ป้ามหาภัยตะโกนแช่งเพื่อนบ้าน ยันไม่ให้สุนัขกับวอชด็อก

โลกออนไลน์แชร์คลิปป้าหัวร้อน วีรกรรมโชกโชน ทั้งตีรถคนอื่น จุดไฟเผาบ้านข้างๆ เลี้ยงสุนัขมากเกินไป เมื่อสุนัขตายก็นำซากมาโชว์หน้าบ้าน ส่งกลิ่นเหม็นเน่าจนคนในซอยสุดเอือม ด้านป้าลั่น ไม่ให้สุนัขกับวอชด็อก ต่อให้มีหมายค้นมาก็ไม่ให้ค้น

โดยคลิปแรกเป็นคลิปเหตุการณ์ที่รถคันหนึ่งถูกป้าท่านหนึ่งบอกว่า เขาขับรถชน จากนั้นในคลิปจะเห็นว่าป้าคนนี้เอาไม้มาตีรถ พร้อมกับต่อว่า ว่าชายที่อยู่ในรถที่ขับรถชนว่า ขับมาชนทำไม โดยที่ฝ่ายชายบอกว่า “ผมถอยให้แล้ว แล้วมาตีรถผมทำไม”

ซึ่งวีรกรรมของป้ารายนี้ยังไม่หมด เพราะในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปเหตุการณ์ที่ป้าคนเดิมกำลังพยายามจะจุดไฟเผาบ้านที่อยู่ข้างๆ แต่โชคดีที่คนในบ้านออกมาเห็นและหยุดไว้ได้ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงกว่านี้

ต่อมาทางตำรวจ สน.ห้วยขวาง และเจ้าหน้าที่เขตดินแดงได้เข้าไปจัดการเรื่องกระถางต้นไม้ที่ตั้งอยู่หน้าบ้าน และอาจจะมีการเข้าไปดำเนินการเรื่องสุขอนามัยภายในบ้านด้วย

ล่าสุดวันนี้ (15 มิ.ย. 61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มวอชด็อกไทยแลนด์ นำชาวซอยโพธิ์ปั้น 10 เขตดินแดง กทม. เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.อ.เสนิต สําราญสํารวจกิจ ผบก.น.1 และ พ.ต.อ.กำพล รัตนประทีป ผกก.สน.ห้วยขวาง ให้ดำเนินคดีกับ นางแสงระวี กัญใจรุ่งโรจน์ อายุ 69 ปี หรือที่ได้ฉายาจากเพื่อนบ้านว่า คุณป้ามหาภัย หลังชาวบ้านภายในซอยโพธิ์ปั้น 10 เข้าร้องเรียนว่า นางแสงระวี กักขังสุนัขกว่า 50 ตัว และทุกตัวดูทรุดโทรม เห่าหอน ผสมพันธุ์กันเอง ทยอยตาย จากนั้นเอาซากสุนัขมาตั้งโชว์หน้าบ้าน บางตัวเอาใส่ถุงดำฝังไว้ในกระถาง ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่ว จึงตั้งข้อสังเกตว่า การเลี้ยงสุนัขของนางแสงระวี เป็นการเข้าข่ายทารุณกรรมสัตว์ และเลี้ยงดูผิดสวัสดิภาพสัตว์หรือไม่ แต่เบื้องต้นเชื่อว่า เข้าข่ายการทารุณกรรมสัตว์แน่นอน

โดย นางสาว กนกวรรณ ชูพากเพียร อายุ 42 ปี เพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียง เล่าว่า นางแสงระวี เลี้ยงสุนัขมากว่า 30 ปี ไว้ในบ้าน ซึ่งมีพื้นที่เพียง 16 ตารางวา และมีสุนัขสูงสุดถึง 105 ตัว และเมื่อ 2 – 3 ปีก่อน เจ้าหน้าที่เขตดินแดงได้เข้ามาพูดคุยให้ลดจำนวนสุนัขลง จากจำนวน 105 ตัว ลดลงเหลือ 50 ตัว จนขณะนี้เหลือเพียง 10 ตัว แต่ตนเองไม่ทราบว่ามีการลดจำนวนสุนัขลงด้วยวิธีใด นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการขังสุนัขไว้ตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง ไม่เคยปล่อยให้เดินเล่น และเมื่อเจ็บป่วยก็ไม่ได้นำไปรักษา

ขณะที่ พ.ต.อ.เสนิต ระบุว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาได้ประสานสัตวแพทย์ พร้อมกับเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ มาช่วยตรวจสอบโดยตรง ก่อนจะมีการประชุมเพื่อหาทางออกเรื่องนี้อีกครั้ง พร้อมกับเตรียมขอหมายเพื่อเข้าไปตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว

“ทีมข่าวเวิร์คพอยท์” ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าว ภายในซอยโพธิ์ปั้น 10 ซึ่งเป็นซอยค่อนข้างแคบ ลักษณะเป็นทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น โดยชั้นที่ 2 ของบ้านนางแสงระวีเปิดโล่งเพื่อระบายความร้อน และใช้พัดลมเป่าเพื่อระบายกลิ่นเหม็นเน่า สังเกตว่ามีกรงสุนัขอยู่ 4 กรง และมีนกอีกด้วย ส่วนชั้นล่างมีกรงเลี้ยงไก่และสุนัขอยู่อีกจำนวนหนึ่ง

ทั้งนี้ “ผู้สื่อข่าวเวิร์คพอยท์” ได้เจอนางแสงระวีที่เดินทางไปทำธุระด้านนอกมา เมื่อลงจากรถแท็กซี่ เจ้าตัวก็ได้โวยวายใส่ผู้สื่อข่าวที่ไปดักรออยู่หลายสำนัก นางแสงระวีใช้คำพูดเสียงดัง อ้างว่าถูกเพื่อนบ้านรังแกก่อน พร้อมกับมีการสาปแช่งเพื่อนบ้านที่กล่าวหาว่าตนทารุณสุนัข

สำหรับประเด็นเรื่องการเลี้ยงสุนัข เจ้าตัวยืนยันว่าจะไม่ยินยอมให้ทางวอชด็อกนำไปแน่นอน ยืนยันว่าที่ผ่านมาดูแลสุนัขอย่างดีมาตลอด มีการฉีดวัคซีน พร้อมกับบอกว่าถึงแม้จะมีหมายค้นมาก็ไม่อนุญาตให้มาตรวจค้นภายในบ้านแน่นอน