SHARE

คัดลอกแล้ว

องค์กรยูนิเซฟปิดรายงานฉบับใหม่ พบนักเรียนทั่วโลกเจอสภาวถความรู้ถดถอย จากสถานการณ์โรงเรียนปิดช่วงโควิด-19 โดยเด็กจากครอบครัวยากจน เด็กในพื้นที่ห่างไกล เด็กพิการ และเด็กเล็ก เจอสภาวะนี้หนักสุด

 เมื่อวันที่  5 เมษายน 2565 องค์กรยูนิเซฟ ร่วมกับยูเนสโกและธนาคารโลก เปิดรายงานชื่อเรื่อง Where are we on education recovery? หรือแปลเป็นภาษาไทยว่าเราฟื้นฟูการศึกษากันถึงไหนแล้ว โดยสำรวจข้อมูลจาก 155 ประเทศทั่วโลกจนถึงเดือนมีนาคม 2565 สำรวจสภาวะถดถอยทางความรู้ของเด็กทั่วโลกและมาตรการภาครัฐในการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยแบ่งออกเป็น 5 ด้าน  ได้แก่ 

  • เข้าถึงเด็กทุกคนและช่วยให้เด็ก ๆ ได้เรียนที่โรงเรียน
  • ประเมินระดับความสามารถการเรียนรู้
  • ให้ความสำคัญกับการสอนความรู้พื้นฐาน
  • เพิ่มการสอนชดเชยและช่วยให้เด็กมีความก้าวหน้าในการเรียนรู้มากกว่าที่พวกเขาเสียไป
  • ส่งเสริมสุขภาพกายและสุขภาพใจเพื่อให้เด็กทุกคนมีความพร้อมที่จะเรียน

ระหว่างงานเปิดตัวรายงานฉบับดังกล่าว นางสเตฟาเนีย จิอานนีนี ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ด้านการศึกษา องค์การยูเนสโก พร้อมนายโรเบิร์ต เจนกินส์ ผู้อำนวยการฝ่ายการศึกษา องค์การยูนิเซฟ และนายเจมี  ซาเวดรา ผู้อำนวยการฝ่ายการศึกษา ธนาคารโลก ออกแถลงการณ์ร่วมเรียกร้องให้นานาประเทศออกมาตราการเร่งด่วนเพื่อช่วยให้เด็กทุกคนได้กลับมาเรียนหนังสือและชดเชยความรู้ที่ถดถอย ชี้หากละเลยอาจส่งผลกระทบในระยะยาวต่อสุขภาพ ความเป็นอยู่ ตลอดจนการเรียนรู้และหน้าที่การงานในอนาคตของเด็ก

“นับตั้งแต่มีการปิดโรงเรียนในเดือนมีนาคม 2563 เด็กนักเรียนทั่วโลกสูญเสียชั่วโมงเรียนไปมากกว่าสองล้านล้านชั่วโมง และเด็ก ๆ มากกว่า 4 ใน 5 ประเทศมีการเรียนรู้ที่ถดถอย ทักษะขั้นพื้นฐานในทุกมิติที่เด็ก ๆ ได้สะสมไว้กำลังหายไป เด็ก ๆ ลืมวิธีการอ่านและเขียน บางคนจำไม่ได้แม้แต่ตัวอักษร เด็กเล็กในเกือบทุกประเทศซึ่งกำลังจะเริ่มเข้าเรียนต่างไม่มีโอกาสได้เรียนรู้ทักษะเหล่านี้เลยเนื่องจากการศึกษาปฐมวัยที่ขาดหายไป” คำแถลงการณ์ร่วมระบุ

และชี้ว่า  “ตั้งแต่หกเดือนแรกหลังการแพร่ระบาด เป็นที่ทราบกันแล้วว่าเด็กอย่างน้อย 1 ใน 3 คนทั่วโลกถูกตัดขาดจากการศึกษาโดยสิ้นเชิงเพราะไม่สามารถเข้าถึงการเรียนรู้ทางไกล เรารู้ดีว่าเด็กและเยาวชนประมาณ 24 ล้านคนมีความเสี่ยงที่ต้องหลุดออกจากระบบการศึกษา เรารู้ว่าแรงงานเด็กและการแต่งงานในวัยเด็กจะเพิ่มขึ้น แม้ข้อมูลต่างๆ จะถูกพูดถึงซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการมากพอที่จะช่วยให้เด็ก ๆ ฟื้นฟูสิ่งที่พวกเขาต้องเสียไป”

