น้ำทะเลหนุน ทำบางสะพานท่วมหนัก

สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์วิกฤต เช้านี้เกิดภาวะน้ำทะเลหนุน ประกอบกับยังมีฝนตก ส่งผลน้ำท่วมหนักในอำเภอบางสะพานและ อ.บางสะพานน้อย

วันที่ 9 พ.ย. 2561 เช้านี้มีฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่อำเภอบางสะพานอีกครั้ง ทำให้ปริมาณน้ำฝนที่สะสมอยุ่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะถนนสายเพชรเกษม – บางสะพาน ระดับน้ำสูงประมาณ 50 เซนติเมตร รถเล็กเริ่มสัญจรลำบาก ขณะที่เพจของดีบางสะพาน รายงานเมื่อเวลา 09 : 00 น. ระบุว่า ปริมาณน้ำในพื้นที่ต้นน้ำบางสะพาน หลายจุดมีปริมาณน้ำลดลง ปริมาณน้ำในตัวเมืองบางสะพานค่อยๆ ลดลงอย่างช้าๆ เนื่องจากเช้านี้เป็นช่วงเวลาที่น้ำทะเลหนุนสูง ทำให้การระบายน้ำออกสู่ทะเลเป็นไปได้ช้ามาก
กลุ่มเมฆฝนยังปกคลุมทั่วทุกพื้นที่ ทำให้ทั่วทุกพื้นที่ยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง

ด้านนายธนา บัวช่วง รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลพงศ์ประศาสน์ อำเภอบางสะพาน เปิดเผยว่า น้ำไหลลงมาเร็วมากทำให้ประชาชนไม่ทันที่จะขนย้ายข้าวของออกจากบ้าน หลายหมู่บ้านถูกน้ำท่วมหนัก ขณะนี้ได้ระดมเจ้าหน้าที่ออกทำการสำรวจ ความเสียหายเบื้องต้น เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยแล้ว พร้อมรายงานให้นายอำเภอบางสะพานทราบ

นายธนา กล่าวว่า ปัญหาหลักที่ทำให้เกิดน้ำท่วมสูงเพราะไม่สามารถระบายน้ำได้เนื่องจากเกิดภาวะน้ำทะเลหนุน เชื่อว่าประมาณ 2-3 ชั่วโมง หากฝนยังไม่หยุดตกทำให้ระดับน้ำท่วมสูงขึ้น ซึ่งล่าสุดระดับน้ำในคลองบางสะพานเพิ่มสูงขึ้นจนเกินแถบแจ้งเตือนสีแดงใต้สะพานวังยาว เกิดปัญหาน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่หลายจุดในตัวเมืองบางสะพาน สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ประสานเจ้าหน้าที่ทหารศูนย์การทหารราบ และกองบิน 5 ช่วยประชาชนในการขนย้ายสิ่งของขึ้นสู่ที่สูงแล้ว

ล่าสุดนายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มอบหมายให้นายภิรมย์ นิลทยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมเบื้องต้นมีประชาชนได้รับความเดือดร้อนประมาณ 1,700 ครัวเรือน ราษฎรประมาณ 3,000 คน โดยมีการอพยพไปอยู่พื้นที่ปลอดภัย ขณะนี้ฝ่ายปกครอง. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 4 และ หน่วยกู้ภัย ได้ออกให้ความช่วยเหลือชาวบ้านบางส่วน ที่ติดอยู่ภายในบ้าน

สำหรับการเดินทางบนถนนเพชรเกษมยังคงสามารถเดินทางได้ ทั้งขาขึ้นและขาล่องใต้ได้ตามปกติ และ รถไฟยังให้บริการได้