Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ผลวิจัยเผย แนวคิดแบบ Polyamorous หรือการที่เราสามารถมีคนรักหลายคนโดยตกลงกับคู่รัก อาจจะยั่งยืนกว่าการยึดติดในรักเดียวใจเดียว เนื่องจาก

แนวคิดแบบ Polyamorous หรือการที่เราสามารถมีคนรักหลายคน โดยที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในความสัมพันธ์นี้รับรู้และยินยอม เป็นแนวคิดที่มีการพูดคุยเกิดขึ้นในหลายประเทศ ซึ่งผลวิจัยจากหลายแห่ง เริ่มมีการรับรองว่าแนวคิดแบบนี้ กลายเป็นแนวคิดที่อาจจะทำให้ความสัมพันธ์ของคนที่เกี่ยวข้องแข็งแกร่งยิ่งซะกว่าอยู่แบบผัวเดียวเมียเดียว (Monogamous) เสียอีก โดยผลวิจัยให้เหตุผลดังต่อไปนี้

หากเรามีแฟนหลายคน แฟนเองก็ไม่ได้มีเราคนเดียว สองคนยินยอมพร้อมใจกัน สิ่งหนึ่งที่ต้องมีแน่ ๆ คือทักษะการสื่อสาร เนื่องจากต้องคุยกันจนกว่าจะยินยอมพร้อมทั้งสองฝ่าย การแบ่งเวลา ทำให้คนที่มีความสัมพันธ์แบบนี้มักสื่อสารกับคนรักโดยเฉพาะคนรักที่คบกันหลัก ๆ ได้ดี [1] ทำให้ความรักของพวกเขายืนยาว

เมื่อไม่ยึดติดด้านร่างกาย คนเหล่านี้ก็ขีดเส้นเองได้ว่าแบบไหนรับได้ แบบไหนรับไม่ได้ [2] เช่น การมีอะไรกับคนแปลกหน้าเป็นสิ่งที่รับได้ แต่การซุกกิ๊กหมายความว่าอีกฝ่ายกำลังเอาเปรียบอยู่ เป็นต้น ซึ่งที่จริงการพูดคุยตรงนี้ก็ควรมีในคู่รักแบบปกติ ที่จริง ๆ แล้วก็มีความเห็นไม่ตรงกันเรื่องการนอกใจ เป็นต้นว่า สำหรับบางคนการลงภาพอ่อย การทักแชท ก็คือการนอกใจแล้ว ขณะที่บางคนยอมรับเท่าไหร่ก็ได้ยกเว้นการมีเพศสัมพันธ์

การตกลงกันตั้งแต่แรกว่าจะมีคู่นอนหลายคนยังทำให้ป้องกันเซ็กซ์มากขึ้นด้วย [3] เพราะจะต้องมั่นใจว่าอีกฝ่ายจะไม่นำโรคจากคู่นอนคนอื่นมาติดจึงต้องมีการตกลงกันเรื่องการป้องกันอย่างเปิดเผย ต่างกับคู่รักแบบผัวเดียวเมียเดียวที่มักจะเลิกใส่ถุงยางอนามัย หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแอบนอกใจโดยไม่ป้องกัน ก็อาจนำโรคมาติดฝ่ายที่ซื่อสัตย์ได้

หลายคนคงจะคิดว่ามีแฟนหลายคนคงจะหึงกันไม่จบไม่สิ้น แต่จริง ๆ แล้วพบว่าคนที่มีความสัมพันธ์แบบเปิดจะไม่เช็คมือถือ เช็คอีเมลล์ ขอดูกระเป๋า เหมือนคนทั่วไป [4] เพราะตัดเรื่องเซ็กซ์ไปแล้ว กติกาอื่น ๆ ก็เชื่อใจได้มากกว่าว่าคู่รักจะไม่หักหลังกัน

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เมื่อไม่ได้มีแฟนคนเดียวเราก็จะไม่ทุ่มใจให้ใคร [5] หรือเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อคนคนเดียว เหมือนกับที่คนส่วนใหญ่มักจะยอมคนรักทุกอย่าง แต่คนที่มีคู่นอนหลายคนจะใส่ใจความรู้สึกของตัวเองมาก่อน พวกเขาจะรู้ว่าตัวเองเป็นใคร มีความสามารถขนาดไหน และไม่ทิ้งชีวิตที่ใครเด็ดขาด

ผู้ช่วยศาสตราจารย์เทอรี่ คอนรี จากมหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยว่าจริงๆแล้วคนอเมริกัน 1 ใน 5 ใช้ชีวิตคู่แบบนี้เป็นปกติ แต่ยังต้องหลบซ่อนเพราะสังคมยังมองว่าเป็นเรื่องอื้อฉาว

https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/27096488
[1] https://journals.plos.org/plosone/article?id=10.1371/journal.pone.0177841
[2] https://www.morethantwo.com/polyglossary.html
[3] https://www.jsm.jsexmed.org/article/S1743-6095(15)34008-X/abstract
[4] https://www.academia.edu/32190126/Investigation_of_consensually_nonmonogamous_relationships_Theories_methods_and_new_directions
[5] https://www.academia.edu/32190126/Investigation_of_consensually_nonmonogamous_relationships_Theories_methods_and_new_directions

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า