ในประเทศไทย การปิดโรงเรียนอย่างต่อเนื่องส่งผลกระทบต่อเด็กนับล้านคน โดยเฉพาะเด็กกลุ่มเปราะบางที่เข้าไม่ถึงการเรียนออนไลน์ ผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติในปี 2563 พบว่าครอบครัวในประเทศไทยเกือบครึ่งหนึ่งไม่พร้อมที่จะให้ลูกเรียนออนไลน์ โดยร้อยละ 51 ไม่มีอุปกรณ์สำหรับการเรียนออนไลน์,  ร้อยละ 26 ไม่มีอินเทอร์เน็ต และพ่อแม่ผู้ปกครองร้อยละ 40 ไม่มีเวลาที่จะดูแลลูกในการเรียนออนไลน์

นอกจากนี้ รายงานของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาเมื่อเดือนที่แล้ว ระบุว่า แม้ว่าจะมีความพยายามในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความเร็วอินเทอร์เน็ต หรือการผสมผสานเทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ ตลอดจนการลดขนาดห้องเรียนในโรงเรียนลง แต่การแพร่ระบาดได้ส่งผลกระทบทางลบต่อภาพรวมของคุณภาพการเรียนการสอน จำนวนเด็กที่ขาดเรียนก็เพิ่มขึ้นทั้งในการเรียนในห้องเรียนและการเรียนออนไลน์

ด้านองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ระบุว่าองค์กรกำลังทำงานกับพันธมิตร เช่น กระทรวงศึกษาธิการและกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เพื่อให้มั่นใจว่าโรงเรียนจะเปิดเรียนได้อย่างปลอดภัยและเด็ก ๆ จะสามารถเรียนตามบทเรียนได้ทัน โดยกระจายความร่วมมือผ่านโครงการนำร่องในโรงเรียน 40 แห่งในจังหวัดสมุทรสาคร

ยูนิเซฟระบุว่าได้สนับสนุนพันธมิตรในการประเมินภาวะความรู้ถดถอยของเด็ก ๆ และจัดอบรมครู ตลอดจนจัดเตรียมสื่อการเรียนการสอนและทรัพยากรต่าง ๆ เพื่อให้ครูสามารถจัดการเรียนรู้ซ่อมเสริมที่ตรงกับความต้องการของเด็กแต่ละคนและสามารถฟื้นฟูการเรียนรู้ที่ถดถอยของเด็ก ๆ และจะมีการถอดบทเรียนจากโครงการนำร่องนี้เพื่อใช้วางแผนฟื้นฟูภาวะถดถอยทางความรู้ในโรงเรียนทั่วประเทศต่อไป

 

นางคยองซัน คิม ผู้อำนวยการองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย กล่าวว่า “ประเทศไทยได้มุ่งดำเนินการเพื่อระบุเด็ก ๆ ที่ไม่กลับเข้าเรียนและเด็กที่มีความเสี่ยงในการหลุดออกจากระบบ เป็นที่ประจักษ์แล้วว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อการศึกษาอย่างที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน ดังนั้น ยูนิเซฟจึงมุ่งมั่นทำงานร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการและพันธมิตรอื่น ๆ ในการทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องเด็ก ๆ จากการเรียนรู้ที่ถดถอยและการถูกทิ้งไว้ข้างหลัง และในโอกาสที่ภาคการศึกษาใหม่กำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เราต้องดำเนินการต่าง ๆ เพื่อให้แน่ใจว่า เด็ก ๆ จะได้รับการสนับสนุนในทุกด้านเพื่อให้พวกเขากลับมาเรียนตามบทเรียนได้ทันและเรียนรู้มากยิ่งกว่าที่พวกเขาเสียไป แต่เราต้องรีบเร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วน มิฉะนั้นแล้ว เด็กทั้งรุ่นอาจจะต้องเผชิญกับผลกระทบที่แก้กลับคืนมาไม่ได้”

รายงานของยูเนสโก ยูนิเซฟ และธนาคารโลก ระบุเพิ่มเติมด้วยว่า มีประเทศที่ได้ทำการสำรวจไม่ถึงครึ่งหนึ่งที่ออกมาตรการฟื้นฟูการเรียนรู้ที่ถดถอยของเด็ก ๆ ในขณะเดียวกันงบประมาณด้านการศึกษายังคงลดลงต่อเนื่องอย่างน่าใจหาย โดยเฉลี่ยประเทศต่าง ๆ จัดสรรงบประมาณด้านการศึกษาเพียงร้อยละ 3 จากแผนฟื้นฟูโควิด-19 โดยประเทศรายได้ต่ำหรือค่อนข้างต่ำจัดสรรงบประมาณด้านการศึกษาเพียงแค่ร้อยละ 1 เท่านั้น

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า