Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ประเด็นคือ – กรณีลอตเตอรี่อลเวง ตกลงว่าเป็นของครูหรือของตำรวจยังไม่ทราบแน่ชัด แต่พยานคนสำคัญคือแม่ค้าลอตเตอรี่นั้น มีชาวบ้านออกมาแฉว่าได้ส่วยหากช่วยครูชนะคดี ขณะที่เพื่อนบ้านตรงข้ามบ้านแม่ค้าบอกแม่ค้าไม่เคยพูด 

จากกรณี นายปรีชา ใคร่ครวญ อายุ 50 ปี ครูชำนาญการพิเศษ ร.ร.เทพมงคลรังษี อ.เมืองกาญจนบุรี อ้างว่าถูกลอตเตอรี่ รางวัลที่ 1 เลข 533726 งวดประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 แต่กลับทำหายและถูกผู้แอบอ้างมาเบิกไปแล้ว และกล่าวหาว่า ร.ต.ท.จรูญ วิมล อดีตข้าราชการตำรวจ เป็นผู้นำลอตเตอรี่ไปขึ้นเงิน แต่ทาง ร.ต.ท.จรูญ ก็บอกว่าตัวเองเป็นเจ้าของลอตเตอรี่ตัวจริง

จากนั้นมีข้อมูลที่ทาง ทนายตั้ม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน และ ร.ต.ท.จรูญ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้มีคนพยายามที่จะพาทั้งหมดเพื่อไปเจรจาที่บ้านของนายตำรวจระดับสูงคนหนึ่ง เพื่อให้จบคดี

ต่อมา พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ตร.ภ.จว.กาญจนบุรี ออกมายอมรับว่า เป็นคนเรียกหมวดจรูญไปคุยที่บ้านเมื่อวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมาจริง ส่วนกรณีที่แบ่งเงินกัน 15 ล้านบาท เรื่องนี้ตนไม่ทราบ แต่ทั้งคู่อาจจะมีการตกลงกันเองที่โรงพักในการเจอกันครั้งแรก พร้อมยืนยันว่าตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแน่นอน เพียงแค่ให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย เพราะเรื่องนี้เกี่ยวกับจำนวนเงินค่อนข้างสูง

ส่วนทางด้านคุณครูท่านหนึ่งที่รู้จักครูปรีชาและเคยสอนครูปรีชามาก่อนก็บอกว่า ครูปรีชาเป็นครูที่มีมนุษยสัมพันธ์ดี เรื่องเสี่ยงโชค ครูปรีชาเป็นคนชอบซื้อหวยและมักจะถูกรางวัลบ่อย ถูกเป็นแสนก็มี นอกจากนี้ ยังไม่เชื่อว่าเรื่องดังกล่าวจะมีการทำเป็นขบวนการ เพราะครูปรีชาเป็นคนพอมีฐานะ มีแต่ให้คนอื่นยืมเงินเสียมากกว่า

ขณะที่ด้านนายษิทราก็ได้ออกมาเปิดเผยหลักฐานสำคัญอีกหนึ่งอย่างเกี่ยวกับแม่ค้าลอตเตอรี่ โดยระบุว่า พยานสำคัญที่ทักมาคุยกับผมในเพจ ซึ่งผมและคุณลุงจรูญยังไม่เคยเจอและไม่เคยรู้จักพยานคนดังกล่าวมาก่อน

