ประเด็นคือ – เจ้าหน้าที่ขุนหาญ สนธิกำลังไล่จับ 2 หนุ่มบึงกาฬ ลักลอบขนไม้พะยูง 7 ท่อน มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท
วันที่ 8 ธ.ค. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์ดำรงธรรม อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ นายคมป์ สังข์วงษ์ นายอำเภอขุนหาญ เปิดเผยว่า ตน และ พ.ต.อ.ธรรมนูญ ฉิมวงษ์ ผกก.สภ.ขุนหาญ สืบทราบว่า มีการลักลอบตัดไม้พะยูงและนำไม้พะยูงมาซุกซ่อนไว้บริเวณป่าทางด้านทิศใต้บ้านหนองบัว ม.6 ต.โนนสูง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ จึงได้สั่งการให้ น.ส.อมร นามบุตร ปลัดอำเภอ หน.กลุ่มงานบริหารงาน ปค., นายเทพพิทักษ์ เหมือนสวรรค์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง นำกำลังสมาชิก อส.อ.ขุนหาญ ที่ 6 สนธิกำลังร่วมกับ ตร.สภ.ขุนหาญ, จนท.ชุด ปทส.กก.สส.ภจว.ศก., จนท.ร้อย ฉก.ตชด.224, จนท.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ศก.1 ร่วมตรวจสอบและวางกำลัง ดักซุ่มบริเวณพื้นที่ดังกล่าว
ต่อมามีรถยนต์ จำนวน 1 คัน และจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน ขับมาจอดที่บริเวณดังกล่าว และมีชาย 2 คนช่วยกันขนไม้พะยูงขึ้นรถยนต์คันที่จอดอยู่ จากนั้นได้ขับออกไปทางถนนสายบ้านหนองบัว – ขุนหาญ ด้วยความเร็วสูง จนท.จึงได้ขับรถยนต์ไล่ติดตามไปอย่างกระชั้นชิด ซึ่งเมื่อคนร้ายเห็นว่า มีรถของเจ้าหน้าที่ไล่ติดตาม จึงเร่งเครื่องรถขับหลบหนี เจ้าหน้าที่สามารถไล่ติตตามสกัดจับกุมได้ที่บริเวณสี่แยกไฟแดงบ้านหัวช้าง ม.5 ต.สำโรงพลัน อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ
จากการตรวจค้นภายในรถ พบชาย 2 คน ทราบชื่อภายหลังคือ นายปรีชา จันดาวัน อายุ 33 ปี ชาวบึงกาฬ และนายสมศักดิ์ เสาสอน อายุ 46 ปี ชาวบึงกาฬ และพบไม้พะยูง จำนวน 7 ท่อน คิดเป็นมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท อยู่ภายในรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีเทา หมายเลขทะเบียน บต 3717 นครพนม โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง เจ้าหน้าที่จึงได้ตั้งข้อกล่าวหาร่วมกันมีไม้หวงห้ามแปรรูป (ไม้พะยูง) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต รับไว้ด้วยประการใดๆ ซ่อนเร้น จำหน่าย หรือช่วยพาเอาไปเสียให้พ้นซึ่งไม้หรือของป่าที่ตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้หรือของป่าที่มีผู้ได้มาโดยการกระทำผิดกฎหมาย จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาและของกลางไปส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.ขุนหาญ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป