SHARE

คัดลอกแล้ว

ออกตัวแต่ต้น ว่าคอนเสิร์ตนี้ ‘ไม่มีเป๊ะ แค่กะๆ’ แต่ก็ไม่รู้กะไปกะมาอิท่าไหน Wednesday Song ความสนุก 100 นาที หากนักร้องและเจ้าของเวทีไม่ติดลม ช่วงค่ำวันพุธ ดำเนินมาถึง Vol. 3 ด้วยการ Sold out แล้วทุกที่นั่ง

 

Wednesday Song คือ พื้นที่ที่เปิดให้คุณทิ้งตัวกลางสัปดาห์ บนเบาะนุ่มๆ แอร์ฉ่ำๆ ท่ามกลางเสียงเพลงจากศิลปินคุณภาพ โดยไม่ต้องเสียแรงคิดให้ปวดหัว ว่าจะฟังเพลงอะไรดี เพราะเขาจัดเพลย์ลิสต์ พร้อม ‘เรื่องเล่า’ ผ่านคนเล่าเรื่องมาให้แล้ว

ฟังๆ ไป ความรู้สึกคล้ายเวลา เพื่อนมาเผลอเปิดเพลย์ลิสต์ทิ้งเอาไว้ แล้วเราขอแอบฟังสักหน่อย แต่พิเศษกว่ามาก ตรงที่มีศิลปินที่เราไม่ต้องค้นหาชื่อ มาปิดจบความสนุกแบบใกล้ชิด ในระยะสายตาไกลสุดไม่เกิน 28 เมตร กับความจุ 1,000 ที่นั่ง

เอาจริงดิ คอนเสิร์ตวันพุธ? อะไรทำให้เกิด Wednesday Song ที่ไม่ใช่มีเรื่องเล่าแค่บนเวที คนฟังยังติดใจจนเล่าต่อ กลายเป็นอีกคอนเสิร์ต ที่ต้องตั้งนาฬิกามากดบัตร ทุกคำถามกระจ่าง เมื่อเราไม่มีโอกาส ไปคุยกับ 2 คนเบื้องหลัง อย่าง พี่ตุ้ม-สรกล อดุลยานนท์ หรือที่ทุกรู้จักดีในชื่อ ‘หนุ่มเมืองจันท์’ และ พี่เอก-ชยานันต์ เทพวนินกร หรือ เอก สยามพิฆ ผู้ร่วมก่อตั้งโรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ

[ฟังเพลง ‘กลางสยาม’ ใจ ‘กลางสัปดาห์’]

ความสัมพันธ์กว่า 20 ปี ของคนเบื้องหลังคู่นี้ นี่จึงไม่ใช่โปรเจ็กต์แรกที่ทั้งคู่โยนไอเดียใส่กัน แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่คลอด จนวันนึงคำถามจากพี่เอกว่า ‘พี่ตุ้มมา Talk อะไรกันได้บ้างพี่?’ ดังขึ้นกลางวงสนทนา

“ผมไม่เห็นภาพตัวเองอยู่บนเวทีแบบนั้นเลย แล้วผมเคยฟัง นิ้วกลม (สราวุธ เฮ้งสวัสดิ์) รวมถึงโน้ต (อุดม แต้พานิช) เล่าว่าต้องทำอะไรบ้างกว่าจะเป็น talk show ผมคิดเลย ทำไม่ได้ ผมขี้เกียจเกินว่าจะทำอย่างนั้น มันต้องใช้วินัยสูงมาก ความจำก็ไม่ดีแล้ว”

แต่มีหรือที่จะแค่ปฏิเสธแล้วจบ เขาย้อนไปถึงไอเดียหนึ่งที่เคยพับเก็บ นั่นคือ ‘อยากทำคอนเสิร์ตในช่วงเวลาที่คนอื่นเขาไม่ทำกัน

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ไอเดียนี้ตอบโจทย์สิ่งที่เอกเคยคิดไว้พอดิบพอดี “weekday เป็นสิ่งที่โรงละครหาคอนเทนต์อยู่แล้ว และเคยง้างจะทำฟังเพลงกลางสัปดาห์ อ้าว ตรงกัน”

นับจากนั้น ไม่รู้ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ทั้งคู่จะภาวนาให้ไอเดียคลาดกันอย่างที่ผ่านมาหรือไม่ เพราะนับตั้งแต่นักข่าวตัดสินใจจัดคอนเสิร์ต ความบันเทิงเลยเกิดขึ้นไม่หยุด จะมาร้องเพลงแล้วจบคงเป็นไปไม่ได้ จากพี่น้องคุยกันสนุกๆ ทุกอย่างก็เริ่มจริงจัง และชัดเจนขึ้น

[เพลงที่เคยฟัง อาจไม่มีวันเหมือนเดิม]

