Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี นำทีมพนักงานสอบสวน หอบแฟ้มคดีปลัดหมีขอ 1,365 แผ่น แจ้ง 17 ข้อหา ส่งมอบให้อธิบดีอัยการภาค 7 ชี้จะเร่งพิจารณาสำนวนอย่างรวดเร็ว พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย คาดใช้เวลาตรวจสำนวนคดีอีก 5 วัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้ากรณีนายนายพนัชกร โพธิบัณฑิต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค นางสาวเนตรนภา งามเนตร ผู้ช่วยหัวหน้า อช.ไทรโยค และเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (ชุดพญาเสือ) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ร่วมกันจับกุมนายวัชรชัย สมีรักษ์ หรือ ปลัดแมน ปลัดฝ่ายป้องกันอำเภอด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี พร้อมพวก รวม 13 คน ในคดีล่าหมีขอที่บริเวณป่าเขาพลู หมู่ 8 ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 ราย คือ นายเจนระ หรือจีระ ชาวพม่า อยู่ระหว่างการหลบหนีหมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรี

การจับกุมคดีดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา ต่อมา พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ได้ลงพื้นที่ติดตามคดีด้วยตนเอง รวมทั้งตั้งคณะทำงานทีมพนักงานสอบสวนชุดเดียวกันกับการทำคดีล่าเสือดำ ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก โดยคดีดังกล่าวนั้น มีนายเปรมชัยกันสูต ประธานบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวก 4 คน เป็นจำเลย ซึ่ง พล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้สั่งกำชับให้พนักงานสอบสวน ชุดดังกล่าว รวบรวมสำนวนคดีปลัดหมีขอ ส่งให้อัยการจังหวัดกาญจนบุรี ภายใน 4 ผลัด ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (4ธ.ค.61) ที่ห้องประชุมสำนักงานอัยการจังหวัดกาญจนบุรี ถ.แม่กลอง ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี พล.ต.ต.สุวิทย์ ชาวศรีทอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.พูนศักดิ์ ประเสริฐเมธ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี นำพนักงานสอบสวนคดีหมีขอ ประกอบด้วย พ.ต.อ.ชาตรี. ศรีบุญ พ.ต.อ.พิพัฒน์ รุ่งสัมพันธ์ พ.ต.อ.สมศักดิ์ สุวรรณฉิม พ.ต.อ.บุญรัตน์ เพลินคู่ธรรม พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ ไชยภูมิสกุล ผกก.(สอบสวน) ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.ธานี. สงวนจีน. ผกก.ไทรโยค ,พ.ต.ท.เชาวฤทธิ์  อินทกรอุดม รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ไทรโยค นำแฟ้มสำนวนคดีหมีขอ จำนวน 4 แฟ้ม รวม 1,365 แผ่น ส่งมอบให้กับนายทนง ตะภา อัยการจังหวัดกาญจนบุรี โดยครั้งนี้นายสมโภชน์ ลิ้มตระกูล อธิบดีอัยการ ภาค 7 รวมทั้ง นายสุวิช ชูตระกูล รองอธิบดีอัยการ ภาค 7 นายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์  อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด เดินทางมาร่วมรับมอบสำนวนและแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนด้วย

ทั้งนี้ นายสมโภชน์ ลิ้มตระกูล อธิบดีอัยการภาค 7 เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการส่งมอบและรับมอบสำนวนคดีซึ่งคดีนี้เป็นคดีที่ประชาชนและสื่อมวลชนให้ความสนใจ และถือว่าเป็นคดีสำคัญ ทางอธิบดีอัยการภาค 7 ก็ได้มีคำสั่งแต่งตั้ง คณะทำงานขึ้นมาเพื่อทำการพิจารณาสั่งคดี โดยมีนายสุวิช ชูตระกูล รองอธิบดีอัยการ ภาค 7 เป็นหัวหน้าคณะทำงาน มีนายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นคณะทำงาน

“ในการสั่งคดีเราจะยึดกฎหมาย และนโยบายของท่านอัยการสูงสุด คือจะต้องให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย แล้วจะต้องอ่านสำนวนให้รวดเร็วและรอบคอบ หากสำนวนไม่มีปัญหา ผมมีนโยบาย ให้สั่งสำนวนให้เสร็จสิ้นภายใน 5 วัน แต่ถ้าหากว่าสำนวนมีข้อบกพร่อง ที่จะต้องสั่งสอบสวนเพิ่มเติมในประเด็นสำคัญ ผมมีนโยบายที่จะเร่งรัดพนักงานสอบสวนให้ส่งสำนวนการสอบสวนเพิ่มเติมเข้ามาภายใน 5 วัน หรือทุกๆ 5 วัน และจะให้คณะทำงานพิจารณาสั่งคดีให้เสร็จโดยเร็ว และจะให้เสร็จภายใน 9 วัน”

 

ด้านพลตำรวจตรี สุวิทย์ ชาวสีทอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า คดีนี้ ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับผิดชอบตั้งแต่ประมาณต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันนี้เราได้รวบรวมพยานหลักฐาน พยานบุคคล พยานวัตถุ รวมทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยพนักงานสอบสวนซึ่งตำรวจภูธรภาค 7 ได้ตั้งเป็นคณะพนักงานสอบสวนสืบสวนขึ้นมา ใช้ระยะเวลาในการสอบสวนประมาณ 55 วัน ผู้ต้องหามีทั้งหมดทั้งสิ้น 14 คน สามารถจับกุมได้แล้ว 13 คน และมีการออกหมายจับ 1 คน

สำหรับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ได้ใช้ทุกฉบับไม่ว่าจะเป็นกฎหมายของกรมอุทยานฯ กฎหมายกรมป่าไม้ กฎหมายอาญา พระราชบัญญัติอาวุธปืน และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ส่วนเอกสารที่เรารวบรวมมามีทั้งหมด 4 แฟ้ม 1,365 แผ่น ซึ่งเรามั่นใจมากว่า สำนวนมีความสมบูรณ์เต็มที่

สำหรับนายจีระ ผู้ต้องหา ตามหมายจับที่เหลืออีก 1 คน ได้ประสานเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองทุกด่านรวมถึง สถานีตำรวจภูธร พื้นที่ที่อยู่ตามแนวชายแดนให้รับทราบ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ก็กำลังพยายามติดตามจับกุมอยู่ ส่วนผู้ต้องหาจะหลบหนีออกไปนอกประเทศหรือไม่ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้

สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 14 คนประกอบด้วย

  • ผู้ต้องหาที่ (1) คือ นางสาวศรีวิจิตร ดิษฐ์แช่ม
  • ผู้ต้องหาที่ (2) นายทัศดนัย ขอกระโชก
  • ผู้ต้องหาที่ (3) นายฉัตรชัย เกาะลอย
  • ผู้ต้องหาที่ (4) นายจิรชัย ตันติวัฒนสิทธิ์
  • ผู้ต้องหาที่ (5) ว่าที่ ร.ต. สุนทร มาเจริญรุ่งเรือง
  •  ผู้ต้องหาที่ (6) นายสกานต์ แก่งหลวง
  • ผู้ต้องหาที่ (7) นายอนุสรณ์ เรือนงาม
  • ผู้ต้องหาที่ (8) นายประสาน เต็มธนัน
  • ผู้ต้องหาที่ (9) นางอรุณ แสงใส
  • ผู้ต้องหาที่ (10)นายถาวร เซี่ยงหลิว
  • ผู้ต้องหาที่ (11) นายวัชรชัย สมีรักษ์
  • ผู้ต้องหาที่ (12)นายสมเกียรติ เพ็งนาเรนทร์
  • ผู้ต้องหาที่ (13) นานตาต้า ชาวกะเหรี่ยง
  • และ ผู้ต้องหาที่ (14) นายจีระ หรือเจนระ ชาวกะเหรี่ยง ที่อยู่ระหว่างการหลบหนีหมายจับ

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน มีความเห็นส่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 14 คน รวม 17 ข้อหา คือ

  1. ฟ้องผู้ต้องหาที่ 1-14 ฐาน ร่วมกันเก็บหานำออกไปทำด้วยประการใดๆให้เป็นอันตรายหรือเสื่อมสภาพฯ
  2. ฟ้องผู้ต้องหาที่ 1-14 ฐานความผิดร่วมกันนำสัตว์ออกไปหรือกระทำด้วยประการใดๆให้เป็นอันตรายแก่สัตว์
  3. ฟ้องผู้ต้องหาที่ 1-12 ฐานความผิด “ร่วมกันนำยานพาหนะเข้าออก หรือขับขี่ยานพาหนะในทางที่มิได้จัดไว้เพื่อเป็นการนั้นฯ
  4. ฟ้องผู้ต้องหาที่ 1-14 ฐานความผิด “ร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์หรือจับสัตว์หรืออาวุธใดๆเข้าไปในเขตอุทยาน”
  5. ฟ้องผู้ต้องหาที่ 1-14 ฐานความผิด “ร่วมกันล่าหรือพยายามล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์คุ้มครอง
  6. ฟ้องผู้ต้องหาที่ 1-14 ฐานความผิด “ร่วมกันมีไว้ครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวนสัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าสงวน”
  7. ฟ้องผู้ต้องหาที่ 1-14 ฐานความผิด “ร่วมกันซ่อนเร้น ช่วยพาเอาไปเสีย หรือรับไว้ด้วยประการใดๆซึ่งสัตว์ป่าหรือซากฯ
  8. ร่วมกันเก็บหาของป่าหรือกระทำด้วยประการใดๆอันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าฯ
  9. ฟ้องผู้ต้องหาที่ 1-12 ฐานความผิด “ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”
  10. ฟ้องผู้ต้องหาที่ 1-14 ฐานความผิด “ร่วมกันพาอาวุธปืน ไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต”
  11. ฟ้องผู้ต้องหา ที่ 7.ฐานความผิด “ร่วมกันมีเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้”
  12. ฟ้องผู้ต้องหาที่ 6-7-13-14 ฐานความผิด “มีอาวุธปืนที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตไม่ได้”
  13. ฟ้องผู้ต้องหา 1-2-3-6-7-8-11-13-14 ฐานความผิด “ยิงปืนในเขตอุทยานแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่”
  14. ฟ้องผู้ต้องหาที่ 1-14 ฐานความผิด “ยิงสัตว์ป่าในเวลาอาทิตย์ตกและพระอาทิตย์ขึ้น”
  15. ฟ้องผู้ต้องหาที่ 1-14 ฐานความผิด “ล่าสัตว์ป่าคุ้มครองในบริเวณวัด”
  16. ฟ้องผู้ต้องหาที่ 3-4-5-6-7-10-11-13-14 ฐานความผิด “บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในบริเวณวัด”
  17. ฟ้องผู้ต้องหาที่ 7 ฐานความผิด “มีเครื่องยุทธภัณฑ์ไว้ในความ ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า