วิสามัญ หนุ่มซิ่งกระบะแหกด่าน ตร.เผย พยายามต่อสู้ ขัดขืนการจับกุม

หนุ่มภูเก็ตขับรถแหกด่านตรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ก่อนขับชนรถ ตร.เชิงทะเลที่เข้าสกัด ใช้ปืนพยายามต่อสู้ สุดท้ายไม่รอด ถูกวิสามัญดับ ด้านผู้การฯ ภูเก็ต ลงตรวจสอบ ยืนยันพร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย เตือนผู้ใต้บังคับบัญชาระมัดระวังกรณีผู้ต้องสงสัยมีอาวุธ ใช้เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นบทเรียน

เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 18 ก.ย. 61 ร.ต.อ.ยุทธพล ยะฝา รองสว.(สอบสวน) สภ.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งว่า มีเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงสกัดรถกระบะ ผู้ต้องสงสัยซิ่งแหกด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจจากพื้นที่ ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต มีผู้เสียชีวิตคาที่ 1 ราย เหตุเกิดบริเวณถนนศรีสุนทร หน้าร้านต้นหอม ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต

จากนั้นได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น และเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.เสริม ขวัญนิมิต ผกก.สภ.เชิงทะเล , พ.ต.ท.สมพงศ์ จุลเรือง รองผกก.(สอบสวน)ฯ , พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ หนูผึ้ง รองผกก.พิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ต , อัยการ , เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.ถลาง , แพทย์เวรโรงพยาบาลถลาง , เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต

ที่เกิดเหตุริมถนนศรีสุนทร พบรถกระบะ ทะเบียน บบ – 1233 ภูเก็ต สภาพรถชนติดอยู่กับทางเท้า บังโคลนหน้าได้รับความเสียหาย ที่บริเวณด้านหน้าและประตูฝั่งคนขับมีรอยกระสุนประมาณ 9 รู ภายในรถที่เบาะนั่งฝั่งคนขับ พบศพชายไทย ทราบชื่อภายหลัง คือ นายชิษณุพงษ์ เครือจันทร์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/11 ซอยปฎัก 12 ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต

ตรวจสอบภายในรถยนต์คันดังกล่าว พบอาวุธปืนพกสั้น ขนาด .357 พร้อมกระสุนขนาด .357 จำนวน 6 นัด อยู่ในรังเพลิง และพบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนขนาด .38 อยู่ในรังเพลิง จำนวน 1 นัด และพบกระสุนปืน ขนาด .45 จำนวน 5 นัด กระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 4 นัด และกระสุนปืน ขนาด .357 จำนวน 6 นัด อยู่ภายในรถยนต์ เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นหลัก จากนั้นได้มอบศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตนำส่งโรงพยาบาลถลาง เพื่อให้แพทย์ชันสูตรอย่างละเอียด

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเวลาประมาณ 00.30 น. วันเดียวกัน (18 ก.ย.) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองภูเก็ต นำโดย ร.ต.อ.ปรีชาภัทร สังข์น้อย รองสวป.สภ.เมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจสภ.เมืองภูเก็ตได้ตั้งจุดตรวจ-จุดสกัดที่บริเวณถนนเทพกระษัตรี บริเวณซอยเสียงใต้ ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต

ได้มีรถกระบะขับมาถึงจุดตรวจ จึงได้เรียกให้หยุดรถ แต่รถกระบะคันดังกล่าวได้ขับฝ่าด่านตรวจหลบหนีมาทางหน้าโรงเรียนสตรีภูเก็ต ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ไล่ติดตามมาและวิทยุแจ้งให้สกัด

โดยรถกระบะได้หลบหนีมาถึงสี่แยกมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เลี้ยวขวาขับมาตามถนนเทพกระษัตรีมุ่งหน้ามาทาง อ.ถลาง และได้เฉี่ยวชนรถของประชาชนที่บริเวณแยกโรงไฟฟ้า แต่ก็ยังไม่หยุด ได้ขับหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้ไล่ติดตามและยิงสกัดเพื่อให้หยุดรถ แต่ผู้ตายไม่ยอมหยุด

เมื่อขับมาถึงบริเวณอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี-ท้าวศรีสุนทร ได้ขับเลี้ยวซ้ายมาตามถนนศรีสุนทร มุ่งหน้ามาทาง ต.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ไล่ติดตามอย่างกระชันชิด และได้วิทยุแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล สกัดรถคันดังกล่าว

เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถสายตรวจของ สภ.เมืองภูเก็ต ได้ขับแซงและบีบช่องทางเพื่อให้รถของผู้ตายหยุดรถ แต่ไม่ยอมหยุด ได้ขับชนประตูด้านหน้าซ้ายของรถสายตรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ทำให้ประตูพับไปทางด้านหน้า และรถยนต์คันดังกล่าวได้เสียหลักไปชนกับฟุตบาธริมถนน

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ใช้ไฟส่องและสั่งให้ลงจากรถ แต่ผู้ตายไม่ยอมลง แต่กลับใช้อาวุธปืนยกขึ้นเล็งมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อยิงต่อสู้ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้อาวุธปืนยิงเพื่อยับยั้ง แต่กระสุนได้ถูกนายชิษณุพงศ์เสียชีวิตในที่สุด

จากการตรวจสอบประวัติของผู้ตายเคยต้องหาคดี คดีอาญาประมาณ 5 คดี ทั้งพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและจังหวัดตรัง และมีหมายจับ 3 หมายจับ แต่หมดอายุความ 2 หมายจับ และถอนหมาย 1 หมาย ทั้งนี้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ส่วนสาเหตุที่แท้จริงจะทำการสอบสวนอย่างละเอียดต่อไป

ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. วันนี้ (18 ก.ย.) พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ตร.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย ลิ้มเจริญ รอง ผบก.ตร.ภ.จว.ภูเก็ต เดินทางไปยัง สภ.เชิงทะเล เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีฯ โดยได้ร่วมตรวจสอบร่องรอยความเสียหายของรถที่ผู้เสียชีวิตใช้หลบหนี และรถของเจ้าหน้าที่ ก่อนเข้าประชุมร่วม กับพ.ต.อ.เสริม ขวัญนิมิตร ผกก.สภ.เชิงทะเล รองผกก.และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเพื่อวางแนวทางการทำงาน

พล.ต.ต.ธีระพล เปิดเผยว่า ในคดีดังกล่าวขณะนี้ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย ลิ้มเจริญ รอง ผบก.ตร.ภ.จว.ภูเก็ต เข้ามาดูแลสำนวนคดีให้เกิดความเป็นธรรม ไม่ให้เกิดความเคลือบแคลงใจของฝ่ายญาติผู้เสียชีวิต โดยได้สั่งการดำเนินตามขั้นตอน

ทั้งการส่งศพผู้เสียชีวิตไปชันสูตร และให้เจ้าหน้าที่เร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมอย่างละเอียด เช่นการตรวจสอบหาหลักฐานภายในตัวรถ การตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมทั้งผู้เสียหายที่ถูกรถผู้เสียชีวิตชนขณะติดไฟแดง การตรวจสอบประวัติทางคดีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

พล.ต.ต.ธีระพล กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันปัญหายาเสพติดในจังหวัดภูเก็ต ถึงแม้เจ้าหน้าที่จะกวดขันจับกุมอย่างเข้มงวดแต่ก็ยัง มีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงขึ้น และในการเข้าตรวจค้นจับกุมแต่ละครั้ง เจ้าหน้าที่พบว่าผู้ต้องหาหลายราย มีการใช้อาวุธปืน ทำให้มีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น จึงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความระมัดระวัง มีสติ มีวิจารณญาณในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับตนเองและผู้อื่นมากยิ่งขึ้น