Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

Kisi บริษัทออกแบบระบบรักษาความปลอดภัยทางกายภาพ เช่น การติดตั้งระบบเข้า-ออกโดยไม่ใช้กุญแจ ให้กับสำนักงานหลายแห่งทั่วโลก ได้เผยแพร่การจัดอันดับเมืองที่มี Work-Life Balance หรือสมดุลระหว่างการใช้ชีวิตและการทำงานดีที่สุดในโลก ประจำปี 2021

ซึ่งผลปรากฏว่า 5 อันดับเมืองที่มี Work-Life Balance ดีที่สุดในโลก ได้แก่

1.เฮลซิงกิ – ประเทศฟินแลนด์

2.ออสโล – ประเทศนอร์เวย์

3.ซูริค – ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

4.สต็อกโฮล์ม – ประเทศสวีเดน

5.โคเปนเฮเกน – ประเทศเดนมาร์ก

ขณะที่กรุงเทพฯ อยู่ในอันดับที่ 49 จาก 50 เมืองที่ Work-Life Balance ดีที่สุดในโลกในปีนี้

นอกจากนี้ หากพิจารณาในเรื่องของการทำงานหนัก กรุงเทพฯ ยังติดอันดับ 3 จาก 5 อันดับเมืองที่ผู้คนทำงานหนักมากที่สุดในโลก โดยอันดับ 1 ได้แก่ ฮ่องกง รองลงมาคือสิงคโปร์, กรุงเทพฯ, บัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา และกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้

Kisi ระบุว่า บริษัทให้ความสำคัญกับการทำงานอย่างชาญฉลาดมากกว่าการทำงานหนัก รวมถึงให้คุณค่าของการรักษาสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานเป็นอันดับหนึ่งด้วย จึงทำการศึกษาในหัวข้อนี้ และเผยแพร่ผลการศึกษาออกมาเป็นครั้งแรกในปี 2019

ส่วนในปีนี้ได้อาศัยปัจจัย 18 ด้าน เพื่อวิเคราะห์ความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานใน 50 เมืองทั่วโลก โดยคำนึงถึงการส่งเสริมให้เกิดความสมดุลที่ดีทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น นโยบายและโครงสร้างพื้นฐานของเมือง ในขณะเดียวกันก็ให้ความสนใจกับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดใหญ่ด้วย

บริษัทระบุว่า ผลการจัดอันดับในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า เมืองต่างๆ มีอันดับอย่างไรเมื่อเทียบกับสถานะในช่วงก่อนเกิดโรคระบาด และช่วยฉายภาพให้เห็นว่าโควิด-19 สร้างการเปลี่ยนแปลงแค่ไหน ส่งผลกระทบต่อ Work-Life Balance ของผู้คนในเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลกอย่างไร

อย่างไรก็ตาม การศึกษาครั้งนี้ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อเป็นดัชนีบ่งชี้ความน่าอยู่ของเมือง และไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อเน้นย้ำถึงเมืองที่ดีที่สุดในการทำงาน แต่จะเป็นสิ่งบ่งชี้ถึงความสามารถของเมืองนั้นๆ ในการสร้าง Work-Life Balance ที่ดีสำหรับผู้อยู่อาศัย รวมถึงมอบสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการบรรเทาความเครียดจากการทำงานในระหว่างและนอกช่วงเวลาวิกฤตการระบาด

โดยในการศึกษา Kisi ได้พิจารณาจากปัจจัยหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น เปอร์เซ็นต์ของงานที่จัดอยู่ในประเภท ‘ทำงานจากระยะไกลได้’ รวมถึงความเข้มข้นในการทำงานโดยรวมของแต่ละเมือง ซึ่งพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การทำงานมากเกินไป, จำนวนวันหยุดพักผ่อน และการลาเพื่อเลี้ยงดูบุตร เป็นต้น

นอกจากนี้ การศึกษาชิ้นนี้ยังให้ความสนใจเป็นพิเศษเกี่ยวกับตัวเลขการว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้นในหลายพื้นที่ เนื่องจากการระบาดครั้งใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ รวมถึงยังสนใจเปอร์เซ็นต์ของผู้ที่ต้องทำงานหลายงานจึงจะสามารถดำรงชีพอยู่ได้

Kisi ระบุว่า ขั้นตอนถัดมา บริษัทได้พิจารณาถึงจำนวนผู้ที่ได้รับการเยียวยาทางเศรษฐกิจจากผลกระทบของโควิดในปีที่ผ่านมา รวมถึงได้ประเมินการเข้าถึงโครงการด้านสุขภาพและสวัสดิการจากภาครัฐ ตลอดจนการสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศ

นอกจากนี้ยังประเมินความน่าอยู่ของแต่ละเมืองโดยพิจารณาค่าครองชีพ ความสุขและความปลอดภัยโดยรวมของประชาชน รวมถึงการเข้าถึงสถานบริการสุขภาพและการพักผ่อน ก็ช่วยให้ประเมินได้ว่าผู้อยู่อาศัยในเมืองนั้น สามารถเพลิดเพลินไปกับสภาพแวดล้อมหลังเลิกงานในช่วงสถานการณ์ปกติได้หรือไม่

สุดท้าย Kisi ยังได้พิจารณาผลกระทบจากการแพร่ระบาดต่อ Work-Life Balance ในเมือง ภายใต้ประเด็นสำคัญหลายๆ ด้าน เช่น จำนวนผู้ป่วย ความรุนแรงของมาตรการล็อกดาวน์ และความสูญเสียทางเศรษฐกิจ ซึ่งนำมารวมกันเพื่อกำหนดคะแนน ‘ผลกระทบจากโควิด’ ด้วย

ที่มา: https://www.getkisi.com/work-life-balance-2021

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า