Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจตามมาตรา 44 เปิดโอกาสศึกษา-วิจัยกัญชา เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ พร้อมเปิดช่องยกเลิกคำขอสิทธิบัตรที่ไม่ชอบ ภายใน 90 วัน

วันนี้ (28 ม.ค. 62) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 1/2562 เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยสิทธิบัตรและมาตรการด้านสิทธิบัตรเป็นกรณีพิเศษ ความว่า โดยที่ขณะนี้กระบวนการทางนิติบัญญัติอยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยยำเสพติดให้โทษ เพื่อเปิดโอกาสให้สามารถนำกัญชามาศึกษาวิจัยอันจะเป็นประโยชน์ทางการแพทย์และสามารถนำไปใช้ในการรักษาภายใต้การควบคุมดูแลของแพทย์ รวมทั้งหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด

ในขณะที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้รับรายงานจากกรมทรัพย์สินทางปัญญาถึงข้อเท็จจริงอันเป็นปัญหาของกระบวนการด้านสิทธิบัตรที่ได้มีการยื่นคำขอรับสิทธิบัตรตามกฎหมายว่าด้วยสิทธิบัตรสำหรับการประดิษฐ์ที่เกี่ยวข้องกับกัญชาจำนวนหนึ่งไว้อยู่ก่อนแล้ว แม้ว่าคำขอรับสิทธิบัตรดังกล่าวยังอยู่ระหว่างกระบวนการตรวจสอบตามขั้นตอนและยังไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายก็ตาม แต่กรณีดังกล่าวได้สร้างความห่วงกังวลให้แก่นักวิชาการ นักวิจัย และผู้ที่เกี่ยวข้องจำนวนมากที่มีความประสงค์จะได้ดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาตินั้น เนื่องจากหากจะมีการดำเนินการต่อไปอาจมีความเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิบัตรได้จากการที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาอาจรับจดทะเบียนสิทธิบัตรให้กับผู้ยื่นคำขอดังกล่าว

เมื่อได้พิจารณาความตกลงว่าด้วยสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวกับการค้ำ (The Agreement on Trade-Related Aspects of Intellectual Property Rights : TRIPS Agreement) ซึ่งมีผลผูกพันประเทศไทยในฐานะสมาชิกองค์การการค้าโลก ที่ยอมรับให้ประเทศสมาชิกสามารถพิจารณาให้ความคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาโดยคำนึงถึงการให้ความสำคัญต่อวัตถุประสงค์เชิงนโยบายสาธารณะของประเทศ จึงเป็นการสมควรที่จะกำหนดมาตรการด้านสิทธิบัตรเป็นกรณีพิเศษ เพื่อสนับสนุนและรองรับการอนุญาตให้นำกัญชามาวิจัยด้านการแพทย์ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและสังคมในวงกว้าง

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 265 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงมีคำสั่ง ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 เพื่อประโยชน์ในการพิจารณาตรวจสอบคำขอรับสิทธิบัตรตามคำสั่งนี้ การประดิษฐ์ดังต่อไปนี้หากนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ให้ถือเป็นการประดิษฐ์ที่ไม่ได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 9 (5) แห่งพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสิทธิบัตร(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535

(1) การประดิษฐ์ที่มีกัญชา หรือสารสกัดธรรมชาติจากกัญชาเป็นองค์ประกอบ

(2) สารที่มีโครงสร้างทางเคมีอย่างเดียวกันกับการประดิษฐ์ตาม (1)

(3) เกลือ เอสเทอร์ และอีเทอร์ใด ๆ ของสารตาม (2)

ข้อ 2 เมื่อได้ประกาศโฆษณาคำขอรับสิทธิบัตรตามมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสิทธิบัตร (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2542 สำหรับการประดิษฐ์ตามข้อ 1 แล้ว แต่ผู้ขอรับสิทธิบัตรยังไม่ได้ยื่นคำขอให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบการประดิษฐ์ตามมาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. 2522 หากปรากฏว่าคำขอรับสิทธิบัตรไม่ชอบด้วยมาตรา 9 (5) แห่งพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสิทธิบัตร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาสั่งยกคำขอรับสิทธิบัตร หรือสั่งให้ผู้ขอรับสิทธิบัตรตัดข้อถือสิทธิที่เป็นการประดิษฐ์ดังกล่าวภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งของอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา

คำสั่งยกคำขอรับสิทธิบัตรของอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาตามวรรคหนึ่ง ผู้ขอรับสิทธิบัตรอาจอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการสิทธิบัตรได้ตามมาตรา 72 แห่งพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสิทธิบัตร (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2542

ข้อ 3 สิทธิของผู้ทรงสิทธิบัตรตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสิทธิบัตร (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2535 ยังคงอยู่ภายใต้บังคับกฎหมายอื่นใดที่มีข้อกำหนดเกี่ยวกับการควบคุม ผลิต ใช้ จำหน่าย นำเข้า ส่งออก หรือครอบครองซึ่งผลิตภัณฑ์หรือกรรมวิธีใดไว้เป็นการเฉพาะ หรือการที่ต้องได้รับการอนุมัติหรืออนุญาตตามกฎหมาย

ข้อ 4 ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยยำเสพติดให้โทษมีการแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อให้มีการนำกัญชาไปทำการศึกษาวิจัยเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ได้ ให้ข้อ 1 และข้อ 2 ของคำสั่งนี้เป็นอันยกเลิกนับแต่วันที่กฎหมายดังกล่าวมีผลใช้บังคับ ทั้งนี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบคำขอรับสิทธิบัตรที่ได้ยื่นไว้แล้วต่อไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และขั้นตอนตามข้อ 1 และข้อ 2 จนกว่าจะแล้วเสร็จ

ข้อ 5 ให้ยกเลิกความในมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. 2522 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

“มาตรา 30 เมื่อได้ประกาศโฆษณาตามมาตรา 28 และผู้ขอรับสิทธิบัตรได้ยื่นคำขอให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบการประดิษฐ์ตามมาตรา 29 แล้ว หรือในกรณีที่มีกำรคัดค้านตามมาตรา 31 ถ้าปรากฏว่าคำขอรับสิทธิบัตรนั้นไม่ชอบด้วยมาตรา 5 มาตรา 9 มาตรา 10 มาตรา 11 หรือมาตรา 14 ให้อธิบดีสั่งยกคำขอรับสิทธิบัตร และให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งคำสั่งไปยังผู้ขอรับสิทธิบัตรรวมทั้งผู้คัดค้านในกรณีที่มีการคัดค้านตามมาตรา 31 และให้ประกาศโฆษณาคำสั่งนั้นตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง”

ข้อ 6 คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับกับคำขอรับสิทธิบัตรที่ได้ยื่นไว้ก่อนวันที่คำสั่งนี้มีผลใช้บังคับและยังอยู่ระหว่างการพิจารณาตามพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติมด้วย

ข้อ 7 ในกรณีที่เห็นสมควรนายกรัฐมนตรีอาจเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำสั่งนี้ได้

ข้อ 8 คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า