ดอร์ทมุนด์ยุคลูเซียง ฟาฟร์ ทีมที่ร้อนแรงที่สุดในเมืองเบียร์

ศึกบุนเดสลีกาเยอรมันผ่านมาแล้ว 6 นัด (มีแค่โวล์ฟบวร์กและแวร์เดอร์ เบรเมนที่แข่งมาแล้ว 7 เกม) จ่าฝูงของลีกลูกหนังเมืองเบียร์เมืองไม่ใช่ยอดทีมบาวาเรียอย่างบาเยิร์น มิวนิคอีกต่อไป แต่เป็นทาง “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่ผงาดขึ้นมาแทน

ภายใต้การนำของลูเซียง ฟาฟร์ ยอดกุนซือชาวสวิตฯ ดอร์ทมุนด์ลงทำศึก 6 เกมแรกของฤดูกาลนี้ด้วยการชนะ 4 นัด และเสมอ 2 นัด เก็บได้ 14 คะแนนเท่ากันกับแวร์เดอร์ เบรเมนก็จริง แต่ประตูได้เสียของดอร์ทมุนด์ดีกว่ามากนักด้วยการกดไปถึง 19 ประตู และเสียเพียง 5 ประตูเท่านั้น ด้านรองจ่าฝูงอย่างเบรเมนยิงได้ 13 ประตู แต่ก็เสียประตูมากถึง 8 ลูกด้วยกัน อะไรกันที่ทำให้ดอร์ดมุนด์ที่ฟอร์มลุ่มๆ ดอนๆ เมื่อซีซั่นที่แล้ว กลับมาฟอร์มโหดได้ขนาดนี้?

ลูเซียง ฟาฟร์

ยุคของลูเซียง ฟาฟร์

ฤดูกาล 2017-2018 ถือเป็นผลงานที่ค่อนข้างหน้าผิดหวังของทัพเสือเหลือง โดยปีเตอร์ บอสซ์กุนซือหนุ่มที่ดอร์มุนไปตามจีบตัวมาจากอาแย็กซ์คุมทีมอยู่เพียง 7 เดือนก็โดนปลดออก หลังพาทีมหล่นมาอยู่อันดับ 7 ของตาราง ด้านฮันส์-โยอาคิม วัตซ์เค่ ผู้บริหารของดอร์ทมุนด์จึงไดเลือกปีเตอร์ ชโตเกอร์ที่เพิ่งโดนปลดจากโคโลญจน์เข้ามาคุมทีมชั่วคราวจนพาทีมขึ้นมาอยู่ที่ 4 ของตาราง จนเมื่อช่วงกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ประกาศแต่งตั้งลูเซียง ฟาฟร์ กุนซือชาวสวิตฯ จากสโมสรนีซมารับงานในถิ่นซิกนัล เอดูนา พาร์คแทนที่ของปีเตอร์ ชโตเกอร์กุนซือคนก่อน

ทางลูเซียง ฟาฟร์ประกาศถึงแนวทางการทำทีมของเขาในวันแรกที่รับงานว่า “ผมหวังว่าเราจะเล่นบอลเท้าสู่เท้ากันได้ทั้งทีม เราจะเพรสซิ่งสูงใส่คู่แข่ง และเราจะต้องเล่นเกมสวนกลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ” ซึ่งผลลัพธ์จากปรัชญาของฟาฟร์เห็นได้จากผลงานในสนาม ทัพเสือเหลืองประเดิมนัดแรกด้วยการเปิดบ้านถล่มแอร์เบ ไลป์ซิก 4-1, ถล่มไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต 3-1, ถล่มเอฟซี เนิร์นแบร์ก 7-0 และยิงแซงชนะไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่นไปอย่างสนุก 4-2 นอกจากนี้ฟาฟร์พาทีมเสมอฮอฟเฟนไฮม์ไป 1-1 และเสมอฮันโนเวอร์ไป 0-0 มันนานเท่าไหร่แล้วที่เราไม่เคนได้เห็นเสือเหลืองถล่มประตูคู่แข่งมากมายขนาดนี้นับตั้งแต่การอำลาทีมของเยอร์เก้น คล็อปป์

