กรมเจ้าท่ายังกู้ซากเรือฟินิกซ์ไม่ได้ จ่อฟ้องเรียกค่าใช้จ่ายทั้งหมดจากเจ้าของเรือ

ภูเก็ต ที่ปรึกษาทนายเจ้าของเรือฟินิกซ์แจงเหตุไม่กู้เรือเพราะอยู่น้ำลึก ไม่ขวางการเดินเรือและไม่เป็นมลพิษ ด้านอธิบดีกรมเจ้าท่ายืนยันเหตุผลว่า ในอนาคตอาจจะกีดขวางการเดินเรือ และเป็นอันตรายต่อแนวปะการัง

วันที่ 15 ส.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้ากรณีการกู้ซากเรือฟินิกซ์ ซึ่งอับปางกลางทะเลภูเก็ตระหว่างเกาะเฮกับเกาะราชา อ.เมือง ภูเก็ต และจมอยู่ใต้ทะเลที่ระดับความลึกประมาณ 45 เมตร เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2561 ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเสียชีวิตจำนวน 47 คน และบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง โดยกรมเจ้าท่าได้ว่าจ้างบริษัท สปิทซ์ เทค จำกัด ให้ทำการกู้ซากเรือดังกล่าวขึ้นมา เพื่อทำการตรวจพิสูจน์หาสาเหตุการอับปาง หลังจากทางบริษัท ทีซี บลู ดรีม จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของเรือ ปฎิเสธที่จะทำการกู้โดยอ้างว่าอยู่ในระดับความลึกมาก และไม่กีดขวางเส้นทางการเดินเรือ  ซึ่งได้เริ่มปฏิบัติการมาตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 14 สิงหาคมก็ยังไม่สามารถดำเนินการได้สำเร็จ เนื่องจากเจอกระคลื่นลมแรง  และนับเป็นอุปสรรคสำคัญของปฏิบัติการครั้งนี้

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ในฐานะที่ปรึกษากฎหมายของผู้ประกอบการเรือฟิกซ์

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ในฐานะที่ปรึกษากฎหมายของผู้ประกอบการเรือฟิกซ์  กล่าวถึงกรณีการกู้ซากเรือฟินิกซ์ว่า  ขณะนี้เจ้าของเรือยังถูกคุมขังอยู่ ประกอบกับมีการบอกว่าต้องใช้งบในการกู้ถึง 45 ล้านบาท  ขณะที่มีเอกชนรายหนึ่งเสนอราคามาให้กับทางบริษัทฯ อยู่ที่ 4 ล้านบาทเท่านั้น และหากไม่สามารถกู้ได้เขาก็จะไม่เอาเงินด้วย ซึ่งในการกู้เรือนั้นจะต้องเป็นไปตามพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย  มีเหตุผลในการกู้ 2 ประการ คือ เป็นอุปสรรคหรือเป็นอันตรายกีดขวางการเดินเรือ และทำให้เกิดมลพิษ

“เหตุที่เจ้าของเรือปฎิเสธกู้เรือขึ้นมานั้น เนื่องจากเรือลำนี้จมอยู่ใต้น้ำในระดับความลึกถึง 45 เมตร จึงไม่กีดขวางและไม่เป็นอันตรายต่อการเดินเรือ รวมทั้งไม่ก่อให้เกิดมลพิษด้วย แต่เหตุที่ต้องกู้เรือขึ้นมา เนื่องจากตำรวจจะต้องใช้เป็นวัตถุพยานในคดีอาญา ฉะนั้นหากการกู้เรือเป็นการดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาจึงเป็นหน้าที่ของรัฐที่จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง  สำหรับเรือลำนี้มีการทำประกันไว้ที่ 20 ล้านบาท หากไม่สามารถกู้เพื่อนำขึ้นมาซ่อมได้ ทางบริษัทประกันก็จะจ่ายในลักษณะเรือเสียหายทั้งลำ ดังนั้นหากมีการเรียกค่าใช้จ่ายในการกู้ของกรมเจ้าท่า แนวทางต่อสู้เราจะไปโต้แย้งว่า คำสั่งของกรมเจ้าท่าไม่ชอบตามพระราชบัญญัติเดินเรือในน่านน้ำไทย เพราะเรือไม่กีดขวางการเดินเรือ และไม่ก่อให้เกิดมลภาวะ และอยากตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ทำไมกรณีเรือไทนานิคทำจึงไม่กู้” นายนิพิฎฐ์ กล่าว

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมเจ้าท่า

ด้านนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวถึงการกู้เรือฟินิกซ์ว่า ตามกฎหมายเป็นหน้าที่ของเจ้าของเรือ โดยกรมเจ้าท่าจะเป็นผู้ออกคำสั่งให้เจ้าของเรือดำเนินการ ซึ่งได้มีการออกคำสั่งไปตั้งแต่หลังเกิดเหตุใหม่ๆ และเจ้าของเรือรับทราบคำสั่งในวันที่ 11 กรกฎาคม 2561 และได้ให้เวลา 20 วัน แต่เจ้าของเรือไม่ยอมกู้และได้แต่งตั้งตัวแทนมาแจ้งว่าจะไม่กู้เรือดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่าระดับน้ำลึกมากและไม่ได้กีดขวางการเดินเรือ แต่ในส่วนของกรมเจ้าท่ามองว่าเรือลำดังกล่าวจะต้องทำการกู้ขึ้นมา เพราะในอนาคตอาจจะกีดขวางการเดินเรือ และอาจจะเป็นมลภาวะที่เป็นอันตรายสิ่งแวดล้อมได้ เพราะจุดที่เรือจมน้ำห่างจากแนวปะการังประมาณ 100 เมตร ดังนั้นเมื่อครบกำหนดทางกรมเจ้าท่าก็จะต้องดำเนินการเอง และเมื่อกู้เสร็จก็จะมีการฟ้องร้องเรียกค่าใช้จ่ายทั้งหมดจากทางเจ้าของเรือต่อไป เบื้องต้นจำนวน 10 ล้านบาท เมื่อกู้ขึ้นมาได้แล้วก็จะนำไปไว้ที่คานเรือรัตนชัย