Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

หลายคนเคยสงสัยเหมือนกันมั้ยว่า ทำไมร้านกาแฟดังๆ ของไทย ไปจนถึงคาเฟ่หลายแห่ง ถึงได้ขายกาแฟแก้วนึงในราคาที่สูงลิบลิ่ว

เมนูเริ่มต้นอย่างอเมริกาโน บางครั้งก็เริ่มที่ 100 บาทแล้ว ยิ่งหากเป็น Specialty Coffee หรือกาแฟพิเศษที่มักเป็นเมล็ดจากประเทศต่างๆ มีรสชาติแปลกใหม่ ผ่านกระบวนการ Process อย่างดี บางครั้งราคากระโดดไปแก้วละที่ 200 บาท

ราคาขนาดนี้เมื่อเทียบกับรายได้และค่าครองชีพในไทย ทำให้ ‘กาแฟดีๆ’ สักแก้วกลายเป็นของแพงเกินเอื้อมถึง และอาจไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะกินได้ทุกวัน

แล้วทำไมถึงเป็นแบบนั้น อุตสาหกรรมกาแฟไทยมีอุปสรรคอะไร? TODAY Bizview ชวนหาคำตอบเรื่องนี้ไปกับ ‘กรณ์ สงวนแก้ว’ อุปนายกสมาคมกาแฟพิเศษไทย

[ กำแพงภาษี ]

ปัจจัยแรกที่ทำให้กาแฟในไทยแพง เป็นเพราะ ‘ภาษีนำเข้า’ ที่สูงถึง 90% เป็นอัตราที่สูงเป็นอันดับ 2 ของโลก

สาเหตุเป็นเพราะในยุคที่รัฐบาลต้องการสนับสนุนให้เกษตรกรเลิกปลูกฝิ่น และหันมาปลูกกาแฟแทน จึงออกมาตรการภาษีนำเข้าที่สูง เพื่อผลักดันให้เกิดการปลูกกาแฟ-ใช้ผลผลิตกาแฟในประเทศ

‘กรณ์’ อธิบายให้เห็นภาพชัดขึ้นว่าหากกาแฟกิโลกรัมละ 100 บาท เมื่อนำเข้ามาเสียภาษีอีก 90 บาท นอกจากนี้ยังต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม (Vat) อีก 7% และเมื่อรวมค่าขนส่งแล้วกาแฟหนึ่งกิโลกรัมนี้เลยมีราคาพุ่งไปที่ 220 บาท

-ร้านกาแฟเชนดังระดับโลกกำหนดมาตรฐานว่าต้องใช้กาแฟนำเข้าจากต่างประเทศ

-กาแฟดีๆ โดยเฉพาะกาแฟพิเศษ เน้นไปที่รสชาติอันหลากหลายของกาแฟสายพันธุ์ต่างๆ จากทั่วโลก ซึ่งต้องนำเข้า

-เมล็ดกาแฟที่ผลิตในประเทศยังไม่เพียงพอต่อความต้องการดื่มกาแฟในไทย ทำให้กาแฟที่ใช้ในไทยราว 75% มาจากการนำเข้า

ยังไม่รวมว่าร้านกาแฟต้องเจอต้นทุนอื่นๆ เช่น ค่าเครื่องชง, ค่าเช่าที่, ค่าจ้างพนักงาน ฯลฯ

และนั่นก็ทำให้กาแฟดีๆ หรือกาแฟจากร้านดังบางแห่งมีราคาสูงเมื่อเทียบกับค่าครองชีพในไทย

โครงสร้างราคากาแฟที่บิดเบี้ยวทำให้ผู้ประกอบการที่อยากให้ธุรกิจอยู่ได้ ต้องหาทางเข้าถึงผู้บริโภคส่วนใหญ่ที่รายได้ไม่สูงมาก ซึ่งหนึ่งในวิธีลดต้นทุนคือใช้เมล็ดกาแฟคุณภาพต่ำนำมาคั่วเข้มๆ เพื่อกลบรสชาติไม่ดีอื่นๆ จนได้กาแฟรสชาติขม

รสนิยมการดื่มกาแฟรสชาติดีจึงถูกจำกัดอยู่ในวงแคบๆ และกลายเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยสำหรับคนบางกลุ่ม

[ มีภาษีช่วย ทำไมไทยไม่ปลูกกาแฟเยอะๆ ]

ประเด็นที่น่าสังเกตคือ แล้วทำไมเกษตรกรไทยเราไม่ปลูกกาแฟให้มากพอกับความต้องการ

ความจริงข้อหนึ่งคือ โดยทั่วไปแล้ว ‘กาแฟ’ เป็นพืชที่เติบโตได้ดีในภูมิประเทศเฉพาะตัวประมาณหนึ่ง เช่น ต้องการที่สูง โดยที่แต่ละสายพันธุ์ก็ต้องการปัจจัยอย่างแดด น้ำ ลม ที่ไม่เท่ากัน

สำหรับประเทศไทย แม้รัฐจะสนับสนุนให้ปลูกกาแฟ แต่ก็กำหนดสายพันธุ์ที่ให้ปลูกได้ไว้แล้ว ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ทนแดด ทนฝน ลูกดก ตายยาก แต่ก็ให้คุณภาพที่สู้กับต่างประเทศไม่ได้

ขณะที่กาแฟต้องใช้เวลาปลูกถึง 5 ปีกว่าจะได้ผลผลิต และอีก 5 ปีถึงจะได้ผลผลิตที่ดีที่สุด

เมื่อต้องใช้พื้นที่ปลูกจำเพาะ กว่าจะได้ผลผลิตก็นาน สายพันธุ์ที่ปลูกได้ก็ขายได้ไม่แพง สายพันธุ์คุณภาพดี ได้ราคาแพง ก็หาทางปลูกได้ยาก กาแฟจึงไม่ได้กลายเป็นพืชเศรษฐกิจฮิตๆ ของไทย

ยังไม่รวมถึงเรื่องการปั่นราคาและเก็งกำไรของนายทุนและผู้ที่เห็นช่องว่างราคากาแฟไทยและราคากาแฟประเทศเพื่อนบ้าน และเห็นช่องทางนำเข้าตามแนวชายแดน ที่ทำให้กาแฟไทยโดนกาแฟเพื่อนบ้านตัดราคา ขายสินค้าไม่ได้จนเกษตรกรบางรายขาดทุน

[ กาแฟพิเศษ-แพง แต่จะช่วยยกระดับชีวิตเกษตรกร ]

แต่ถ้าถามว่าไทยเราควรลุยปลูกกาแฟให้ได้ปริมาณมากๆ จนเพียงพอสำหรับในประเทศ ทำให้คนไทยได้กินกาแฟราคาถูกลง และส่งออกไปต่างประเทศได้ด้วยดีไหม ‘กรณ์’ มองว่าไม่อยากให้เป็นแบบนั้น

เขามองว่าหากอยากให้วงการกาแฟไทยยั่งยืน เกษตรกรไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดี ควรมุ่งไปที่การพัฒนาคุณภาพของเมล็ดกาแฟ รวมถึงมุ่งไปในทางกาแฟพิเศษ แทนการมุ่งปริมาณดีกว่า

กรณ์บอกว่า กาแฟพิเศษนอกจากจะได้ราคาสูง ยังเป็นกลุ่มที่ราคาไม่ค่อยผันผวนไปตามตลาดโลกมากนัก แต่อุปสรรคในปัจจุบันที่จะมุ่งไปสู่กาแฟพิเศษ ก็ยังอยู่ที่ข้อกำหนดของภาครัฐ

“จริงๆ โดยรวมคุณภาพกาแฟไทยดีมาก ได้ 80 คะแนนขึ้นไปเกือบทั้งประเทศ ภาพรวมถือว่าดีกว่าฮาวาย ปานามา บราซิล แต่ระดับท็อปสุดๆ ของประเทศมีจำนวนน้อยมาก คือหลักสิบกิโลกรัม ดังนั้นเราแทบไม่มีกาแฟระดับท็อปเยอะมากพอ”

กรณ์ สงวนแก้ว อุปนายกสมาคมกาแฟพิเศษไทย

เขามองว่าถ้าประเทศไทยมีกาแฟสายพันธุ์ที่ดี ให้คุณภาพและรสชาติอร่อย นั่นจะเปิดโอกาสให้เกษตรกรไทยเติบโตได้อีกมาก

“แต่ตอนนี้เรานำสายพันธุ์ที่ดีเข้าไทยไม่ได้ เนื่องจากติดข้อกำหนดของภาครัฐที่กำหนดว่าเราไม่สามารถนำต้นกาแฟสายพันธุ์อื่นเข้ามาปลูกในไทยได้ แต่ถ้าภาครัฐสามารถส่งเสริมด้วยการจับมือกับองค์กรวิจัยสายพันธุ์กาแฟ เราจะสามารถพัฒนาสายพันธุ์ที่รสชาติอร่อยและทนต่อสภาวะอากาศได้มากขึ้นด้วย”

ถึงอย่างนั้น ความท้าทายอย่างหนึ่งที่ยังมีอยู่คือด้วยกำแพงภาษีนำเข้าที่สูง ทำให้เกษตรกรบางกลุ่มไม่มีแรงจูงใจที่จะพัฒนาคุณภาพกาแฟให้ดี

แต่ด้วยราคาที่สูงเช่นกันที่ดันให้คนรุ่นใหม่ที่มีความรู้กลับไปที่ไร่กาแฟ แล้วมีแรงผลักดันที่อยากจะพัฒนากาแฟให้ดีกว่ารุ่นพ่อแม่ หลายคนเห็นการประกวดแล้วอยากชนะ อยากพัฒนากาแฟของตัวเองให้ดีขึ้นไป

โดยในประเทศไทยมีการประกวดเมล็ดกาแฟในงาน Thailand Coffee Fest ซึ่งล่าสุดกาแฟที่ชนะถูกประมูลไปด้วยราคาสูงถึง 33,500 บาท/กิโลกรัม

[ คนไทยจะได้กินกาแฟถูกลงไหม ]

คนในวงการกาแฟหลายคนมองว่า สิ่งที่จะช่วยให้กาแฟในไทยถูกลงได้ คนไทยได้จิบกาแฟคุณภาพกลางๆ ในราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น รัฐควรต้องปรับลดภาษีนำเข้าให้ไม่สูงอย่างเช่นทุกวันนี้

ขณะที่ในมุมของอุปนายกสมาคมกาแฟพิเศษไทย เขาเข้าใจว่ากาแฟในปัจจุบันแพงเมื่อค่าครองชีพ แต่เขามองว่าสำหรับกาแฟพิเศษแล้ว ถือเป็นการจ่ายเพื่อแลกให้เกษตรกรได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี

“ถ้าเรารู้สึกว่ากาแฟแก้วละ 100 บาท ยังแพงเกินไป ถ้าเราไม่ได้กินทุกวัน แต่ได้มีโอกาสกิน เช่นวันนี้อยากกินกาแฟดีๆ แล้วยอมจ่ายได้ มันอาจจะไม่ใช่ทุกวัน ไม่ใช่ทุกแก้วที่เรากิน แต่ถ้าเรายอมจ่าย ถ้ามันเป็นกาแฟไทย แน่นอนว่ามันส่งเสริมให้เกิดอีโคซิสเต็มที่ยั่งยืนขึ้น เพราะเงินที่เรายอมจ่าย มันจะเข้าไปถึงต้นน้ำได้แน่นอน”

อ้างอิง:

https://www.dft.go.th/th-th/Question-Answer/Webboard/aft/421

การลดภาษีนำเข้ากาแฟจาก 90% เหลือ 0% คือทางรอดของอุตสาหกรรมกาแฟไทย

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า