ตั้งต้นก่อนว่า ถ้าใครเคยไปโรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ ที่ตั้งอยู่บนสยามสแควร์วัน คงพอนึกออกว่า โรงละครแห่งนี้มีขนาดกำลังพอเหมาะ ให้คุณได้เสพพลังของหมู่คน จนไม่รู้สึกตัวลีบเล็กเกินไป จะบอกว่าอบอุ่นก็ว่าได้ เพราะความใกล้ชิดติดเวที ไม่ต่างกับการตีตั๋วชั้นพิเศษ ไม่ว่าจะจับจองพื้นที่โซนไหนนี่เอง

“28 เมตร โดยประมาณ คือสนามบาสจากแป้นนึงไปสู่อีกแป้น แปลว่าแถวหลังสุดที่เราดูคอนเสิร์ต อาจยังเป็นระยะของบัตรแพงที่สุดในคอนเสิร์ตใหญ่ทั่วๆ ไป” พี่ตุ้มอธิบายให้เห็นภาพ

ความใกล้ชิดที่เป็นจุดขาย เลยยิ่งทำให้ Wednesday Song น่าสนใจ ทั้งคู่ใช้สิ่งนี้ร่วมกันดีไซน์คอนเสิร์ตได้อย่างสนุก พวกเขามีโอกาสรังสรรค์บรรยากาศ เหมือนเล่นในผับดีๆ ที่ศิลปินบนเวทีมีปฏิสัมพันธ์กับคนดูได้ และยังตัดข้อจำกัดของสคริปต์ ที่ไม่ต้องเป๊ะ จนเสียอารมณ์ 

แต่ทั้งหมดเกิดขึ้น ภายใต้มาตรฐานระดับโรงละครชั้นดี ที่เคยจัดการแสดงระดับโลกมาแล้ว แถมคนเบื้องหลังยังเป็น ‘หนุ่มเมืองจันท์’ ที่แฟนๆ รู้ดี ว่าเล่าเรื่องไหนก็ชวนติดตาม ‘เรื่องเล่า’ จึงไม่ต่างกับกระดูกสันหลังของเวที

‘เพลย์ลิสต์ ของ…’ อะไรกันนะ? มีนักร้องกี่คนกันแน่? เปิดตัวคอนเสิร์ตใหม่ๆ เชื่อว่าคงมีสับสนกันบ้าง เพราะเวทีนี้เริ่มต้น ด้วยการให้นักร้องหรือคนในแวดวง ลองมาจัดเพลย์ลิสต์ของตัวเอง แบ่งปันเรื่องราวแวดล้อมเพลงเหล่านั้น ก่อนจะมีนักร้องมาบิ๊วอารมณ์ต่อ รู้ตัวอีกทีเพลงเดิมๆ กลับมีความหมายต่างไปจากเดิม โดยไม่ทันตั้งตัว

พี่ตุ้มเล่าอย่างไม่ปิดบัง ว่าแรงบันดาลใจหนึ่ง ว่าจะขาดช่วงนี้บนเวทีไปไม่ได้ มาจากตัวอย่างการสัมภาษณ์ศิลปินในรายการป๋าเต็ดทอล์ก ของ ป๋าเต็ด— ยุทธนา บุญอ้อม ที่ช่วยย้ำให้เห็น ว่าเพลงที่ร้อง หรือถูกชอบโดยใครสักคน มีเหตุผลอยู่มากมาย นั่นเลยทำให้ Wednesday Song เปิดเวทีด้วยเพลย์ลิสต์แรกของป๋าเต็ด 

“เรื่องเล่าทำให้เพลงๆ นึงไม่เหมือนเดิม ถ้าเราไม่เคยฟัง ก็จะทำให้รู้สึกว่าเพลงนี้น่าฟังขึ้น แต่ถ้าเราเคยฟังมาแล้ว ความรู้สึกก็จะเปลี่ยนไป ดนตรีมันเป็นอย่างนั้น” พี่ตุ้มเล่า

ถึงตอนนี้ ถ้าต้องสวมหมวกนักธุรกิจ คงเดาทางว่าเพลย์ลิสต์ถัดๆ ไป หากไม่ใช่ของศิลปินที่มีชื่อ เพลงนั้นคงดังเป็นพลุแตก แต่พี่เอกกลับไม่คิดอย่างนั้น เขาไม่กลัวที่จะเปิดเพลย์ลิสต์ที่ผู้ฟังอาจไม่คุ้นหู เพราะเชื่อว่าทุกคนพร้อมสนุกตามแน่

ใส่สุดขนาดนี้แล้ว การที่ทั้งคู่จะคว้าไมค์ เอาคนดูให้อยู่มือในช่วงเปลี่ยนวง พร้อมกิจกรรมพูดคุยจับโน่นแจกนี้ด้วยตัวเอง ก็ไม่ใช่เรื่องน่าตกใจเกินไปแล้ว ถึงทั้งคู่จะตอบทีเล่นทีจริงว่า งบประมาณรัดตัว ถึงต้องประหยัดค่าพิธีก่อนเสียหน่อย แต่เอาเข้าจริงใครจะรู้ทุกเม็ดของเวทีนี้ดีเท่าคนทั้งคู่ 

ถึงขั้นว่าจะตามเสียงแรงเชียร์ ร้องสักเพลงเลยไหม พี่ตุ้มเอ่ยปากขอไว้หน่อย เพราะหายใจยังเพี้ยน “ต้องบอกตรงๆ งานเราอย่ามาเอาความเนี้ยบ ความเนี้ยบไปหาที่คอนเสิร์ต”

ก่อนที่ช่วงท้ายจะจัดหนักจัดเต็ม ส่งต่อเวทีให้ศิลปินที่ทุกคนกำลังรอ ซึ่งพร้อมจะมาเติมแรงให้คุณหลังเลิกงาน แต่ถ้าใครจะใส่สุดจนแรงหดกว่าเดิม ก็คงห้ามกันไม่ได้

[แบงก์เทามีทอนก็ดูคอนนี้ได้]

รายละเอียดครบพร้อมปิดจบการขาย แต่อย่างที่บอกว่าทุกไอเดีย ต่างต้องผูกโยงกลับมาตอบโจทย์เริ่มแรกที่ว่า พวกเขากำลังจัดคอนเสิร์ตกลางสัปดาห์กันอยู่

เพิ่งจะวันพุธคนจะเปย์ให้กับความสุขหลักหลายพันไหม…ต้องเผื่อเวลาฝ่ารถติด ขนาดไหนกันนะ…

ยุ่งหัวฟูมาทั้งวัน จะไปภาพตัดกลางคอนไม่ได้…

สารพัดความกังวลเหล่านี้ ในฐานะผู้จัดพยายามลดทอนให้มากที่สุด เพื่อให้มั่นใจว่า ทุกคนจะปล่อยใจไปกับเรื่องเล่า และเสียงดนตรีบนเวทีได้อย่างเต็มที่

พี่เอก เล่าว่า ด้วยธรรมชาติของการจัดงาน โปรดักชั่นและแพคเกจที่ห่อหุ้มโชว์ ทำให้ราคาบัตรคอนเสิร์ตสูงตามต้นทุน Wednesday Song เลยเลือกที่จะตัดพิธีกรรมหลายอย่างออกไป เพื่อให้สามารถรักษาจุดขาย ให้ทุกคนตัดสินใจมาได้อย่างสบายใจ

ทำไมถึงสนใจเรื่องราคาบัตรเป็นพิเศษ? นอกจากให้ทุกคนควักกระเป๋าง่ายขึ้นแล้ว คงต้องย้ำว่า Wednesday Song จัดในวันพุธ เดือนละสองครั้งโดยประมาณ และมีเป้าว่าจะทำให้เกิดขึ้นตลอดทั้งปีนี้ นั่นหมายถึง พวกเขาคาดหวังให้ทุกคนกลับมาสนุกกันได้อีกบ่อยๆ นั่นเอง

และตัวเลข 100 นาทีแห่งความสุข ก็ไม่ใช้สิ่งที่มโนขึ้นมา พี่ตุ้ม อธิบายไว้ ว่าคิดบนเงื่อนไขที่ทุกคนจะได้มีเวลาพักผ่อนพอ สำหรับเช้าวันใหม่ ถึงได้กำหนดเวลาแสดงช่วงทุ่มครึ่ง ถึงสามทุ่มโดยประมาณ “100 นาที มันเหมือนกับการดูหนัง โดยดูหนังตัวอย่างด้วยนะครับ ก็เหมือนกับใช้ชีวิตกับการดูหนังแค่นั้นเอง”

ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ ทำเลของโรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ ที่ตั้งติดกับสถานีรถไฟฟ้าสยาม จึงยิ่งทำให้การเดินทางสะดวกสบาย ต่อให้ขับรถส่วนตัวมา ก็ยังมีที่จอดคอยให้บริการ แถมหน้างานยังมีอาหารและเครื่องดื่มให้รองท้อง ซึ่งพี่เอกโชว์ฝีมือเอง ถ้าใครจะจัดเต็มกะอิ่มให้คุ้มค่าบัตร ก็คงไม่มีใครห้าม

สุดท้ายครบ 100 นาที จังหวะที่ก้าวออกจากโรงละคร อาจมียิ้มมุมปาก กับความประทับใจส่งท้าย ที่ไม่เพียงใช่เพียงความรื่นรมย์จากศิลปินบนเวที แต่อาจเป็นการที่ได้ดูคอนเสิร์ตคุณภาพดีๆ แบบหูไม่อื้อ ก้นไม่เมื่อย แถมยังเหลือเสียงให้ไปตบตีกับงานที่รักในเช้าวันถัดไป ของฝากที่ Wednesday Song มอบให้

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า