Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

อนาคตใหม่ เตรียมใช้กลไกกฎหมายดำเนินการต่อหลัง กกต.ใช้สูตรคำนวณ ส.ส.แบบพรรคเล็กได้ที่นั่งด้วย ทำให้เก้าอี้อนาคตใหม่หายไป 7 ที่นั่ง ด้าน “ธนาธร” ยังหวังเจรจาพรรคการเมืองร่วมกันปิดสวิตช์ ส.ว.ร่วมโหวตนายกฯ ให้เฉพาะ ส.ส.รวมกันเองให้เกิน 375 เสียงให้ได้

วันที่ 8 พ.ค. ที่พรรคอนาคตใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวห้นาพรรคอนาคตใหม่ และนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลงข่าวหลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศรับรองผล ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ โดยมีจำนวนพรรคการเมืองที่ได้รับการจัดสรร ส.ส.จำนวน 26 พรรค ซึ่งการใช้สูตรดังกล่าว ทำให้พรรคอนาคตใหม่มีจำนวน ส.ส.หายไปจากที่เคยคำนวณไว้ 7 ที่นั่ง

นายปิยบุตร กล่าวว่า หากยึดการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ต้องยึดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 ซึ่งกำหนดให้พรรคที่จะมาคำนวณบัญชีรายชื่อต้องมีคะแนนประมาณ 71,000 ขึ้นไปเท่านั้น ถ้ายึดตามแนวทางนี้จะมี 15 พรรคที่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่จะได้ที่นั่ง 87 ที่ แต่จากการคำนวณ ของ กกต. พรรคเหลือ ส.ส. 80 คน คือ ใช้สูตรที่นำคะแนนของพรรคที่ถึงเกณฑ์ไปแบ่งให้พรรคที่ได้คะแนน 30,000 – 60,000 คะแนนด้วย ซึ่งความเห็นของพรรควิธีนี้น่าจะขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ

หากรวมเสียงของ 4 พรรคที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อหายไราว 1.5 ล้านคะแนน ซึ่งพรรคอนาคตใหม่พรรคเดียวหายไปประมาณ 6 แสนคะแนน ขณะเดียวกัน เมื่อนำ 11 พรรคที่ได้จัดสรร ส.ส.พรรคละ 1 ที่นั่ง เมื่อนำคะแนนมารวมกันได้ประมาณ 5.5 แสน เท่านั้น นี่คือคะแนนที่แลกกับราว 1.5 ล้านคะแนนที่หายไป อย่างนี้ที่บอกว่าคะแนนทุกคะแนนมีความหมาย ไม่ทิ้งน้ำก็ไม่เป็นจริง ย่อมแสดงว่าระบบจัดสรรปันส่วนผิดเพี้ยนกว่าที่ควรจะเป็น

การดำเนินการของพรรคจากนี้ จะทำคำร้องยื่นไปที่ กกต.เพื่อเสนอเรื่องให้ กกต.เสนอเรื่องต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญ โดยอาสัยอำนาจตามรัฐธรรมนุญ มาตรา 210 (2) เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าประเด็นนี้มีปัญหาเกี่ยวกับการใช้อำนาจหน้าที่ ของ กกต.หรือไม่ กับอีกช่องทาง คือ มาตรา 213 ของรัฐธรรมนูญ ที่ระบุว่า บุคคลใดที่ถูกละเมิดสิทธิ์มีสิทธิ์ยื่นคำร้องฟ้องตรงไปที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ โดยกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญให้ร้องไปที่ผู้ตรวจการแผ่นดินก่อน ให้ผู้ตรวจฯ ส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญ แต่ถ้าไม่ส่งต่อผู้ร้องจะสามารถส่งตรงเองได้ โดยพรรคอนาคตใหม่ จะยื่นในฐานะที่ถูกละเมิดสิทธิ์

ด้าน นายธนาธร กล่าวว่า ถึงตอนนี้มีความชัดเจนเรื่องจำนวน ส.ส. แล้ว 498 ที่นั่ง แต่อย่างไรก็ตามเพียงพอที่จะทำให้เกิดความชัดเจนทางการเมือง จึงอยากให้คิดถึงก้าวต่อไป คิดถึงอนาคตประเทศไทยว่าจะเดินไปอย่างไร ซึ่งพรรคอนาคตใหม่ขอให้นำข้อเสนอที่เราพูดไว้ก่อนเลือกตั้งเรื่อง ปิดสวิตช์ ส.ว. มาพิจารณา ช่วยกันกดดัน ทำให้เกิดขึ้นจริง การปิดสวิตช์ ส.ว. คือเราสามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้ที่สภาผู้แทนราษฎร ไม่ให้ ส.ว.ที่ไม่ได้มาจากประชาชนสามารถทำงานได้ โดยตอนนี้ 3 พรรคการเมืองที่ประกาศหนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ได้แก่ พรรคพลังประชารัฐ 115 ที่นั่ง พรรครวมพลังประชาชาติไทย 5 ที่นั่ง พรรคประชาชนปฏิรูป 1 ที่นั่ง รวมแล้ว 121 ที่นั่ง ซึ่งข้อเสนอปิดสวิตช์ ส.ว. กรณีพรรคที่หนุน พล.อ.ประยุทธ์ มีคะแนนน้อยกว่า 124 ที่นั่ง สามารถเป็นไปได้

ดังนั้น ขอเรียกร้องให้ประชาชนที่รักประชาธิปไตย กลับไปทวงถามคำสัญญาที่พรรคการเมืองต่างๆ เคยให้ไว้ก่อนการเลือกตั้งมาร่วมกัน เพราะนี่คือการยับยั้งกลไกที่ไม่ได้มาจากประชาธิปไตย คือการยับยั้งนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้มาจากประชาชน พรรคทุกพรรคที่ไม่ใช่ 3 พรรคที่กล่าวถึงข้างต้นมีส่วนร่วมได้ โดยการยกมือรับรองนายกรัฐมนตรีที่เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีที่รวมเสียงข้างมากได้ เราจะมี 378 เสียงในสภา ซึ่งมากกว่า 3 พรรคฝ่ายสืบทอดอำนาจบวกกับ ส.ว. 250 คน ทำให้การเมืองแบบประชาธิปไตยเดินหน้าต่อไปได้

“การที่พรรคการเมืองมาร่วมกันปิดสวิตช์ ส.ว.ทำให้การเลือกนายกมาจากประชาชน ไม่ได้มาจากกลไกการสืบทอดอำนาจ ไม่ได้มาจากเสียง ส.ว. นี่จะเป็นบันไดก้าวแรกที่ทำให้ประเทศไทยเดินทางกลับสู่ประชาธิปไตย โดยหลังจากนี้ พรรคอนาคตใหม่ พร้อม ยินดี ที่จะเดินทางไปพบกับทุกพรรคการเมืองที่มีนโยบายไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองใด เรามีส่วนร่วมกันในการที่จะหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจ คสช. และเปิดประตูบานใหม่สู่ประชาธิปไตย พรรคอนาคตใหม่พร้อมไปพูดคุย เพื่อให้การปิดสวิตช์ ส.ว. เป็นจริง” นายธนาธร กล่าว

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า