ล่าสุดวันนี้ (8 ธ.ค. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายษิทราได้พาหญิงสาวสองคนมาลงพื้นที่บริเวณตลาดเรดซิตี้ที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นพยาน มาแย้งคำยืนยันของแม่ค้าดังกล่าว โดยบอกว่าในวันที่ 31 ตุลาคม ทั้งสองคนได้ไปเดินหาซื้อลอตเตอรี่ที่ตลาดเรดซิตี้เช่นกัน โดยได้ไปเดินซื้อในเวลาประมาณ 17.00 – 17.30 น. ซึ่งแม่ค้าคนที่อ้างว่าเป็นผู้ขายลอตเตอรี่ชุดที่ถูกรางวัลให้ครูปรีชา ได้เสนอขายลอตเตอรี่ชุดที่มีเลขท้าย 26 ให้กับตนเช่นกัน โดยเสนอขายในราคา 700 บาท แต่ตนไม่ได้ซื้อมา เนื่องจากเห็นว่ามีราคาสูงเกินไป เมื่อตนไม่ซื้อ แม่ค้าคนดังกล่าวก็ได้เก็บลอตเตอรี่ชุดดังกล่าวเข้ากระเป๋าไป ก่อนจะบ่นต่อว่าพวกตน ว่าถามหาแล้วก็ไม่ยอมซื้อ ทำให้พวกตนจำหน้าแม่ค้าคนดังกล่าวได้

เมื่อได้ดูข่าวและเห็นว่าแม่ค้ามาเป็นพยานยืนยันให้กับครูปรีชา โดยให้การกับตำรวจว่า ได้เก็บลอตเตอรี่ชุดดังกล่าวไว้ให้ครูปรีชา ไม่ได้นำมาขายให้ใคร ตนจึงเห็นว่าคำให้การดังกล่าวไม่เป็นความจริง จึงอยากมาเป็นพยานยืนยันหักล้างคำให้การดังกล่าวของแม่ค้าลอตเตอรี่ โดยตนยืนยันว่าแม่ค้ามีการนำลอตเตอรี่ออกมาจากกระเป๋ามาขายให้ลูกค้าทั่วไปด้วย จึงมีความเป็นไปได้ว่า แม่ค้ารายดังกล่าวอาจจะไม่ได้มีลอตเตอรี่เลขท้าย 26 เพียงแค่ 5 ชุดอย่างที่กล่าวอ้าง เพราะในช่วงเวลาที่ตนไปซื้อนั้นเป็นหลังช่วง 17.00 น. ที่ครูปรีชาอ้างว่ามารับลอตเตอรี่ไปแล้ว หรือแม่ค้าคนดังกล่าวอาจจะนำลอตเตอรี่ชุดเลขท้าย 26 ที่ถูกรางวัลขายให้กับ ร.ต.ท.จรูญ ไปก่อนก็เป็นได้ เพราะเลขท้าย 26 ไม่น่าจะมีเพียง 5 ชุด ตามที่แม่ค้ากล่าวอ้าง

ต่อมามีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้ออกมาโพสต์ว่า เป็นคนรู้จักกับแม่ค้าลอตเตอรี่ และรู้นิสัยแม่ค้าดี ที่ไปเป็นพยานให้ครูนั้นเป็นพยานเท็จ โดยข้อความระบุว่า

“ผมรู้จักแม่ค้าลอตเตอรี่นะ รู้ดีด้วยว่านิสัยแม่ค้าเป็นไง แล้วไปเป็นพยานให้ครูคนนั้น ผมบอกเลยครับว่าเป็นพยานเท็จ เพราะแม่ค้าที่ขายเป็นเพื่อนของคนที่เป็นพยานครับ ที่แม่ค้าที่ขายหวยให้ เขาได้เงินเห็นว่า ถ้าช่วยได้เงิน 1 ล้าน บ้าน 1 หลัง เพราะมีคนบอกมาจากคนสนิทของเขา เพราะคนคนนี้รู้จักกันดีในหมู่บ้าน ผมบอกเลยครับฝ่ายลุงชนะแน่นอน เพราะไอ้ครูนี่มันสั่งไว้แล้วไม่ได้ไปเอา แม่ค้าเลยขายให้อีกคน พอแม่ค้าบอกถูกรางวัล ไอ้ครูนี้ก็เหมือนให้นายตำรวจไปคุยก่อน แล้วขอส่วนแบ่งครึ่งๆ เหมือนอย่างที่ลุงแกบอกไว้ แต่ไอ้ตำรวจเชี่ยนั่นมันก็บอกได้ว่ามันไม่ได้พูด แต่ลุงนั้นได้ยินทุกอย่าง คนเตาปูน จังหวัดกาญ เขารู้นิสัยยายป้าขายหวยนี้ดีครับ เห็นเงินแล้วตาลุกทันที”

