Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ประเด็นคือ – อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องทันที 2 แม่ลูกด่าหยาบคาย ถุยน้ำลายใส่ ตร.ทุ่งมหาเมฆ ขณะเจ้าตัวโต้ถูก ตร.พูดจายั่วยุก่อน ส่วนบิดาเตรียมฟ้องกลับผู้โพสต์คลิป

วันนี้ (19 ก.ย. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ ควบคุมตัว นางสาวสราวรรณ หว่างตาล อายุ 38 ปี และนายพายุ แซ่โง้ว อายุ 19 ปี สองแม่ลูกที่ปรากฏในคลิปที่กำลังโด่งดังในโลกโซเชียล ที่แสดงความไม่พอใจตำรวจจราจร สน.ทุ่งมหาเมฆ ที่ออกใบสั่ง และแสดงกิริยาด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ถ่มน้ำลายใส่ตำรวจ และท้าต่อย มาส่งให้อัยการศาลแขวงพระนครใต้ พิจารณามีความเห็นทางคดี หลังทั้งคู่เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน

โดยลูกชายถูกดำเนินคดี รวม 5 ข้อหา คือ

1. ไม่สวมหมวกนิรภัย

2. ไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์

3. ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนรถ

4. ทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่

5. ดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่

ส่วนผู้เป็นแม่ถูกดำเนินคดีในข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่เพียงข้อหาเดียว โดยทั้งคู่รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

ด้าน นางสาวสราวรรณ ผู้เป็นแม่ เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 2-3 เดือนที่แล้ว ลูกชายของตนเองเคยถูกตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ เรียกจับในข้อหาไม่สวมหมวกกันน็อก และไม่มีใบขับขี่ ระหว่างการขี่จักรยานยนต์นำของมาส่งให้ตนไปขาย ส่วนวันที่เกิดเหตุครั้งล่าสุดที่เป็นประเด็น ลูกชายของตนขี่รถจักรยานยนต์มาส่งของให้ตนเหมือนเดิม และถูกตำรวจเรียกจับในข้อหาไม่มีใบขับขี่ ไม่สวมหมวกกันน็อก และไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน รวมทั้งมีเสียงวอเข้ามาให้ตรวจค้นร่างกายว่ามียาเสพติดซุกซ่อนหรือไม่ ต่อมาตำรวจที่เคยมีปากเสียงกันเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว เข้ามาสมทบ และมีการพูดจายั่วยุ รวมทั้งมีการบันทึกคลิปดังกล่าว ซึ่งการบันทึกคลิปทำให้ลูกชายของตนเกิดความโมโหสุดขีด

โดยหลังคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ในโลกโซเชียล ตนรู้สึกตกใจมาก ไม่คิดว่าตำรวจจะเล่นแรงขนาดนี้ ถึงขั้นนำคลิปไปประจานเพื่อเล่นงานตนและลูกชาย จนมีผู้คนในสังคมโซเชียลเข้ามาด่าทอ ซึ่งตนคิดว่าตำรวจจะนำคลิปไปใช้เป็นพยานหลักฐานในการดำเนินคดีกับตนและลูกชายเท่านั้น

ด้าน นายพายุ แซ่โง้ว กล่าวว่า ตนเองยอมรับผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น ตนเองใจร้อนและวู่วามเกินไป ซึ่งมารดาตนก็พยายามขวาง แต่ทางเจ้าหน้าที่ผลักแม่ตน ตนเลยรู้สึกโมโหและรู้สึกเหมือนถูกกลั่นแกล้ง ทำให้แสดงกิริยาไม่ดี ตนพร้อมยอมรับผิดและยินยอมที่จะขอโทษเพื่อจบเรื่องดังกล่าว แต่ก็ไม่รู้ว่าทางตำรวจคนดังกล่าวยังติดใจอีกไหม เพราะไม่ได้เดินทางมารับคำขอโทษแต่อย่างใด

ขณะที่ นายธวัชชัย แซ่โง้ว ผู้เป็นบิดา ระบุว่า จะดำเนินคดีกับผู้โพสต์คลิปลงโลกโซเชียล ตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพราะถือว่าทำร้ายตนและครอบครัว โดยการประจานต่อสาธารณชน หากคนลงคลิปเป็นตำรวจก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย

ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ขอบคุณและชื่นชมตำรวจคนดังกล่าวที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเข้มแข็ง ใช้ความอดทนอดกลั้น ซึ่งที่ผ่านมาได้กำชับผู้ใต้บังคับบัญชามาตลอด ให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุขุม เป็นมิตรกับประชาชน เพื่อลดการกระทบกระทั่งกันต่อไป

สำหรับศาลแขวงพระนครใต้ ได้อ่านคำพิพากษาในคดีที่ความผิดจำเลยอายุ 19 ปี รู้ผิดชอบแล้ว จึงไม่ลดมาตราส่วนโทษให้ การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ฐานขับรถโดยไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนปรับ 1,000 บาท ฐานขับรถโดยไม่ได้รับใบอนุญาตปรับ 500 บาท ฐานขับรถโดยไม่สวมหมวกนิรภัยปรับ 200 บาท ฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานจำคุก 1 เดือน ปรับ 5,000 บาท ฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจปรับ 2,500 บาท รวมจำคุก 1 เดือน ปรับ 9,200 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษ มีกำหนด 1 ปี โดยให้จําเลยไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 4 เดือนต่อครั้ง ภายใน 1 ปี

ส่วน นางสาวสราวรรณ มีความผิดตามฟ้อง รับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน ปรับ 5,000 บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 1 ปี

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง: คอตก ! โจ๋หัวร้อนด่า ตร.หยาบคาย จ๋อย จูงมือแม่มอบตัว เจอข้อหาทั้งคู่

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า