Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา รัฐบาลจีนจัดงาน ‘Belt and Road Summit’ ครั้งที่ 8 ณ เขตบริหารพิเศษฮ่องกง เพื่อเฉลิมฉลองโอกาสครบครบรอบ 10 ปี ของโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ที่รัฐบาลจีนหมายมั่นปั้นมือใช้เป็นสะพานเชื่อมกับนานาประเทศทั่วโลก

TODAY Bizview ได้ไปร่วมงานและพบว่า ไฮไลต์ของปีนี้คือการประกาศสนับสนุนฮ่องกงสู่เวทีโลกของจีน รวมไปถึงการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างจีนและตะวันออกกลาง ผ่านโครงการ BRI ที่มีรูปแบบแปลกตาไปจากเดิม

จีนประกาศสนับสนุนฮ่องกงสู่เวทีโลก

ที่ผ่านมา ฮ่องกงไม่ได้เป็นเพียงศูนย์กลางทางการเงินของโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นประตูเชื่อมต่อตลาดระหว่างตลาดจีนและตลาดโลกด้วย

ติง เสวี่ยเซียง รองนายกรัฐมนตรีจีนกล่าวในระหว่างพิธีเปิดการประชุมสุดยอดครั้งนี้ว่าฮ่องกงใช้ความเชี่ยวชาญ ทั้งด้านการเงิน กฎหมาย การขนส่ง และการเผยแพร่วัฒนธรรม ในการกระชับความสัมพันธ์กับประเทศในโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง 

รัฐบาลจีนยืนยันจะรักษาหลักการ ‘หนึ่งประเทศ สองระบบ’ รักษาซึ่งบรรยากาศในการดำเนินธุรกิจที่เสรีและเปิดกว้าง รวมไปถึงการสร้างเครือข่ายระดับนานาชาติ เพื่อสนับสนุนให้ฮ่องกงมีบทบาทสำคัญในโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางร่วมกัน

นอกจากนี้ รัฐบาลจีนจะสนับสนุนให้ฮ่องกงเข้าร่วม RCEP หรือ ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือความตกลงการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลกให้เร็วที่สุด

“เราหวังว่าฮ่องกงจะกระชับความร่วมมือระดับภูมิภาคให้ลึกซึ้ง พร้อมทั้งขยายเครือข่ายการค้าและสร้างความร่วมมือกับนานาประเทศทั่วโลกให้มากขึ้น” รองนายกรัฐมนตรีจีนกล่าว

โดยการปรากฎตัวของติง เสวี่ยเซียง รองนายกรัฐมนตรีจีนและคณะกรรมการถาวรประจำกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน หรือ ‘โปลิตบูโร’ ลำดับที่ 6 ถือเป็นการประกาศโดยนัยว่าติงคือตัวแทนของพรคคอมมิวนิสต์จีน ที่จะเข้ามาควบคุมกิจการภายในฮ่องกงและมาเก๊า

ด้านจอห์น ลี ผู้นำสูงสุดของเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ก็ได้เน้นย้ำถึงการใช้หลักการหนึ่งประเทศ สองระบบ เป็นสะพานเชื่อมระหว่างจีนและประชาคมโลก

“เรากำลังขยายความร่วมมือกับประเทศในโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางให้มากขึ้น ตั้งแต่การค้า การลงทุน นวัตกรรม เทคโนโลยี ไปจนถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและโครงการอื่น ๆ อีกมากมาย” 

โดยในการประชุมสุดยอดครั้งที่ 8 นี้มีเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ผู้นำองค์กร นักธุรกิจ สตาร์ทอัพ และคณะผู้แทนจากจีนและต่างประเทศเข้าร่วมราว 6,000 คน จากมากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก รวมถึงมีการลงนามความร่วมมือหรือ MOU มากที่สุด นับตั้งแต่มีการจัดประชุม BRI Summit มา

เปิดฉากความสัมพันธ์จีน-ตะวันออกกลาง

หนึ่งในไฮไลต์สำคัญของปีนี้คือการจัดงานสัมมนาเกี่ยวกับการลงทุน การเงิน และความร่วมมือระดับเยาวชนร่วมกับประเทศในตะวันออกกลางเป็นครั้งแรก เพื่อเสริมสร้างและผลักดันความร่วมมือ โดยเฉพาะด้านการเงินและการลงทุนร่วมกัน

