‘วัตสัน’ ถอนตัวจากรัสเซีย ปิดทุกสาขา ยุติกิจการ

‘วัตสัน’ แบรนด์ดรักสโตร์ระดับอินเตอร์ กำลังปิดร้านทุกสาขา ยุติกิจการในรัสเซีย

โดยโฆษกของวัตสัน ซึ่งเป็นธุรกิจเรือธงของเครือ A.S. Watson Retail Group (หนึ่งในธุรกิจของ CK Hutchison บริษัทของเศรษฐีฮ่องกง Li Ka-shing) บอกกับสำนักข่าว Nikkei Asia ว่า เมื่อปลายเดือน ม.ค. ผู้บริหารของเครือตัดสินใจยุติการขายในรัสเซีย และจะปิดกิจการในรัสเซียลง

สาเหตุมาจากผลประกอบการที่ไม่น่าพอใจต่อเนื่องหลายปี แม้ทีมงานจะพยายามปรับปรุงเพอร์ฟอร์แมนซ์ของธุรกิจตลอดหลายปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ วัตสันมีสาขาในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กรวม 47 สาขา เริ่มเข้ามาทำธุรกิจในรัสเซียตั้งแต่ปี 2005 ด้วยการซื้อเชนร้านสุขภาพและความงามท้องถิ่นอย่าง Spektr

จากนั้นก็รีแบรนด์เป็น Watsons ในปี 2018 ต้อนรับการเปิดสาขาที่ย่านการค้าสำคัญในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กอย่างถนน Vosstaniya ซึ่งเป็นสาขาแรกอย่างเป็นทางการของแบรนด์

ถึงจะบอกว่าเป็นเพราะผลการดำเนินงาน แต่การเปิดเผยแผนยุติกิจการในรัสเซียของวัตสันครั้งนี้ มาในจังหวะที่แบรนด์ค้าปลีกและร้านอาหารระดับนานาชาติหลายแห่งกำลังระงับหรือยุติการดำเนินงานในรัสเซีย

แม้ทางการรัสเซียจะข่มขู่ว่าจะให้ทรัพย์สินของบริษัทที่เลิกกิจการตกไปเป็นของรัฐ แต่แบรนด์ต่างๆ เช่น Apple, Ikea, McDonald’s, Starbucks, H&M, Zara และ Adidas ต่างก็ยืนหยัดที่จะหยุดขายในรัสเซีย

รวมไปถึงแบรนด์ญี่ปุ่นอย่าง Uniqlo ที่ออกมายุติการขายด้วยอีกราย แม้ก่อนหน้านั้นผู้ก่อตั้งบริษัทจะยืนยันว่าจะขายในรัสเซียต่อไป แต่สุดท้ายก็ทนแรงกดดันจากสังคมไม่ไหว

แต่ถึงอย่างนั้น โฆษกของ A.S. Watson ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นว่ามาตรการคว่ำบาตรรัสเซียส่งผลกระทบต่อบริษัทหรือไม่ อย่างไร

สำหรับวันปิดทำการอย่างเป็นทางการนั้นยังไม่มีประกาศออกมาแน่ชัด แต่เจ้าหน้าที่หน้าร้านคนหนึ่งบอกว่า ช่องทางออนไลน์ของวัตสันในรัสเซียจะหยุดรับออเดอร์ในวันที่ 21 มี.ค. ส่วนหน้าร้านจะปิดภายในวันที่ 30 มิ.ย.

ทั้งนี้ ข้อมูลจาก CK Hutchison ระบุว่า ณ เดือน มิ.ย. 2021 หน่วยธุรกิจความและสุขภาพของบริษัทนั้นมีหน้าร้านอยู่ 2,468 สาขาในยุโรปตะวันออก

และครึ่งปีแรกของปีที่แล้ว ภูมิภาคนี้สร้างรายได้ 8.47 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือราว 3.6 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

และถ้าเทียบใน 4 ภูมิภาคที่ A.S. Watson เข้าไปดำเนินธุรกิจร้านสุขภาพและความงาม ยุโรปตะวันออกเป็นภูมิภาคที่ทำกำไรได้สูงสุดเป็นอันดับ 2 โดยครึ่งปีแรกที่ 2021 มีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย อยู่ที่ 1.06 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือราว 4.5 พันล้านบาท

มากไปกว่านั้น ในบรรดาธุรกิจทั้ง 6 ของ CK Hutchison เครือ A.S. Watson ก็เป็นแหล่งรายได้ที่ใหญ่ที่สุดอีกด้วย

และแม้จะไม่ชัดเจนว่าตลาดรัสเซียสร้างยอดขายได้เท่าไร แต่ถ้าเทียบกับในยูเครนแล้ว ตลาดยูเครนเป็นส่วนสำคัญของความสำเร็จในภูมิภาคนี้ให้วัตสันได้มากกว่ารัสเซีย

โดยในยูเครนมีสาขาอยู่ 225 แห่งใน 11 เมือง มีพนักงานราว 2,000 คน

A.S. Watson ยังมีการแสดงจุดยืนข้างยูเครนอย่างชัดเจน โดยเมื่อวันที่ 5 มี.ค. A.S. Watson โพสต์เฟซบุ๊กว่ากำลังสนับสนุนรัฐบาลท้องถิ่น โรงพยาบาล และองค์กรพัฒนาเอกชนในยูเครน ด้วยการบริจาคเวชภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล และให้การช่วยเหลือฉุกเฉินแก่ผู้ลี้ภัยในโปแลนด์ โรมาเนีย และที่อื่นๆ ด้วย

นอกจากนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เครือข่ายโทรศัพท์มือถือ Three ของ CK Hutchison ในสหราชอาณาจักร ก็ประกาศงดเป็นสปอนเซอร์เชลซี ซึ่งมีรายงานว่ามีมูลค่าอยู่ที่ 40 ล้านปอนด์ต่อปี (1.7 พันล้านบาท) หลังจากที่ Roman Abramovich เจ้าของเชลซีชาวรัสเซีย ถูกคว่ำบาตรโดยรัฐบาลอังกฤษ เพื่อตอบสนองต่อสงครามยูเครน

ที่มา : https://asia.nikkei.com/Politics/Ukraine-war/Li-Ka-shing-s-Watsons-drugstore-chain-pulling-out-of-Russia?fbclid=IwAR1MibP6eWkg8Wtv0WrNir8hg_h2GnErVLABy1p-_vQkU5CRqz_F6_ogaQU