Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

หลายๆ คนคงเคยคุ้นตากันมาบ้างกับสร้อยข้อมือลายใบโคลเวอร์ 4 แฉกที่สื่อความหมายถึง “ความโชคดีอยู่กับเราตลอดเวลา” แต่อาจไม่เคยรู้ว่าสร้อยมือเส้นใบโคลเวอร์ 4 แฉกที่หน้าตาเหมือนในภาพนี้มีมูลค่าเริ่มต้นหลักแสนไปจนถึงหลักล้านบาท ด้วยสตอรี่ของสร้อยและมูลค่า ทำให้สร้อยใบโคลเวอร์ 4 แฉกนี้กลายเป็นของขวัญยอดนิยมของเหล่าคู่รัก

เจ้าของสร้อยข้อมือลายใบโคลเวอร์ 4 เส้นนี้คือ ‘Van Cleef & Arpels’ แบรนด์ภายใต้เครือ Richemont ผู้บริหารแบรนด์หรูรายใหญ่ที่เป็นเจ้าของ Cartier, Piaget และอื่นๆ อีกมากมาย

ที่น่าสนใจคือจุดเริ่มต้นของ Van Cleef & Arpels ที่เกิดขึ้นจาก ‘ความรักสมบูรณ์แบบ’ ของคู่รักชาวฝรั่งเศสที่เหมาะสมกันทั้งไลฟ์สไตล์ชีวิต ความคิด ฐานะ และครอบครัว จนความสมบูรณ์แบบกลายเป็นจุดเริ่มต้นของ Van Cleef & Arpels 

แล้วเรื่องราวของ Van Cleef & Arpels เป็นอย่างไร? TODAY Bizview จะสรุปให้ครบจบผ่านบทความนี้ 

[ ความรักสมบูรณ์แบบ สู่การสร้างแบรนด์ Van Cleef & Arpels  ]

ย้อนกลับไปในปี 1895 ‘Alfred Van Cleef’ ลูกชายของช่างเจียระไนเพชร แต่งงานกับ ‘Estelle Arpels’ ลูกสาวของพ่อค้าอัญมณี ณ กรุงปารีส ทั้งสองมีชีวิตคู่ที่ราบรื่นและมั่นคง เพราะทั้งคู่มีความชอบแบบเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกอยากอยู่กับครอบครัวใหญ่เพื่อต่อยอดธุรกิจ หรือความหลงใหลในอัญมณี และการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ในการออกแบบจิวเวลรี่

หลังจากแต่งงานกันมากกว่า 10 ปี (ปี 1906)  ‘Estelle Arpels’ กับพ่อตาของเขาได้ริเริ่มเปิดร้านเครื่องประดับขึ้นในชื่อ Van Cleef & Arpels ซึ่งเป็นการนำนามสกุลของทั้ง 2 ตระกูลมารวมกัน โดยตัวร้านเปิดขึ้นที่ 22 Place Vendôme ใจกลางเมืองปารีสที่มีทั้งตระกูลผู้ดีเก่าและนักท่องเที่ยวสัญจรไปมา

ในตอนนั้นแบรนด์ได้เริ่มตีตลาดสร้างชื่อเสียงออกแบบเครื่องประดับเพชรและอัญมณีที่มีดีไซน์โดดเด่นไม่ซ้ำใคร จนกระทั่งในปี 1933 ที่แบรนด์ได้รับสิทธิบัตร Mystery Setting เกี่ยวกับการจัดวางอัญมณีบนเครื่องประดับขั้นสูง 

โดยที่เครื่องประดับบางชิ้นก็ผ่านความประณีตที่ใช้ในการสร้างสรรค์กว่า 300 ชั่วโมงต่อเครื่องประดับหนึ่งชิ้น ซึ่งกลุ่มลูกค้าหลักในตอนนั้นก็เป็นกลุ่มลูกค้าชั้นสูงอาทิ ดัชเชสแห่งวินด์เซอร์, เอลิซาเบธ เทย์เลอร์, เกรซ เคลลี่ และแจ็กเกอลีน เคนเนดี

ต่อมาในปี 1954 แบรนด์ต้องการที่จะปรับฐานลูกค้าใหม่ให้ใครๆ ก็เข้าถึงแบรนด์ได้มากขึ้น ไม่จำเป็นต้องเป็นกลุ่มคนชนชั้นสูงเท่านั้น ในตอนนั้นแบรนด์จึงออกเครื่องประดับอาทิ แหวน สร้อยคอ สร้อยข้อมือ หรือแม้แต่นาฬิกา ที่ใช้วัสดุที่ราคาลดน้อยลงนำมาขายในราคาที่ลูกค้าเข้าถึงได้มากขึ้น ทำให้ Van Cleef & Arpels ขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้นอย่างที่หวัง

[ ทายาทชอบเก็บใบโคลเวอร์-ส่งต่อความโชคดี สู่คอลเลกชันยอดนิยม ]

นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลต์ของแบรนด์ที่ทำให้ใครๆ ต่างรู้จักได้ดีเลยก็คือเครื่องประดับคอลเลกชันใบโคลเวอร์ 4 แฉกหรือที่เรียกกันว่า ‘the Alhambra collection’ ที่รู้กันโดยทั่วไปว่าใบโคลเวอร์ 4 แฉกสื่อถึงความโชคดี 

ซึ่งในช่วงที่แบรนด์กำลังค่อยๆ เติบโต ‘Jacques Arpels’ หลานชายของผู้ก่อตั้งชอบเก็บใบโคลเวอร์ 4 แฉกที่โตอยู่หลังบ้านของเขาไปให้กับพนักงานในร้านจิวเวลรี่เพื่อเป็นเครื่องรางนำโชค และเขามักจะพูดว่า ‘เพื่อที่จะโชคดี คุณต้องเชื่อในโชค’ นำมาสู่การสร้างแรงบันดาลใจในการออกแบบ ‘The Alhambra collection’

คอลเลกชันนี้เปิดตัวขึ้นครั้งแรกในปี 1968 ในรูปแบบของสร้อยคอใบโคลเวอร์ 4 แฉกทำจากทองคำ ซึ่งมีกระแสตอบรับที่ดี มียอดขายสูง และตอกย้ำความหมายของใบโคลเวอร์ 4 แฉกว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดี อีกทั้งยังเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของ Van Cleef & Arpels อีกด้วย

ปัจจุบัน Van Cleef & Arpels อยู่ในเครือของ Richemont ที่มีแบรนด์เครื่องประดับและนาฬิกาชื่อดังมากมาย อาทิ Cartier, Piaget และอื่นๆ ซึ่งมูลค่าบริษัทของ Richemont ณ ปัจจุบันอยู่ที่ราวๆ 3 ล้านล้านบาท และมีสาขากระจายไปทุกภูมิภาคทั่วโลก ซึ่งในประเทศไทยมีอยู่ 2 สาขาที่ สยามพารากอนและเอ็มโพเรียม 

และนี่คือเรื่องราวของ Van Cleef & Arpels แบรนด์ที่เริ่มต้นจากคู่รักที่มีความรักราบรื่น ไลฟ์สไตล์ที่เหมือนกัน ทุกๆ อย่างเป็นใจให้นำมาสู่การสร้างแบรนด์เครื่องประดับที่โด่งดังไปทั่วโลกจนถึงทุกวันนี้..

ที่มา 

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า