จาก 6 เกมที่ผ่านมารวมถึง 2 เกมในศึกยูเอฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกที่ดอร์ทมุนด์คว่ำทั้ง คลับ บรูกก์ (ชนะ1-0) และโมนาโก (ชนะ3-0) มาได้ จึงพอจะพิสูจน์ได้ว่าแนวทางการทำทีมของลูเซียง ฟาฟร์นั้นมีเคมีที่เข้ากันกันสไตล์ของทัพเสือเหลือง โดยในคืนนี้ยอดทีมจากแคว้นรูห์รจะเปิดบ้านพบเอาส์บวร์ก ซึ่งถือเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวเพราะเอาส์บวร์กสามารถยันเสมอบาเยิร์น มิวนิคถึงถิ่นมาแล้ว บวกกับสไตล์การเล่นที่เน้นเพรสซิ่งสูงคล้ายๆ กัน จึงถือเป็นบทพิสูจน์ว่าลูเซียง ฟาฟร์จะพาลูกทีมของเขาร้อนแรงได้ต่อเนื่องหรือไม่

จาดอน ซานโช

ดาวรุ่งฟอร์มร้อนแรงกำลังหลักของทีม  

จาดอน ซานโช วัย 18 ปี, ยาคอบ บรุนน์ ลาร์เซ่น วัย 20 ปี, คริสเตียน พูลิซิช วัย 20 ปี, แดน อีกเซล ซากาดู และอัชราฟ ฮาคิมี่ วัย 19 ปี แข้งดาวรุ่งเหล่านี้สามารถโชว์ฟอร์มการเล่นได้อย่างสุดยอด พวกเขาเหล่านี้ถือเป็นกำลังสำคัญของลูเซียง ฟาฟร์ในฤดูกาลนี้ โดยเฉพาะในรายของจาดอน ซานโช, ยาคอบ บรุนน์ ลาร์เซ่น และคริสเตียน พูลิซิช ที่กระหน่ำประตูช่วยทีมอย่างต่อเนื่อง

จาดอน ซานโช ดาวรุ่งชาวอังกฤษที่กดไปแล้ว 1 ประตู กับอีก 7 แอสซิส ปีกชาวอังกฤษรายนี้คือคนที่ช่วยขับเคลื่อนเกมรุกของทีมได้อย่างยอดเยี่ยม ดูได้จากจำนวนแอสซิสที่เขาทำให้ทีมนั้นมากกว่านักเตะดอร์ทมุนด์ทุกคน จนทางแกเร็ธ เซาฑ์เกต ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษต้องเรียกซานโชติดทีมชาติชุดใหญ่

ยาคอบ บรุนน์ ลาร์เซ่น

ด้านยาคอบ บรุนน์ ลาร์เซ่น กองกลางชาวเดนมาร์ก ถือว่าพิสูจน์ตัวเองในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุกของโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ได้อย่างดีเยี่ยม ได้ฤดูกาลนี้ลาร์เซ่นกดไปถึง 3 ประตู กับอีก 2 แอสซิส โดยเฉพาะในเกมที่ดอร์ทมุนด์ถล่มเอฟซี เนิร์นแบร์กลาร์เซ่นคือผู้ที่ยิงประตูเบิกร่อง จากผลงานที่โดดเด่นเหนือมิดฟิลตัวรุกคนอื่นทำให้เจ้าหนูลาร์เซ่นสามารถการันตีตำแหน่งตัวจริงของทีมได้