ชาวบ้าน จ.กาญจนบุรี แฉแม่ค้าลอตเตอรี่ คุยฟุ้งจะได้เงินล้านหากช่วยครูชนะคดี

โดยในวันนี้ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน ได้นัดกับพยาน 2 ราย ที่อยู่ในจังหวัดกาญจนบุรี หลังจากพยานคนดังกล่าวได้ให้ข้อมูลว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 31 ต.ค. ที่ผ่านมา เธอสองคนได้ไปเสี่ยงเซียมซี และได้เลข 926 ตกเย็นจึงได้ชักชวนกันไปหาซื้อลอตเตอรี่เลขดังกล่าวที่ตลาดเรดซิตี้เวลาประมาณ 5 โมงเย็น จนมาเจอกับร้านของนางรัตนาภรณ์ แม่ค้าขายลอตเตอรี่ ที่ตั้งแผงขายบริเวณหลังศาลพระพรหม และถามหาเลข 926 ซึ่งนางรัตนาภรณ์บอกว่าเลขดังกล่าวไม่มี เพราะเป็นเลขดัง แต่กลับบอกว่าป้ามีเลขท้าย 26 นะ ซึ่งเป็นหวยชุด ไม่แบ่งขาย มี 5 ใบ ขายในราคา 700 บาท จึงได้หันมาปรึกษากัน เพราะว่ามันราคาแพงเกินไป และตัดสินใจไม่ซื้อ ซึ่งพอเธอทั้งสองเดินออกจากร้าน นางรัตนาภรณ์ยังบ่นตามหลังว่า “เอาโชคมาให้แล้วยังไม่ซื้ออีก” ทำให้เธอทั้งคู่หันกลับไปมอง เพราะไม่พอใจว่าทำไมต้องบ่นลูกค้าตามหลังด้วย และเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอจำหน้าได้

นายษิทรายังกล่าวต่ออีกว่า ข้อมูลจากพยาน 2 คน บ่งชี้ได้ว่า นางรัตนาภรณ์ไม่ได้เก็บเลขลอตเตอรี่ 26 ไว้ให้ นายปรีชา ใคร่ครวญ เพราะยังมาเสนอขายเลขดังกล่าวกับคนอื่น ขัดแย้งกับคำให้สัมภาษณ์ของนางรัตนาภรณ์ ที่บอกว่าเก็บลอตเตอรี่ 26 ไว้ให้นายปรีชาคนเดียว

ส่วนกรณีที่ พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี จะเชิญ ร.ต.ท.จรูญ วิมล ไปเข้าเครื่องจับเท็จ ขณะนี้ยังไม่ได้รับหนังสือจากทางตำรวจ แต่ตนจะให้ ร.ต.ท.จรูญ เข้าเครื่องจับเท็จในชั้นพนักงานสอบสวนหรือชั้นศาล อันนี้ต้องพิจารณาอีกครั้ง และยังยืนยันว่าต้องมีการทำเป็นขบวนการแน่นอน

ทั้งนี้ ร.ต.ท.จรูญ และครอบครัว ได้เดินทางมาชี้จุดเกิดเหตุเพื่อเป็นการรวบรวมหลักฐานต่อสู้ในชั้นศาล โดยจุดแรกที่ตลาดเรดซิตี้ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี, จุดที่เดินแยกกับภรรยา, จุดที่ตนได้ซื้อลอตเตอรี่บริเวณหลังศาลพระพรหม นอกจากนี้ ยังพาไปที่บ้านพักของ พล.ต.ต.สุทธิ ที่อยู่ในบริเวณ สภ.เมืองกาญจนบุรี เมื่อวันที่เข้าไปเจรจา และ พล.ต.ต.สุทธิ ขอให้ตนยอมรับว่าเป็นคนเก็บลอตเตอรี่ได้อีกด้วย

นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งข้อมูลจากคนในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี รายหนึ่ง ออกมาเปิดเผยพฤติกรรมของนางรัตนาภรณ์ แม่ค้าขายลอตเตอรี่ บนเฟซบุ๊ก โดยกล่าวอ้างในทำนองที่ว่ารู้จักกับนางรัตนาภรณ์ และคิดว่านางรัตนาภรณ์เป็นพยานเท็จ เพราะมีคนสนิทของนางรัตนาภรณ์เล่าให้ฟังว่า ถ้าหากนางรัตนาภรณ์ช่วยเป็นพยานให้ทางครูปรีชาจนสามารถชนะคดีและได้เงินจำนวนดังกล่าวคืน ครูปรีชาจะให้เงิน 1 ล้าน พร้อมบ้าน 1 หลัง และให้ลองไปถามชาวบ้านละแวกดังกล่าวถึงนิสัยของแม่ค้าขายหวยรายนี้ดู

“ทีมข่าวเวิร์คพอยท์” จึงได้ลงพื้นที่ไปละแวกบ้านพักของนางรัตนาภรณ์ บริเวณซอยเตาปูน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี และได้พูดคุยกับชาวบ้านถึงประเด็นนี้ ปรากฏว่ามีชาวบ้านรายหนึ่งยืนยันข้อมูลดังกล่าวว่าเป็นเรื่องจริง เธอได้ยินมาทำนองนี้เหมือนกันว่า ถ้าหากนางรัตนาภรณ์เป็นพยานนำไปสู่การชนะคดีได้เงินคืน ครูปรีชาจะให้เงิน 1 ล้านบาท และบ้านอีก 1 หลัง แต่เป็นการเล่าปากต่อปากกันมา เธอเองก็ได้ยินเรื่องนี้จากชาวบ้านมาอีกที ส่วนพฤติกรรมส่วนตัวของนางรัตนาภรณ์ เธอบอกแต่เพียงว่าคนแถวนี้ไม่ค่อยมีใครอยากจะยุ่งด้วย

จากนั้น “ทีมข่าวเวิร์คพอยท์” ได้เดินทางไปที่บ้านของนางรัตนาภรณ์ ปรากฏว่าไม่พบตัว จึงได้พูดคุยสอบถามประเด็นนี้กับเพื่อนบ้านตรงกันข้าม โดยเพื่อนบ้านรายนี้เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ไม่เคยได้ยินนางรัตนาภรณ์มาเล่าเรื่องที่ครูปรีชาจะแบ่งเงินและซื้อบ้านให้ เคยคุยกันตอนเป็นข่าวใหม่ๆ เล่าเพียงว่า “เขาได้หาเลข 26 และเก็บไว้ให้ครูปรีชาลูกค้าประจำ และได้ให้ลอตเตอรี่กับครูปรีชาไปแล้วจริงๆ และบอกว่านางรัตนาภรณ์เล่าอีกว่าตอนนี้ปวดหัวกับเรื่องนี้มาก พร้อมยืนยันว่านางรัตนาภรณ์เป็นคนขยันทำมาหากิน ประหยัดอดออม และไม่เชื่อว่าจะมีการทำเป็นขบวนการ

ทั้งนี้ ทีมข่าวได้พยายามติดต่อนางรัตนาภรณ์ หลังจากเข้าให้ปากคำกับตำรวจเมื่อช่วงเช้า ซึ่งนางรัตนาภรณ์กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ตอนนี้ได้มอบหลักฐานกับตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี ไปทั้งหมดแล้ว แต่ไม่ขอเปิดเผยว่าได้ให้หลักฐานอะไรไปบ้าง เพราะตำรวจขอว่าไม่ให้ตนให้สัมภาษณ์เรื่องใดๆ กับสื่อมวลชน

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า