Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

“พวกเขามาจากประเทศที่ผู้ชายเป็นใหญ่ ถ้าบอกใครว่าถูกเมียกับครอบครัวเมียใช้งานเยี่ยงทาส ก็กลัวถูกหัวเราะเยาะ” ฝันร้ายที่ไม่อาจเอ่ยปากบอกใครได้

Shahid Sandhu ชาวปากีสถาน อายุ 34 ปีคือหนึ่งใน “ผัวทาส” ที่มีอยู่จริงอย่างไม่น่าเชื่อในฮ่องกง สงครามชีวิตของเขาเริ่มขึ้นเมื่อ 4 ปีก่อนหลังตัดสินใจตอบรับการทาบทามของแม่สื่อ แต่งงานกับผู้หญิงเชื้อสายปากีสถานที่เกิดในฮ่องกง เวลานั้นเขาทำงานที่ธนาคารแต่เงินเดือนที่ได้ไม่พอใช้ จึงคิดว่าชีวิตน่าจะดีขึ้นมีเงินจุนเจือพ่อแม่ได้มากขึ้นถ้าได้ไปฮ่องกง แต่ฝันสลายทันทีที่ไปถึง เขาถูกภรรยาและครอบครัวของเธอยึดหนังสือเดินทางและถูกบังคับให้ทำงานก่อสร้างสัปดาห์ละ 6 วัน ทุกวันหลังเลิกงานกลับบ้านรวมทั้งในวันหยุดที่มีแค่วันเดียว เขาต้องทำงานบ้าน ถ้าขัดขืนจะถูกทำร้ายร่างกายถูกลงโทษอย่างเช่นไม่ให้กินข้าว “พวกเขายังชอบทวงบุญคุณว่าผมโชคดีที่ได้แต่งงานก็เลยมาฮ่องกงได้ฟรี ๆ ในขณะที่คนปากีสถานหลายคนต้องจ่ายเงินเป็นล้านรูปีกว่าจะได้วีซ่า” แน่นอนว่าเงินทั้งหมดที่หาได้ถูกครอบครัวภรรยายึดไว้ แต่ไม่ว่าจะถูกกระทำยังไง Sandhu ก็เลือกที่จะปิดปากเงียบ

การปิดปากเงียบทำให้ไม่มีข้อมูลตัวเลขแน่ชัดแต่ Richard Aziz Butt จากองค์กรภาคเอกชนที่ให้ความช่วยเหลือคนแบบ Sandhu อ้างว่า 20 กว่าปีนี้เขารู้จักผู้ชายจากเอเชียใต้ที่ถูกพามาฮ่องกงผ่านการแต่งงานลักษณะนี้ร้อยกว่าคนแล้ว “พวกเขามาจากประเทศที่ผู้ชายเป็นใหญ่ ถ้าบอกใครว่าถูกเมียรวมถึงครอบครัวเมียใช้งานเยี่ยงทาส ก็กลัวจะถูกหัวเราะเยาะ ถูกมองว่าเป็นคนขี้ขลาด ถึงขนาดมีคนบอกว่ายอมอยู่เป็นทาสแบบนี้ดีกว่าแบกหน้ากลับไปให้คนที่บ้านเกิดดูถูก ทั้งยังเชื่อว่าตัวเองไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากตำรวจหรือจากคนที่พูดภาษาเดียวกันไม่ได้ พวกเขาจึงไม่มีที่ไปและหลายคนก็ไม่มีการศึกษา”

เช่นเดียวกับชีวิตของ Karamjit Singh อายุ 28 ปีจากอินเดีย เขาแต่งงานกับผู้หญิงเชื้อสายอินเดียที่เกิดในฮ่องกงผ่านการทาบทามเมื่อปี 2555 Singh เป็นลูกคนเดียวเหลือแต่พ่อที่แก่แล้วและฐานะไม่ดีนัก “คนแบบนี้ใช่เลย พวกนั้นหาเจ้าบ่าวที่มาจากครอบครัวเล็ก ๆ ยิ่งเป็นลูกชายคนเดียวได้ยิ่งดี และที่สำคัญคือจน เพราะคนแบบนี้จะอยากมาฮ่องกง พอมาแล้วก็ควบคุมได้ง่าย” Butt เล่าให้ฟังถึงเรื่องราวที่เคยพบเจอมา

หลังแต่งงานหนึ่งปี Singh ก็ได้มาฮ่องกงด้วยวีซ่าคู่สมรส หลังจากนั้นชีวิตของเขาก็เหมือนตกอยู่ในนรก เขาถูกพี่เขยบังคับให้ทำงานก่อสร้างตอนกลางวันและเป็นยามตอนกลางคืน ถูกพ่อตายึดบัตรเอทีเอ็ม “พวกเขาทำกับผมเหมือนทาส เหมือนไม่ใช่คน ผมอยากหนีแต่ไม่ใช่การไปแจ้งความ”

การให้ความช่วยเหลือคนเหล่านี้นอกจากการให้ความคุ้มครองทางกฎหมายแล้ว Butt ยังมองว่าความเข้าใจก็เป็นเรื่องจำเป็น “ถ้าไม่เข้าใจภาษาและวัฒนธรรมของพวกเขา ก็ยากที่สื่อสารและให้ความช่วยเหลือได้”

 

ที่มา SLAVE HUSBANDS OF HONG KONG

 

อ่านข่าวอื่นได้ที่
เว็บไซต์ : workpointnews.com
เฟซบุ๊ก: ข่าวเวิร์คพอยท์   ตลาดข่าว   
ยูทูบ: workpoint news   
ทวิตเตอร์: workpoint news   
อินสตาแกรม: workpointnews

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า