สุดท้ายคริสเตียน พูลิซิช ปีกความเร็วสูงชาวอเมริกัน ถือเป็นอีกหนึ่งนักเตะที่เป็นกำลังหลักของทีมมาอย่างต่อเนื่องหลายฤดูกาล สำหรับฤดูกาลนี้ดูเหมือนภาระงานของเจ้าหนูพูลิซิชไม่ได้หนักหนาเหมือนซีซั่นก่อน เนื่องจากได้ซานโชคอยแบ่งเบาภาระให้ โดย 6 เกมที่ผ่านมาเจ้าตัวยิงไป 2 ประตู กับอีก 1 แอสซิส โดย 1 ใน 2 ประตูนั้นคือประตูชัยที่ช่วยให้ดอร์ทมุนด์บุกไปชนะคลับ บรูกก์ ถึงถิ่น 1-0 ในบอลยุโรป นอกจากนี้พูลิซิสยังคอยช่วยทีมเติมเกมรุกได้อย่างดีเยี่ยมหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งช่วยชดเชยความหละหลวมในการเล่ยเกมรับของพวกเขาได้ในระดับหนึ่ง

ปาโก้ อัลกาเซร์

ปาโก้ อัลกาเซร์ กับการฉายแสงในถิ่นซิกนัล เอดูนา พาร์ค

หลังจากที่บาร์เซโลน่าไม่มีที่ว่างให้กับศุนย์หน้าชาวสแปนิช ปาโก้ อัลกาเซร์จึงถูกปล่อยให้กับทางโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ยืมตัวไปใช้งาน 1 ฤดูกาล และไม่น่าเชื่อว่าปาโก้ อัลกาเซร์ที่แฟนบอลบาร์ซ่าพร่ำบ่นกับผลงานในสนามของเขาอยู่บ่อยครั้ง จะกลับมาเรียกฟอร์มเก่งอีกครั้งในสีเสื้อของดอร์ทมุน นับตั้งแต่เปิดฤดูกาลมาอัลกาเซร์กดประตูไปแล้วถึง 4 ประตูเป็นรองเพียงมาร์โก รอยส์กัปตันทีมเท่านั้น และร้อนฟอร์มที่ร้อนแรงของเจ้าตัว ทำให้หลุยส์ เอ็นริเก้ กุนซือทีมชาติสเปน ซึ่งเป็นอดีตนายเก่าของเขาสมัยที่อยู่บาร์เซโลน่าเรียกตัวติดทีมชาติชุดใหญ่เพื่อลงทำศึกเนชันส์ลีกที่จะดวลกับทีมชาติอังกฤษต่อไป

มาร์โก รอยส์

ผลงานระดับสุดยอดของกัปตันทีม

นับตั้งแต่เปิดฤดูกาลมา “มาร์โก รอยส์” กัปตันทีมวัย 29 ปี กระหน่ำประตูให้ทีมได้ถึง 6 ประตู กับอีก 4 แอสซิส มากที่สุดเหนือนักเตะดอร์ทมุนและผู้เล่นเยอรมันทุกคนใน 5 ลีกใหญ่ยุโรป ในหลายเกมส์ที่ผ่านมารอยส์มักเติมเกมขึ้นมาในกรอบเขตโทษและสามารถทำประได้เองรวมถึงจ่ายบอลให้เพื่อนร่วมทีมได้อย่างดงาม โดยเฉพาะในเกมกับเนิร์นแบร์กที่เขากดไปถึง 2 ประตู และกดไปอีก 1 แอสซิส ถือเป็นฟอร์มการเล่นที่เหนือชั้นมากของเจ้าตัว ล่าสุดมาร์โก รอยส์ ได้กล่าวถึงบรรดาลูกทีมดาวรุ่งของเขาว่า “เหล่านักเตะหนุ่มๆ หลายคนที่ยังต้องรอเวลา ถึงแม้แต่ละคนจะมีความสามารถยอดเยี่ยมอยู่แล้ว ผมพอใจที่เห็นนโยบายปั้นเด็กของเราไปได้ดี พวกเขาเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเรา และช่วยให้ทีมมีผลงานที่ดี”