แต่จุดเริ่มต้นในการสานสัมพันธ์ระหว่างจีนและตะวันออกกลางคือเรื่อง ‘พลังงาน’

ย้อนกลับไปในปี 2018 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เคยเดินทางเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อเจรจากระชับความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีและผลักดันการใช้เงินหยวนเป็นสกุลเงินหลักในการค้าน้ำมันและพลังงานในตะวันออกกลาง 

ปลายปีที่ผ่านมา สี จิ้นผิง ได้เดินทางเยือนซาอุดิอาระเบีย เพื่อเข้าพบเจ้าชายโมฮัมหมัย บิน ซัลมาน มุฎราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบียด้วยจุดประสงค์เดียวกัน พร้อมย้ำว่าจีนจะยังคงนำเข้าน้ำมันดิบจากประเทศในตะวันออกกลางในปริมาณมหาศาลอย่างต่อเนื่อง และจะขยายการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ LNG เพิ่มขึ้น โดยใช้แพลตฟอร์มอย่าง Shianghai Petroleum and Natural Gas Exchange ในการซื้อขายพลังงานด้วยสกุลเงินหยวน

ตอนนี้ Shianghai Electric บริษัทด้านพลังงานของรัฐบาลจีน ยังได้ลงทุนในโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในตะวันออกกลาง และกำลังจะลงทุนด้านพลังงานสะอาดอื่น ๆ เพิ่มเติม

ไม่ใช่แค่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเท่านั้น แต่ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา จอห์น ลี ผู้นำสูงสุดของฮ่องกงเพิ่งจะเดินทางเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และซาอุดิอาระเบีย เขาได้เข้าพบกับอามิน นัสเซอร์ CEO ของ Saudi Aramco บริษัทแห่งชาติของซาอุดิอารเบีย ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อเจรจาชักชวนให้ Saudi Aramco เข้ามาจดทะเบียนบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ของฮ่องกงอีกด้วย

มูลค่าการค้าระหว่างจีนและชาติอาหรับจึงพุ่งขึ้นจาก 2.22 แสนล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา เป็น 4.31 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่ผ่านมา

ด้านจาง หลี่หมิง เอกอัครราชทูตพิเศษที่ดูแลประเทศในอ่าวเปอร์เซียบอกว่ามูลค่าการค้าเฉพาะจีนและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในปี 2021 อยู่ที่ 7.56 หมื่นล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ 

แต่หลังจากนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2030 หรืออีก 7 ปีข้างหน้า

นักวิเคราะห์มองว่าการสานสัมพันธ์กับตะวันออกกลางด้วยวิธีนี้ นับว่าเป็นวิธีการที่แตกต่างจากเดิม เพราะปกติจีนมักจะเน้นการให้เงินทุนหรือให้กู้ยืมเงินกับประเทศพันธมิตรนำไปก่อสร้างโครงการโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศ 

โดยในการประชุม BRI Summit ครั้งนี้จึงมีการจัดงานเสวนาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างจีน-ตะวันออกกลาง ที่มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศตะวันออกกลางเข้าร่วมด้วย

ราเนีย อัลมาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความร่วมมือระหว่างประเทศอียิปต์ บอกว่า “อียิปต์และจีนมีความร่วมมือในด้านโครงสร้างพื้นฐานและการค้ากันมาอย่างยาวนาน จีนได้ลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษคลองสุเอซ โดยเฉพาะด้านการผลิตและเทคโนโลยีอย่างมหาศาล” 

ส่วนอับดุลเลาะห์ บิน อัล มัรรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กล่าวว่า “สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กำลังให้ความสนใจเรื่องพลังงานหมุนเวียน พยายามรีไซเคิลทรัพยากรทั้งหมด อย่างเช่นโครงการที่กำลังพัฒนาอยู่ตอนนี้คือการเปลี่ยนน้ำมันที่ใช้ทำอาหารแล้วเป็นเชื้อเพลิงเครื่องบิน การท่องเที่ยวและการบินฮ่องกงสำคัฐกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มาก เพราะฉะนั้น การสร้างความมั่นใจว่าทั้ง 2 แผ่นดินจะสร้างความยั่งยืนร่วมกัน จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก”

