รายการ เน้นกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม ภายใต้แบรนด์ TOPS และ Premium brands จำนวน 3 แบรนด์ ครอบคลุมสินค้า 2,130 รายการ 

P – Preferred Choice ปักหมุดเป็นแบรนด์สินค้าอุปโภคและบริโภคอันดับหนึ่งที่ลูกค้าไว้วางใจ ผ่านการพัฒนาและยกระดับแบรนด์หลักอย่าง My Choice (มาย ช้อยส์) TOPS (ท็อปส์) และ SmarteR (สมาร์ตเตอร์) ให้แข็งแกร่ง เพื่อให้กลายเป็นแบรนด์ที่ลูกค้าให้การยอมรับ บอกต่อ และเชื่อมั่นในคุณภาพ 

S – Sustainability by design ตอกย้ำ Green & Sustainable Food Retail ที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนตั้งแต่กระบวนการผลิตสินค้า เพื่อสร้างความมั่นใจว่าทั้งผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์สินค้าOwn Brand ของท็อปส์ นั้นมีส่วนช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

 “ปัจจุบันมีสินค้า Own Brand ของท็อปส์ กว่า 40 รายการได้วางจำหน่ายในต่างประเทศรวม 5 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ (จำหน่ายผ่านเครือข่ายของแฟร์ไพรซ์ กรุ๊ป) จีน เวียดนาม กัมพูชา และสวิตเซอร์แลนด์ ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ความสำเร็จว่าสินค้าไทยได้รับการยอมรับว่ามีคุณภาพในระดับสากล และมีมาตรฐานเทียบเท่าสินค้านำเข้าจากประเทศอื่นๆ 

นอกจากนี้ Tops ยังตั้งเป้าขยายตลาดส่งออกสินค้า Own Brand อย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นไปยังตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตสูงในภูมิภาคอาเซียน เช่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย รวมถึงการขยายตลาดไปยังประเทศอื่นๆ ในเอเชียและยุโรป” ‘ธนวัตร’ กล่าว

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า