“บิ๊กจิ๋ว” แนะ นายกฯ เป็นนักการเมืองต้องกล้าเปิดใจ-ไร้วาระซ่อนเร้น

ประเด็นคือ – พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ์ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำถึงบทบาทของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หลังเปิดตัวเป็นนักการเมือง แนะ “เป็นนักการเมือง ต้องกล้าเปิดใจและต่อสู้แข่งขันกันแบบเปิดเผย-ไม่ซ่อนเร้น”

วันที่ 17 ม.ค. 2561 พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ์ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำถึงบทบาทของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หลังเปิดตัวเป็นนักการเมือง ว่า “การเลือกตั้งไม่ใช่คำตอบสุดท้าย” สำหรับสถานการณ์การเมือง หากแต่อยู่ที่ นักการเมืองต้องให้อภัยซึ่งกันและกัน พร้อมจะหันหน้าพูดคุยกัน เพื่อความสมานฉันท์-ปรองดอง-สงบสุข

แม้จะออกตัว ขอไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่ก็ย้ำว่า มีบทเรียนทางการเมืองในอดีตหลายประเด็น และพร้อมจะเสนอแนะให้นักการเมืองรุ่นใหม่ ก่อนจะยอมรับและชื่นชมกับการเปิดตัวเป็นนักการเมืองของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา แล้วพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ก็ฝากข้อความว่า “นักการเมืองต้องกล้าเปิดใจ ต้องกล้าต่อสู้กันแบบเปิดเผย โดยไม่ซ่อนเร้น”

และเชื่อมั่นว่า พลเอกประยุทธ์ ในฐานะอดีตนายทหารผู้กล้า จะกล้าเผชิญกับสถานการณ์ในอนาคตอันใกล้นี้ โดยเฉพาะการใช้มาตรา 44 ก่อนจะประเมินผลการดำเนินที่ย่างก้าวสู่ปีที่ 4 ของ คสช. ว่ายังไม่บรรลุเป้าหมายที่วางไว้

ส่วนการเลือกตั้งตามโรดแมปของ คสช. พลเอกชวลิต ยังไม่เชื่อว่าจะเป็นคำตอบสุดท้ายของสถานการณ์การเมือง โดยเฉพาะการสร้างความปรองดอง-สมานฉันท์ แต่สิ่งสำคัญของการแก้ไขปัญหา คือการหันหน้าเข้าหากัน การอภัยซึ่งกันและกัน การไม่กล่าวหาให้ร้ายใคร และไม่ปฏิเสธกับความต้องการส่วนตัว ที่จะพูดคุยนายทักษิณ ชินวัตรหรือนางสาวยิ่งลักษณ์ อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อลดความขัดแย้งทางการเมือง

พลเอกชวลิต กล่าวย้ำ เวลานี้ขอวางมือทางการเมือง ขอไม่ยุ่งเกี่ยวกับพรรคการเมือง และไม่สนใจสีแดง หรือสีเหลืองว่าจะเป็นฝ่ายใด ไม่สนใจว่าจะฝ่ายค้าน หรือฝ่ายรัฐบาล และคงไม่ใช่เวลาที่จะโซ่ข้อกลาง หรือโซ่ข้องใจกับฝ่ายไหน ด้วยวัยวุฒิถึงมาถึง 86 ปีแล้ว แต่ก็ยอมรับว่า ยังหมั่นเคี้ยวการเมืองอยู่ แต่ก็ทำได้เพียงแอบวิพากษ์วิจารณ์อยู่หลังบ้าน ก่อนจะยืนยันว่า มีอยู่ความสนใจเดียวเท่านั้น คือประชาชน การจัดตั้งกองกำลังประชาชน เพื่อแก้ปัญหาความยากจน