ฝากขัง 2 ผู้ต้องหาหลอกทำข้าวกล่องหมื่นชุด

ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาฉ้อโกงข้าวหมื่นกล่อง 2 คน ไปสอบปากคำและคุมตัวไปฝากขังศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ เตรียมขยายผลหาผู้ร่วมกระทำผิดและผู้ที่ตกเป็นเหยื่อเพิ่ม

วันที่ 8 พ.ย. 2561 ตำรวจได้คุมตัวนางธนิตา จันทร์อิ่ม อายุ 37 ปี ผู้ชักชวน และ น.ส.กัญจ์หทัย สุกใส อายุ 40 ปี ผู้ทำสัญญา ผู้ว่าจ้างทำข้าวหมื่นกล่องสอบปากคำเพิ่ม หลังจากปล่อยตัวชั่วคราวไปวานนี้ หลังสอบปากคำแล้วทั้งสองคนถูกตำรวจภูธรพญาแมนคุมตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดอุตรดิตถ์

จากการสอบปากคำครั้งแรกนางธนิตา และนางสาวกัญจ์หทัย ยืนยันว่า ไม่ได้หลอกลวงผู้ทำสัญญารับจ้าง อ้างว่าผู้ทำสัญญา ทำผิดตามสัญญาเอง โดยไม่ส่งข้าวกล่องตามเวลาที่ได้กำหนดในสัญญา ยืนยันจะขอฟ้องคดีแพ่ง กับผู้ทำสัญญารับจ้างที่กล่าวหา ขณะที่ตำรวจรวบรวมหลักฐาน พบว่านางธนิตา และนางกัญจ์หทัย ไม่มีสัญญากับบริษัทใดตามที่แอบอ้าง เนื่องจากไม่พบว่า มีการโอนเงินเพื่อทำธุรกรรม

ด้านพล.ต.ต.พยูห์ ธนะศรีสืบวงศ์ รรท.ผบก.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า วันนี้ได้นำตัวผู้ต้องหา 2 คนมาสอบเพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อให้ทุกอย่างมีหลักฐานแน่นหนาที่สุด ในการพิสูจน์ความผิด หรือความบริสุทธิ์ของผู้ต้องหา เพื่อนำคดีขึ้นศาลและให้ความเป็นธรรมแก่ทั้ง 2 ฝ่าย ส่วนเรื่องการประกันตัวนั้นอยู่ในดุลยพินิจของศาล หากศาลไม่ให้ประกันตัวก็เข้าเรือนจำ หรือหากให้ประกันตัวในชั้นศาลก็จะต้องรายงานตัวทุกระยะ พร้อมกันได้มีการหารือร่วมกันระหว่างทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เพื่อร่วมกันสืบสวนขยายผลหาผู้กระทำความผิดและผู้ที่ถูกหลอกลวงเพิ่มเติม ซึ่งในชั้นนี้ผู้ต้องหายังไม่มีการซัดทอดใครเพิ่ม

จากข้อมูลทราบว่านางธนิตา มีคดียักยอกทรัพย์ 4 คดี ฉ้อโกง 4 คดีปลอมแปลงเอกสาร 1 คดี และยาเสพติด 1 คดี คดีความทั้งหมดยังอยู่ในระหว่างประกันตัวอยู่ ก่อนหน้านี้นางธนิตา ได้ฉ้อโกงญาติพี่น้องซึ่งค้ำประกันรถยนต์ จำนวน 4 คัน ที่ได้ออกมาพร้อมๆ กัน ในจังหวัดอุตรดิตถ์และจังหวัดพิษณุโลก แต่นางธนิตา ไม่เคยส่งค่างวดเลย ทำให้ผู้ค้ำประกันถูกยึดบ้านพร้อมที่ดินขายทอดตลาดเพื่อชดใช้หนี้

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ไม่ให้ประกันตัว เนื่องจากเกรงผู้ต้องหาหลบหนี