“สานฝันคนอยากทำเพลง” ความตั้งใจของ “เต็น ธีรภัค” กับ X-TEN STUDIO บันไดขั้นแรกที่ไม่ใช่ค่ายเพลง

“อยากให้ทุกคนมีช่องทางในการปล่อยผลงานของตัวเอง”

“เต็น ธีรภัค มณีโชติ” หรือ “พี่เต็น” อดีตสมาชิกวงสไมล์ บัฟฟาโล่ (Smile Buffalo) ศิลปินยุค 90 ที่เคยฝากผลงานเพลงโด่งดังไว้มากมาย รวมทั้งผลงานในอัลบั้มเดี่ยวอย่างเพลง นับหนึ่ง ที่ทั้งร้องและแต่งเพลงเอง กล่าวกับ “ทีมข่าวเวิร์คพอยท์” ด้วยแววตาเปี่ยมสุข

ด้านผลงานส่วนตัว “พี่เต็น” ยังคงเป็นศิลปินคุณภาพที่ฝากผลงานไว้ในวงการเพลงให้เห็นอย่างต่อเนื่อง และยังรับเล่นดนตรีอยู่บ้าง หากสมาชิกทุกคนในวงสไมล์ บัฟฟาโล่ ว่างตรงกัน ที่สำคัญ “พี่เต็น” ยังคงแต่งเพลงอยู่เรื่อยมา เชื่อว่าเอ่ยชื่อเพลงหลายคนต้องรู้จัก ไม่ว่าจะเป็นเพลง “อาย” ขับร้องโดย สิงโต นำโชค, เพลง “เคมี” ขับร้องโดย โย่ง อาร์มแชร์ รวมทั้งเพลงประกอบละครช่อง 3 หลายต่อหลายเพลง ล่าสุดก็เพลง “พระอาทิตย์ตอนกลางคืน” ประกอบละครเรื่องทิวาซ่อนดาว

นอกจากนี้ “พี่เต็น” ยังได้นำเอาความรู้และประสบการณ์ที่มีมาถ่ายทอดให้กับทุกคนที่มีฝันอยากเป็นนักแต่งเพลง นักทำเพลง โดยล่าสุดได้เปิดคอร์สสอนแต่งเพลงออนไลน์ เรียนแบบตัวต่อตัวด้วย แต่ก่อนหน้านี้ ในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา “พี่เต็น” เริ่มจากเปิดคอร์สสอนแต่งเพลงในชื่อ X-TEN Academy มาก่อน

กระทั่งมีลูกศิษย์คนหนึ่งยุพี่เต็นว่า “น่าจะทำผลงานของลูกศิษย์ออกมา” พี่เต็นจึงก่อตั้ง X-TEN STUDIO ขึ้น เพื่อบันไดขั้นแรกให้ทุกคนมีช่องทางในการปล่อยผลงานของตัวเอง

กำเนิด X-TEN

“ผมเปิด X-TEN Academy ซึ่งเป็นคอร์สสอนแต่งเพลงมาได้ประมาณ 2-3 ปี อยู่ๆ ก็มีลูกศิษย์คนหนึ่งมายุ ว่าผลงานของลูกศิษย์น่ะ ทำไมพี่ไม่ทำ นั่นแหละครับ ก็เป็นครั้งแรกที่ทำให้เรารู้สึกว่า เออ ทำไมเราไม่ทำ แล้วมันจะได้เหรอ แต่พอเราฟังเพลงของลูกศิษย์ที่มาเรียนก็รู้สึกว่า เด็กสมัยนี้เก่ง แล้วมุมมองความคิดเมื่อเทียบกับรุ่นเราแล้วมีความแตกต่าง จริงๆ ลึกๆ ก็อยากให้คนทั้งประเทศได้ฟังเพลงของลูกศิษย์ที่มาเรียนกับเราด้วย ไม่ใช่หมายความว่ามาเรียนกับเราแล้วจะต้องแต่งเพลงเหมือนพี่เต็นนะ ผมว่าวงการนี้มันจะมีสีสันอีกมากมาย ผมก็เลยรู้สึกว่า จากคำพูดของน้องคนนั้น ผมก็เลยเปิดเป็น X-TEN STUDIO และกำลังจะมีผลงานเพลงใหม่ล่าสุดเป็นซิงเกิลแรกของลูกศิษย์ออกมาในนามของ X-TEN STUDIO

ส่วนที่มาของชื่อ X-TEN จริงๆ ผมทำกีตาร์มารุ่นนึง เป็นกีตาร์ Signature ของผมเอง ตอนทำออกมาก็มีคนถามว่าชื่ออะไร ผมก็เลยบอกว่าชื่อ X-TEN เอ็กซ์ (X) ในภาษาโรมันก็คือ 10 TEN ก็คือ 10 X-TEN จริงๆ ก็แปลว่าขยายออกไปด้วย ผมรู้สึกว่าความหมายมันดี เลยคิดว่าชื่อนี้น่าจะเหมาะ”

บันไดขั้นแรก สถาบันสร้างคน

“งานที่ผมทำก็คือเป็น Academy พอเขามีเพลงขึ้นมาก็คือต้องออกผลงาน จริงๆ Academy สมมติในแง่ของทีมฟุตบอล ที่สร้างเด็กขึ้นมาเต็มไปหมด พอสร้างเสร็จแล้วก็กลายเป็นนักเตะทีมลูกหนังที่ยิ่งใหญ่ ก็เหมือนกัน จุดเริ่มต้นของเราคือทำที่นี่ ออกที่นี่ เรามีอุปกรณ์ทุกอย่างครบหมด มีทั้ง MV ที่จะปล่อยออกมา ซึ่งผมเชื่อว่าวงการเพลงสมัยนี้ ในการที่จะทำเพลงแล้วนำเสนอออกมามันไม่ยาก ผมก็จะเป็นบันไดขั้นแรกให้เขา คือถ้าเขาอยากอยู่กับเราต่อ เราก็จะทำไปเรื่อยๆ แต่เราจะไม่ปิดกั้น เขาอยากจะไปโตต่อที่ไหน ผมให้เขาไป เพราะว่าหลักๆ เราคือ Academy ที่เมื่อทำจบแล้วมีผลงานออกมาให้คนไทยได้ฟังเพลงกัน”

X-TEN STUDIO ไม่ใช่ค่ายเพลง

“ไม่ใช่ค่ายเพลงครับ ค่ายเพลงมันจะอีกแบบนึง ผมคิดว่าตรงนี้เป็นที่สำหรับทุกคน แต่ค่ายเพลงเรื่องธุรกิจต้องมาเป็นอันดับ 1 แน่นอน ธุรกิจค่ายเพลง ชื่อมันชัดอยู่แล้ว ของเราเป็นแค่ Academy เป็นสถาบันที่สร้างคนขึ้นมา ส่วนเขาจะอยู่กับเราหรือไม่ ก็แล้วแต่ เราไม่ได้มีกรอบอะไร เราเน้นเรื่อง Academy มากกว่า แต่ผลงานที่ทำออกไปก็ทำอย่างจริงจัง อยากให้ทุกคนมีช่องทางในการปล่อยผลงานของตัวเอง”

 ผลงานแรกของ X-TEN STUDIO

“เป็นผลงานของลูกศิษย์นะครับ ชื่อวง SERVE SKIN (เซิร์ฟสกิน) เป็นลูกศิษย์คนนึงที่ขับรถมาจากชลบุรีมาเรียนทุกอาทิตย์ ผมเห็นแววตั้งแต่ครั้งแรกแล้วที่เขาทำงาน ผมว่าเด็กคนนี้เก่ง เป็นเด็ก ม.บูรพา ที่เรียนดนตรีมาด้วย หน้าตาดี เก่งทุกอย่าง ครบ เพอร์เฟกต์ พอเขาแต่งเพลงมา ผมฟังแล้วรู้สึกว่าเพลงเขาดีมาก ดีแบบที่ผมรู้สึกว่าผมแต่งแบบนี้ไม่ได้ รู้สึกได้เลย คือหลายๆ คนก็แต่งดี แต่คนนี้เพราะสุด เลยคิดว่าต้องทำผลงานออกมาแล้วล่ะ เก็บไว้อย่างเดียวไม่ได้ ผมว่าเขามีความเป็นมืออาชีพสูงมาก ถึงจะเป็นครั้งแรกของเขาก็ตาม ซึ่งปล่อยผลงานครั้งแรกวันที่ 4 ตุลาคม 62 ทาง Youtube, Joox, Apple Music ในทุกช่องทางที่มีในปัจจุบัน ก็คิดว่าน่าจะมีคนติดตามอยู่ เพราะผมก็เพิ่งเปิดเพจ X-TEN STUDIO ไปได้ประมาณ 2 อาทิตย์ ก่อนจะปล่อยซิงเกิลแรกนี้ ซึ่งใช้ชื่อ X-TEN STUDIO ทั้งใน Youtube และ Facebook โดยในปีนี้ตั้งใจไว้ว่าจะออกผลงานมาทั้งหมด 4 ซิงเกิล 4 ศิลปิน จริงๆ ตอนนี้เรามีศิลปินอยู่ประมาณ 10 กว่าคนแล้วที่รอคิวออก ก็แพลนไว้ว่าออกต่อเนื่อง ปีหน้า (2563) นี่ก็ออกยาวเลย ไม่มีหยุดสักเดือน เพราะว่าลูกศิษย์ที่สอนมาทั้งหมดก็ 30 กว่าคนแล้ว ที่ทำงานร่วมกับผมก็ประมาณ 10 กว่าคน แล้วก็มีคนนอกอีกที่เข้ามา ทำงานร่วมกันแล้วสนุก”

 ใช่ว่าต้องเป็นผลงานลูกศิษย์เสมอไป

“ผลงานที่ออกจาก X-TEN STUDIO จุดเริ่มต้นมาจากเป็นลูกศิษย์ แต่พอตอนหลังก็มีหลายๆ คนเข้ามา พอเข้ามาก็ต้องมีการคุยกัน ปรึกษากัน ปรึกษาไปปรึกษามาผมก็ไปสอนเขาอีกแล้ว เขาก็มาถามเรา ก็กลายเป็นการเรียนรู้ เขาไม่ได้มาในฐานะลูกศิษย์ที่จะมาเรียน แต่เขามาเพราะอยากให้เราทำเพลงให้ แต่ทำไปทำมาก็กลายเป็นเพื่อนร่วมงาน เป็นลูกศิษย์ไปในตัว จริงๆ มันคล้ายๆ กัน แต่การเข้ามาคนละแบบ แต่สุดท้ายเมื่อผลงานออกมาก็มีความสุขกัน ได้แลกเปลี่ยนความรู้กันด้วย”

กลับไปวันแรก วันที่มีความสุข

“หัวใจสำคัญของการเล่นดนตรีหรือแต่งเพลง คือเราต้องกลับไปวันแรกที่เราทำ ว่าเราทำเพราะอะไร หนึ่ง ถ้าทำเพราะมีความสุข นั่นคือ อย่างแรก แต่งเสร็จ มีความสุข ณ เพลงแรกนะ ไม่มีใครแต่งเพลงแรกแล้วอยู่ๆ จะดัง หรือมีคนชอบเลย มันก็ต้องแต่งอยู่บ้าน ยิ้ม มีความสุข ผมว่ามุมเนี้ย กลับไปรู้สึกในมุมนี้ให้ได้ก่อน แล้ว อย่างที่สอง ก็คือ ทำให้คนฟังมีความสุข นั่นคือสิ่งที่เราควรจะทำ ส่วนสาม สี่ ห้า หก มีงาน มีเงินอะไรนี้ ทุกคนอยากได้อยู่แล้ว แต่ว่าจำสองอย่างแรกไว้ก่อน…

“ทำให้ตัวเองมีความสุข กับ ทำให้คนที่ฟังเพลงของเรามีความสุข”

เรื่อง: บรรเจิดลักษณ์ คำเจริญ

ภาพ: ศิริพร เซียนพานิช

(ขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก X-TEN STUDIO)