ตำรวจโวย “พันตรี” หลอกตัดชุดเครื่องแบบไม่ได้มาตรฐาน สูญกว่า 5 ล้าน

ประเด็นคือ – ผู้เสียหายถูกหลอกตัดเครื่องแบบตำรวจ กว่า 6,000 ชุดสุดทน บุกบ้าน “พันตรี” ผู้รับเหมาถึงในค่าย จ.กาญจนบุรี

พ.ต.ต.วุฒิพงษ์ มหากิจศิริ พร้อมด้วยกลุ่มผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้สั่งตัดชุดเครื่องแบบนายตำรวจ จำนวนกว่า 6,000 ชุด ผ่านทางนายทหารยศพันตรี (พ.ต.) ตำแหน่งนายทหารฝ่ายยุทธการ สังกัดกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี รวมตัวเดินทางไปยังบ้านที่เปิดเป็นร้านตัดเย็บเครื่องแบบทหารและตำรวจ สังกัดกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ เพื่อทวงถามความคืบหน้าในการชำระเงินคืน รวมถึงสอบถามข้อเท็จจริงถึงกรณีที่เจ้าของร้านดังกล่าว ที่อ้างว่า มีโควต้า “ผ้า กากี สนว 01” ในโควต้ากว่าหนึ่งแสนหลา พร้อมที่จะตัดชุดเครื่องแบบข้าราชการตำรวจว่ามีจริงหรือไม่

กลุ่มผู้เสียหาย ตะโกนเรียก นายทหารยศพันตรีและภรรยา ที่เป็นเจ้าของร้านบริเวณหน้าประตูร้าน แต่เจ้าของร้านไม่ออกมาพบ โดยให้พนักงานออกมาบอกว่า เจ้าของไม่อยู่ และปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดใดๆ ทำให้ทางกลุ่มผู้เสียหายตัดสินใจเฝ้ารอประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนเดินทางกลับ พร้อมประกาศว่า จะมารวมตัวกันอีก จนกว่าจะได้รับคำตอบจากทางเจ้าของร้าน

พ.ต.ต.วุฒิพงษ์ ผู้เสียหาย ให้ข้อมูลว่า ช่วงปลายเดือนธันวาคม ปี 2560 นายทหารยศพันตรีคนดังกล่าว ซึ่งเป็นนักเรียนนายร้อยรุ่นเดียวกันกับตน ได้ประสานมาที่ตน เพื่อให้รับโควต้าสั่งตัดชุดเครื่องแบบข้าราชการตำรวจจากเพื่อนตำรวจที่รู้จัก โดยอ้างว่า ตัวเองมีโควต้าผ้ากากี สนว01 อยู่ถึงแสนหลา และมีกำลังช่างตัดเย็บ ซึ่งเป็นบรรดาแม่บ้านของทหาร กว่า 200 ราย มีกำลังการตัดเย็บเครื่องแบบได้เดือนละมากกว่า7,000ชุด ตัดเย็บได้คุณภาพเท่ากับร้านดังในกรุงเทพฯ แต่คิดราคาเพียงชุดละ 1,800 บาท ซึ่งถูกกว่าร้านในกรุงเทพฯที่คิดราคาชุดละ 2,500 บาท

ด้วยความไว้ใจ ทำให้ตนหลงเชื่อ และได้เดินทางไปรับโควต้าจากสถานีตำรวจต่างๆ ทั่วประเทศ ทั้งสถานีตำรวจนครบาลและสถานีตำรวจภูธรหลายร้อยสถานี รวมชุดที่มีการสั่งตัดเข้ามามากกว่า 6,000ชุด พร้อมได้เรียกเก็บเงินมัดจำส่งให้กับนายทหารยศพันตรีคนดังกล่าว เป็นเงินเกือบ 5,000,000 บาท โดยตนมีหลักฐานเป็นสลิปโอนเงินทั้งหมด แต่ปรากฏว่า เมื่อถึงเวลาที่จะต้องส่งมอบชุดจำนวนกว่า 6,000 ชุด ตามที่ตกลงกันไว้ ปรากฏว่า ทางนายทหารยศพันตรีคนดังกล่าว กลับนำเอาเครื่องแบบมาส่งได้เพียงไม่กี่ร้อยชุด แถมชุดที่ส่งมาก็เป็นชุดที่ไม่ใช่ผ้ากากี สนว01 ตามที่กำหนด

อีกทั้งเป็นชุดไม่ได้มาตรฐานผิดรูปทรงตามที่ได้วัดตัวกันไว้ ทำให้ตนซึ่งเป็นผู้ที่รับโควต้ามา ถูกตำรวจที่สั่งชุด และจ่ายเงินมัดจำมาแล้วรุมต่อว่า และเรียกขอเงินคืน เมื่อตนติดตามทวงถามมายังนายทหารคนดังกล่าวก็ได้รับคำตอบว่า “กำลังดำเนินการ” อีกทั้ง นายทหารคนดังกล่าวยังได้ไปบอกข้าราชการตำรวจที่ได้รับชุดเครื่องแบบไม่ตรงกำหนดว่า เป็นเพราะตนส่งขนาดเครื่องแบบช้า ซึ่งก็ไม่เป็นความจริง และทำให้ตนเสียหาย

หลังเกิดเรื่องขึ้น ตนตัดสินใจเข้าแจ้งความกับทางตำรวจกองปราบปรามเพื่อดำเนินคดีกับนายทหารยศพันตรีคนดังกล่าว ในข้อหาฉ้อโกงและปิดบังข้อเท็จจริง, ปิดบังแหล่งที่มาของสินค้า และข้อหาหมิ่นประมาท แต่คดียังไม่มีความคืบหน้า และตนก็ถูกลูกค้าติดตามทวงถามพร้อมขอเงินคืนจำนวนหลายราย จนตนต้องใช้เงินส่วนตัวโอนคืนให้กับข้าราชการตำรวจที่สั่งชุดไปแล้วหลายราย เป็นเงินมากกว่า 1,000,0000 ล้านบาท จึงตัดสินใจเดินทางมาขอคำชี้แจง และสอบถามกับนายทหารยศพันตรีคนดังกล่าว แต่ในเมื่อไม่ยอมออกมาพูดคุย ตนก็จะเดินทางมาอีก จนกว่าจะได้รับคำตอบรวมถึงได้รับการชดใช้ที่เหมาะสม.