จับตาความสัมพันธ์จีน-สหรัฐ

สิ่งที่น่าจับตาในงานนี้คือหลายประเทศที่เข้าร่วมในงานครั้งนี้ คือประเทศที่มีความสัมพันธ์กับจีนอย่างแน่นแฟ้นมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

เหลียง ไห่หมิง ผู้อำนายการศูนย์วิจัยหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง มหาวิทยาลัยไหหลำมองว่าในอดีต ชาติอาหรับมักจะพึ่งพาเรื่องความมั่นคงและเศรษฐกิจจากสหรัฐฯ 

แต่ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา สหรัฐฯให้ความสนใจชาติอาหรับน้อยลงไปมาก ส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างชาติอาหรับและจีนมีความแข็งแก่งมากขึ้น

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนย้ำภายในงาน BRI Summit ครั้งที่ 8 นี้ ว่าสหรัฐไม่ควรวิพากษ์วิจารณ์หรือแทรกแซงกิจการภายในโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ที่สร้างโอกาสในการพัฒนาไปทั่วโลก

“ตลอด 240 ปีที่ผ่านมา สหรัฐฯล้ำหน้าจีนไปในหลายมิติ แต่ห่วงโซ่อุปทานและอุตสาหกรรมก็ยังมั่นคงเพราะจีน จีนได้ผลิตสินค้าที่เป็นที่นิยม เข้าถึงได้ และมีคุณภาพดี ผู้ประกอบการกลายรายก็พึ่งพาตลาดจีนเพื่อความอยู่รอด” เจิ้ง หยานเซียน ผู้อำนายการสำนักงานประสานงานของรัฐบาลประชาชนส่วนกลางในฮ่องกง (Laison Office of the Central People’s Government) กล่าง

เขาย้ำว่าต่อให้สหรัฐฯจะไม่พอใจโครงการ BRI ของจีนมากแค่ไหน สหรัฐฯก็ได้ประโยชน์จากโครงการเส้นทางสายไหมที่ดำเนินมาแล้วกว่า 240 ปีอยู่ดี

หลังจากการประชุม BRI Summit ในฮ่องกงแล้ว ภายในเดือนตุลาคมนี้ จีนจะจัดงาน Belt and Road Forum for International Coporation (BRF) ครั้งที่ 3 ที่กรุงปักกิ่ง ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่ประธานาธิดีวลาดิเมียร์ ปูตินของจีนมีกำหนดเดินทางเยือนจีน ซึ่งมีรายงานว่าประธานาธิบดีปูตินเคยเข้าร่วมการประชุม BRF ของจีนทั้งหมด 2 ครั้งแล้ว 

อีกหนึ่งประเด็นน่าลุ้นคืออิตาลี ประเทศในยุโรปที่เคยประกาศเข้าร่วมโครงการ BRI อย่างเป็นทางการจะประกาศถอนตัวออกจากข้อตกลงดังกล่าวหรือไม่ หลังจากพบว่ายอดการส่งออกจากจีนมายังอิตาลีเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ แต่ยอดการส่งออกจากอิตาลีไปจีนกลับสวนทางกันโดนสิ้นเชิง

จึงเป็นที่น่าจับตาดูต่อไปว่าจีนจะใช้โอกาสครบรอบ 10 ปีของโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ในการเชื่อมสัมพันธ์กับประเทศที่รายล้อมจีนอย่างแอฟริกา ตะวันออกกลาง อาเซียน และประเทศในยุโรปบางประเทศอย่างไร และจีนเตรียมจีนจะใช้โครงการนี้คานอำนาจกับมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ ต่อไปอย่างไรในอนาคต

อ้างอิง :
https://www.scmp.com/news/china/politics/article/3234380/chinas-ding-xuexiang-signals-leading-role-communist-partys-revamped-hong-kong-affairs-body
https://www.scmp.com/business/article/3234549/hong-kong-based-fund-managers-keen-tap-middle-east-investment-opportunities-need-cultural-insights
https://www.scmp.com/news/hong-kong/hong-kong-economy/article/3209144/hong-kong-leader-john-lee-reveals-plans-lure-oil-giant-aramco-invest-and-list-city-he-arrives-saudi
https://www.globaltimes.cn/page/202309/1298143.shtml

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า