Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ประเด็น – จากเหตุการณ์แก๊สกระป๋องที่ใส่เตาแบบต้มที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเกิดระเบิดใส่ 2 สาว จนถูกไฟคลอกได้รับบาดเจ็บ ล่าสุดผู้บาดเจ็บได้เข้ามาร้องเรียนผ่านทีมข่าวเวิร์คพอยท์ ได้กล่าวว่าได้รับค่าชดเชยไม่เป็นธรรมและคดีไม่คืบกว่า 2 เดือนแล้ว

จากกรณีที่มีผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบแก๊สกระป๋องระเบิดระหว่างที่ไปนั่งทานอาหารประเภทปิ้งย่าง (สไตล์ญี่ปุ่น) ในร้านแห่งหนึ่ง ได้มีการร้องเรียนร้องเรียนกับทีมข่าวเวิร์คพอยท์และขอความช่วยเหลือ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีความ หลังที่แจ้งความและร้องเรียนไปถึงศูนย์ดำรงค์ธรรม เจ้าของร้านยังไม่มีการพูดคุยติดต่อกลับมา

โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 ก.ค. 60 นางสาวนภัสศรณ์ สังข์สวัสดิ์ และนางสาวเบญจวรรณ ทำเนาว์ กล่าวว่า “ได้ไปรับประทานอาหารประเภทปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นร้านหนึ่งที่แถวหน้าหมู่บ้านเดอะเมโทร ชื่อร้าน บูตะ บูตะ กริล ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี โดยไปรับประทานอาหารในเวลาประมาณสองทุ่มเศษๆ ซึ่งได้สั่งเตาไป 2 เตา คือเตาแบบปิ้งย่าง และเตาแบบต้มที่มีหม้อต้มเป็นทองเหลือง โดยเชื้อเพลิงที่ใช้คือแก๊สกระป๋อง

นั่งไปสักพักเตาแบบต้มไฟดับ เลยเรียกพนักงานมาจุดเตาให้ พนักงานก็ขยับเตาและขยับกระป๋องแก๊สพร้อมกับใช้กระดาษทิชชูเป็นตัวล็อกตัวอุปกรณ์ไว้ แล้วพนักงานก็จุดไฟ เตาก็สามารถใช้งานได้ปกติ  เวลาผ่านไปสักพักเตาแก๊สตัวที่ตั้งหม้อทองเหลืองก้อระเบิดเสียงดังและทำให้ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งโต๊ะข้างๆ อีก 6 – 7 คน”

เหตุการณ์ในวันนั้นทำให้นางสาวเบญจวรรณ ทำเนาว์ ได้รับบาดเจ็บจากไฟลวกและน้ำร้อนลวก บริเวณใบหน้าแขนทั้งสองข้างและขาขวา ต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล 4 วัน และหยุดงานเป็นเวลาประมาณ 1 เดือน ส่วนนางสาวนภัสศรณ์ สังข์สวัสดิ์ ได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิดเย็บที่ศอกซ้ายไป 5 เข็ม และบริเวณท้องอีก 3 เข็ม และมีแผลไฟไหม้ที่ใบหน้า แขนซ้าย มือขวา นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล 4 วัน และหยุดงานอีก 20 วัน

ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ศรีมหาโพธิ ผู้รับเรื่องคือ ร.ต.อ.จุมพล ทฤษฎีสุข ร้อยเวรสอบสอน และได้ไปร้องเรียนที่ สคบ.และศูนย์ดำรงธรรม จ.ปราจีนบุรี จนเวลาผ่านมา 2 เดือนแล้ว แต่ก็ไม่ได้รับการติดต่อใด ๆ กลับมา จึงติดต่อกลับไปได้คำตอบแค่ว่ารอสืบสวน ส่วนศูนย์ดำรงธรรมก็บอกแค่ว่าให้รอเอกสารชี้แจงโดยใช้เวลาอีกประมาณ 15 – 30 วัน ผู้เสียหายจึงขอร้องเรียนผ่านสื่อ เพื่อช่วยติดตาม เพราะไม่ทราบถึงกระบวนการทำงานต้องใช้เวลานานมากขนาดนี้หรือไม่

หลังจากที่ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความคืบหน้า โดยได้เดินทางไปยังศูนย์ดำรงธรรม และสถานีตำรวจภูธร อำเภอศรีมหาโพธิ เบื้องต้นที่ศูนย์ดำรงธรรมปราจีนบุรี และ สคบ. จังหวัดปราจีนบุรี ผู้สื่อข่าวได้ข่าวพูดคุยกับ นายทิวา วัชรกาฬ รองผู้ว่าราชการจังหวัด และเป็น ผอ.ศูนย์ฯ กล่าวว่า “สำหรับเนื้อเรื่องนี้ ได้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ไม่ว่าจะเป็นศูนย์ดำรงธรรม และสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ได้มีหนังสือไปถึงผู้ประกอบการร้านดังกล่าว โดยให้ทางเจ้าของร้านทำหนังสือชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาซึ่งผลปรากฏว่า ได้มีการไกล่เกลี่ยกันในเบื้องต้นแล้ว โดยแบ่งเป็น 2 ครั้ง

ครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 และ 23 ก.ค. 60 ได้จ่ายเงินไปส่วนหนึ่ง รายแรกนางสาวนภัสสรได้จ่ายไปเป็นจำนวน 31,360 บาท และนางสาวเบญจวรรณ 66,360 บาท  โดยถ้าผู้ร้องและเจ้าของร้านสามารถไกล่เกลี่ยกันได้ ก็เป็นไปตามข้อไกล่เกลี่ย

แต่ถ้าไม่สามารถไกล่เกลี่ยได้ ทางอนุกรรมการ สคบ. จะมีการประชุมกันว่าจะต้องทำเรื่องไปถึง สคบ. ส่วนกลางหรือไม่ เพื่อที่จะให้ทาง สคบ. ส่วนกลางฟ้องกับทางร้าน ทั้งนี้ทราบว่าผู้ร้องได้มีการแจ้งความไว้ที่ สภ.ศรีมหาโพธิ เบื้องต้นทางผู้ร้องทั้ง 2 ราย ได้เรียกร้องค่าชดเชย โดยนางสาวเบญจวรรณเรียกค่าชดเชย 500,000 บาท ส่วนนางสาวนภัสสรเรียกค่าชดเชย 300,000 บาท ซึ่งเป็นไปตามสิทธิ์ของผู้ร้องที่สามารถ จะเรียกร้องได้ตามความเสียหายที่เกิดขึ้น

ด้านพันตำรวจเอกนาวิน สินธุรัตน์ ผู้กำกับ สภ.ศรีมหาโพธิ ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนรับเรื่องไปดำเนินการ โดยได้มีการเรียกคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาตกลงกัน ในการชดใช้ค่าสินไหมหรือค่าเสียหาย ซึ่งทางเจ้าของร้านได้มีการชดใช้ไปแล้วในบางส่วน แต่ทั้งนี้ข้อตกลงยังไม่ยุติ เนื่องจากผู้เสียหายได้มีการเรียกร้องกับทางร้านเป็นจำนวนเงินจำนวนหนึ่งซึ่งยังไม่สามารถตกลงกันได้

ส่วนการสอบสวน ได้มีการเชิญตัวเจ้าของผลิตภัณฑ์หรือผู้จำหน่ายมาสอบปากคำแล้วพร้อมกับส่งชิ้นส่วนไปให้ทางผู้เชี่ยวชาญ ด้านวัตถุดังกล่าวตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์ได้มาตรฐานหรือไม่

นางสาวนภัสสร และนางสาวเบญจวรรณ เล่าว่า “โดยตั้งแต่ทีแรกหลังจากที่เกิดเหตุ ทางเจ้าของร้านได้ไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 304 รวมถึงจุฬารัตน์ 11 ที่ จ.ฉะเชิงเทรา ด้วยดีเสมอมา โดยมีทางบริษัทแก๊สกระป๋องเดินทางไปด้วย ตอนแรกเจ้าของร้านบอกว่าจะชดเชยทำนองเงินเดือน 1 เดือน ที่ขาดรายได้ โดยเจ้าของร้านได้ทำเป็นหนังสือสัญญาไว้ และโดยเฉพาะในวันที่ออกจากโรงพยาบาลซึ่งตกลงกันไว้ว่าจะมารับ แต่ก็ไม่มาเพียง แต่ส่งเงินค่าใช้จ่ายในเรื่องของค่ารถมาให้จำนวนคนละ 11,000 บาท หลังจากนั้นได้พยายามที่จะติดต่อพูดคุยกับเจ้าของร้าน ซึ่งได้รับคำตอบว่า “ให้คุยกับทนาย”

หลังจากนั้นเราทั้งคู่จึงไปแจ้งความเพื่อที่จะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นคนเรียกเจ้าของร้านมาพูดคุย แต่เจ้าของร้านก็พยายามที่จะโยนให้ทนายเป็นฝ่ายพูดคุย ซึ่งตามความจริงแล้วหากเจ้าของร้านพูดคุยกับเราโดยตรงก็จะไม่มีการแจ้งความ ส่วนเรื่องเงินนั้นเราก็จะดูความเหมาะสม ในการรักษาของเราเท่านั้น ไม่ใช่มาให้เรา 20,000 – 50,000 บาทแล้วจบ มันสมเหตุสมผลหรือไม่ แม้แต่ขณะนี้ที่เรามีการร้องเรียนขึ้นไปเราก็ยังต้องการพูดคุยกับเจ้าของร้านเองจริงๆ”

ในขณะเดียวกันทางผู้สื่อข่าวเองได้พยายามโทรติดต่อกับทางเจ้าของร้านดังกล่าวซึ่งได้รับคำตอบมาว่า “เราได้ชดเชยให้ไปแล้วบางส่วน ส่วนทางร้านนั้นได้มีการปรับปรุงรูปแบบของการให้บริการโดยเปลี่ยนจากแก๊สกระป๋องมาเป็นใช้ถ่านแทน” ต่อมาเจ้าของร้านบอกว่า กำลังติดงานอยู่ที่กรุงเทพเดี๋ยวจะโทรกลับ จากนั้นทางผู้สื่อข่าวยังไม่ได้รับการติดต่อจากทางเจ้าของร้าน

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า