ล่าตัวคนขับกระบะซิ่งตัดหน้า จยย. บาดเจ็บสาหัส แล้วซิ่งหนี ไม่รับผิดชอบ

ประเด็นคือ- ชาวเน็ตตามล่าตัวรถกระบะพุ่งรถออกจากซอย ข้ามถนนเพื่อเลี้ยวขวา ทั้งที่เป็นถนนใหญ่ รถวิ่งเร็วพลุกพล่าน ตัดหน้า จยย. ชนเจ็บสาหัส ก่อนซิ่งหนี ไม่เหลียวแลคนเจ็บ

นี่เป็นคลิปภาพวงจรปิดที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ kannika saenthan นำมาโพสต์เพื่อขอความช่วยเหลือจากสื่อโซเชียลมีเดีย ให้ช่วยติดตามรถกระบะคู่กรณี ที่ขับพุ่งออกซอยตัดหน้ารถ จยย.ของพ่ออย่างกระชั้นชิด จนรถ จยย.พุ่งชนด้านข้างรถ ฝั่งประตูคนขับจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะที่คนขับกระบะคู่กรณีกลับไม่ลงมาช่วยเหลือขับรถหลบหนีไป

ผู้โพสต์คลิปได้ระบุข้อความว่า  “รบกวนเพื่อนๆ อีกครั้งนะคะ นี่เป็นภาพรถกระบะคันที่ตัดหน้ารถพ่อเรา #มีคลิป เขาขับออกไป โดยที่พ่อเรายังอยู่ตรงล้อรถ เขาใครรู้จัก หรือพบเห็น ช่วยแจ้งเบาะแสด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ”

เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 พ.ย. 60 เวลาประมาณ 07.44 น. (เวลาตามคลิปวิดีโอ) บริเวณ ถ.คันคลองชลประทาน บริเวณปากซอยทางออกวัดใหม่ห้วยทราย ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งภาพ เหตุการณ์ในคลิปจะเผยให้เห็นรถกระบะ สีบรอนซ์เทา มีโครงเหล็กที่หลังกระบะ ขับออกจาก ซ.วัดใหม่ห้วยทราย เพื่อรอข้ามถนนไปยังสะพานจุดยูเทิร์นรถ

โดยรถคันกล่าวได้ขับมาจอดหน้าปากซอยก่อน ค่อยๆ ขยับรถมาทีละนิดๆ จากนั้นก็ขับพุ่งตัดตรงออกมาด้วยความเร็ว แต่ปรากฏว่า ในช่วงที่กำลังจะข้ามถึงสะพาน (นาทีที่ 00.41) มีรถ จยย.ที่ขับมาทางตรง เบรกไม่ทัน พุ่งชนเข้าที่ด้านข้างรถฝั่งประตูคนขับอย่างจัง จนคนขี่รถ จยย.กระเด็นไปกระแทกรถ ก่อนที่ร่างจะตกลงมาข้างรถ พลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ได้วิ่งเข้าไปช่วยเหลือ

ส่วนรถกระบะคันดังกล่าว หลังเกิดเหตุพยายามขยับรถจนหลุดออกจากรถ จยย.ที่ถูกชน และขับข้ามสะพานหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่สนใจให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บแต่อย่างใด พลเมืองดีต้องช่วยกันนำร่างของคนเจ็บหลบเข้าข้างทาง กระทั่งมีรถพยาบาลมาช่วยเหลือรับตัวผู้บาดเจ็บส่ง รพ.มหาราชนครเชียงใหม่เพื่อทำการรักษา

ขณะที่ น.ส.กรรณิกา แสนทัน อายุ 21 ปี ลูกสาวของผู้บาดเจ็บกล่าวว่า ขณะนี้คุณพ่อยังรักษาตัวอยู่ในห้องผู้ป่วยวิกฤต โดยมีอาการบาดเจ็บ กระดูกซี่โครงหัก 3 ซี่ ปอดและตับฉีก แพทย์ผู้รักษาระบุว่า จะต้องรอดูอาการก่อนว่าในส่วนของตับอ่อนยังใช้การได้อยู่หรือไม่ หากตับอ่อนเสียก็ต้องนำตัวผู้ป่วยเข้าห้องผ่าตัด

ส่วนความคืบหน้าในคดี ขณะนี้ยังไม่สามารถติดตามรถคู่กรณีได้ เนื่องจากจุดที่เกิดเหตุ กล้องวงจรปิดไม่เห็นป้ายทะเบียนรถกระบะ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามคนขับกระบะที่หลบหนีเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป