Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

แม้จะพ้นช่วงการแพร่ระบาดใหญ่มาพักหนึ่งแล้ว แต่ทุกวันนี้ออฟฟิศบางแห่งยังมีนโยบายให้พนักงานทำงานอยู่บ้านได้ 100% หลายแห่งปรับวิธีการทำงานเป็นระบบไฮบริด เข้าออฟฟิศสลับทำงานอยู่บ้าน โดยปัจจุบันพบว่า การกลับเข้าทำงานที่ออฟฟิศเต็มเวลาทั้ง 5 วัน กลายเป็นโจทย์ยากของนายจ้างไปแล้ว

สำนักข่าว BBC ให้ข้อมูลถึงสถานการณ์ของบริษัทในอเมริกาขณะนี้ว่า หากบริษัทใดต้องการให้พนักงานกลับมาทำงานที่ออฟฟิศทุกวัน พวกเขาต้องยอมจ่ายเงินเดือนมากขึ้น สถิติในปี 2565 พบว่า นายจ้างเพิ่มเงินเดือนให้พนักงานมากขึ้นถึง 29.2% เพราะหากไม่ทำเช่นนั้น คนทำงานเหล่านี้ก็เลือกที่จะเปลี่ยนใจไปหาองค์กรที่ให้ทำงานจากที่บ้านได้มากกว่านั่นเอง

[ ยืดหยุ่นไม่ได้ ก็ต้องยอมจ่ายเพิ่ม ]

ZipRecruiter แพลตฟอร์มที่เปรียบเสมือนมาร์เก็ตเพลสของคนทำงาน ระบุว่า บริษัทในอเมริกาเสนอเงินเดือนให้กับคนทำงานที่เต็มใจเข้าออฟฟิศทุกวัน ด้วยค่าจ้างเฉลี่ยราว 82,037 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้ากว่า 33% ส่วนหนึ่งเพื่อชดเชยความยืดหยุ่นที่พนักงานให้ความสำคัญในช่วงหลายปีที่ผ่านมาด้วย

ยิ่งมีการกดดันให้พนักงานกลับเข้าออฟฟิศมากเท่าไร บริษัทยิ่งต้องยอมจ่าย-เชือดเฉือน เพื่อชิงตัวคนเก่งมาด้วยอัตราเงินเดือนที่สูงเท่านั้น ZipRecruiter ระบุว่า พนักงานที่เปลี่ยนรูปแบบจากการทำงานแบบรีโมต 100% สู่การทำงานเต็มเวลาที่ออฟฟิศ ได้รับค่าจ้างเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าเมื่อเทียบกับพนักงานที่ย้ายไปทำงานที่อื่น

ด้าน Julia Pollak หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ที่ ZipRecruiter ได้ข้อสรุปว่า ขณะนี้คนทำงานกำลังเรียกร้องให้นายจ้างจ่ายค่าตอบแทนที่มากขึ้น แลกกับการที่พวกเขาต้องกลับเข้าออฟฟิศทุกวัน สำหรับบริษัทที่ให้ความยืดหยุ่นกับคนทำงานได้ พวกเขาไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเดือนที่มากกว่าปกติ เพราะมีข้อเสนอเหล่านี้เป็นแรงจูงใจได้ ซึ่งเป็นแรงจูงใจที่ไม่ได้มาในรูปแบบตัวเงิน

ส่วนออฟฟิศที่ต้องการให้พนักงานเข้าออฟฟิศ 5 วันต่อสัปดาห์ สามารถเสนอได้เฉพาะเงื่อนไขทางการเงินเท่านั้น มองว่า สวัสดิการอื่นๆ ที่เพิ่มเข้ามาไม่อาจทดแทนการกลับเข้าออฟฟิศทุกวันได้ โดยตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจะคิดเป็นมูลค่าเงินดอลลาร์ตามจำนวนเวลาที่ใช้ในสำนักงาน

ไม่เพียงในอเมริกาเท่านั้น แต่ฝั่งยุโรปเองเองก็พบว่า ความพร้อมของออฟฟิศที่เอื้อให้พนักงานทำงานจากที่บ้านหรือทางไกลก็มีน้อยลงเช่นกัน จากการสำรวจด้วยกลุ่มตัวอย่างของคนทำงานกว่า 15,000 คน ในสหราชอาณาจักร เมื่อเดือนตุลาคม 2566 พบว่า มีคนทำงานถึง 43% ที่กลับเข้ามาทำงานที่ออฟฟิศโดยสมบูรณ์แบบแล้ว 

[ ทำงานที่บ้าน ช่วยลดค่าใช้จ่ายออฟฟิศ Win-win ทั้งสองฝ่าย ] 

ทว่า สำหรับออฟฟิศบางแห่งที่ไม่ได้เรียกร้องให้พนักงานกลับเข้าออฟฟิศ พบว่า เป็นสถานการณ์ที่ ‘Win-win’ กันทั้งสองฝ่าย ออฟฟิศเองก็ประหยัดต้นทุนในการจัดหาทรัพยากรเต็มรูปแบบเหมือนกับตอนที่ทุกคนทำงานในออฟฟิศเต็มเวลา ส่วนคนทำงานเองก็รู้สึกสบายใจ ได้จัดการเวลาที่ยืดหยุ่นกับวิถีชีวิตมากขึ้น

แต่สำหรับนายจ้างบางรายแล้ว พวกเขายอมจ่ายเงินเดือนที่สูงขึ้น รวมถึงทรัพยากรต่างๆ ที่ถึงพร้อมเพื่อให้คนทำงานกลับเข้าออฟฟิศเต็มเวลาให้ได้ Pollak เสริมว่า นายจ้างบางรายรับรู้ว่า การทำงานจากที่บ้านมีประสิทธิภาพน้อยกว่าการเข้าออฟฟิศ พวกเขาจึงเต็มใจที่จะจ่ายมากขึ้น ไม่ว่าต้องแลกมาด้วยเงินทอง หรือการสนับสนุนทั้งกายและใจของพนักงานก็ตาม

ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด มองในมุมกลับว่า ดีมานด์-ซัพพลายในตลาดแรงงานลักษณะนี้ อาจมีผลกระทบต่อความคลาดเคลื่อนของฐานเงินเดือนในตลาดต่อไปได้ งานที่มีรายได้สูงแต่ความยืดหยุ่นน้อย ทำให้พนักงานบางคนเลือกสละค่าตอบแทนดังกล่าวแล้วไปเลือกงานที่ให้อิสระมากกว่า

หากนายจ้างต้องการให้พนักงานกลับเข้าออฟฟิศจริงๆ การขับเคี่ยวด้วยตัวเลขที่สูงกว่าตลาดเช่นนี้จะยังคงอยู่ต่อไป เพราะรูปแบบการทำงานแบบไฮบริดหรือการทำงานจากที่บ้านคงไม่หายไปง่ายๆ คนทำงานยังต้องการความยืดหยุ่น และในตลาดเองก็มีงานมากมายที่ดึงดูดกลุ่มคนทำงานเหล่านี้ด้วยข้อเสนอการทำงานจากที่บ้านไม่น้อยกว่า 2 วันต่อสัปดาห์

อย่างไรเสีย นายจ้างยังต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่สู้กันด้วยการเพิ่มฐานเงินเดือนไปเรื่อยๆ ตราบใดที่การทำงานในรูปแบบดังกล่าวยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเช่นนี้

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า