ศึกชิงนาง ! ตะลุมบอนนัวเนีย อีกฝ่ายสู้ไม่ได้คว้ามีดแก้วหน้าม้าฟาดหัวคู่กรณีเจ็บ

ประเด็นคือ – สามีเก่าเพิ่งเลิกกับภรรยาหมาดๆ ทนไม่ได้ เห็นชายอื่นมาหาภรรยาถึงบ้าน ไม่ถามไถ่ว่ามาทำไม เชื่อเป็นชู้ พุ่งเข้าต่อยอีกฝ่ายล้มคว่ำ ฝ่ายล้มสู้ไม่ได้วิ่งไปหยิบมีดแก้วหน้าม้าสู้ สุดท้ายเจ็บทั้งคู่

วันที่ 9 ต.ค. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.อภิรัตน์ จันทวิเศษ หัวหน้าสายตรวจ สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณหน้าโรงเรียนวัดโพธิ์เสด็จ หมู่ 8 ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จึงพร้อมด้วยกำลังตำรวจสายตรวจ รถ จยย. เจ้าหน้าที่มูลนิธิใต้เต๊กตึ้ง รีบรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุ คู่กรณีเป็นชายทั้งสองคน กำลังไล่ฟันทำร้ายกันเข้าไปในร้านขายของชำริมถนน ท่ามกลางเสียงหวีดร้องตกใจของเด็กที่นอนหลับอยู่ในร้าน รวมทั้งเจ้าของร้านและชาวบ้านใกล้เคียง ตำรวจจึงเข้าไประงับเหตุ โดยควบคุมตัว นายกำพล เทพจิต อายุ 45 ปี ซึ่งยืนถือมีดพร้า บริเวณศีรษะและหน้ามีเลือดไหลอาบ นอกจากนี้ ยังมีรอยฟกช้ำบวมอีกหลายแห่ง ส่วนคู่กรณีทราบชื่อว่า นายเจริญ มูสิกศิลป์ อายุ 48 ปี บาดเจ็บ ถูกฟันที่หน้าผากเป็นแผลฉกรรจ์ยาวประมาณ 2 นิ้ว เลือดไหลอาบใบหน้า โดยมี นางหน่อย อดีตภรรยาของนายเจริญ คอยเข้าห้ามปรามทั้งสองฝ่ายอยู่

จากการสอบสวน นายกำพล เทพจิต อายุ 45 ปี กล่าวว่า ตนมีภูมิลำเนาอยู่ ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช มีอาชีพขี่รถ จยย. พ่วงข้างขายไอศกรีมยี่ห้อหนึ่ง ในขณะที่นางหน่อยก็ขายไอศกรีมของบริษัทเดียวกัน ก่อนเกิดเหตุตนได้รับโทรศัพท์จากนายจ้างให้ช่วยเข้าไปดูที่บ้านของนางหน่อย เพราะใกล้เลยเที่ยงมาแล้ว แต่นางหน่อยยังไม่มารับไอศกรีมไปขายตามปกติ ตนจึงขี่รถมาจอดหน้าบ้าน จากนั้นนายเจริญ อดีตสามีของนางหน่อย ตรงเข้ามาชกต่อยตนจนล้มลุกคลุกคลาน ตนตัวเล็กกว่าสู้นายเจริญไม่ได้จึงคว้ามีดแก้วหน้าม้าที่เหน็บอยู่ที่รถขายไอศกรีมออกมาป้องกันตัว และไล่ฟันนายเจริญจนได้รับบาดเจ็บ และวิ่งหนีเข้าไปในร้านขายของชำ กระทั่งตำรวจมาระงับเหตุดังกล่าว

ด้านนายเจริญกล่าวว่า ตนทราบมาว่านายกำพลซึ่งเป็นพ่อหม้ายแอบมีความสัมพันธ์กับนางหน่อย ภรรยาของตน ตนจึงเฝ้าติดตามพฤติกรรมมาระยะหนึ่งแล้ว จนมาพบว่านายกำพลมักจะแอบมาหานางหน่อยที่บ้านเช่าที่เกิดเหตุหลายครั้ง เมื่อมาพบนายกำพลขี่รถขายไอศกรีมเข้ามาจอดเพื่อเข้าไปหาภรรยาของตน จึงบันดาลโทสะตรงเข้าไปชกต่อยจนตะลุมบอนกันนัวเนีย และถูกนายกำพลใช้มีดพร้าไล่ฟันจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

ขณะที่นางหน่อย กล่าวว่า ตนเคยอยู่กินกับนายเจริญ ผู้บาดเจ็บ และเช่าบ้านอาศัยอยู่ที่เกิดเหตุ แต่เลิกรากับนายเจริญเมื่อไม่นานมานี้เอง โดยนายเจริญได้มาขนข้าวของที่เป็นของนายเจริญออกจากบ้านไปหมดแล้ว รวมทั้งยึดโทรศัพท์ที่ซื้อให้ตนอีกด้วย ยืนยันปัจจุบันตนไม่ได้อยู่กินกับนายเจริญ ผู้บาดเจ็บ ในฐานะผัวเมียกันอีกแล้ว ก่อนเกิดเหตุหลังจากนายจ้างได้ให้นายกำพลขี่รถขายไอศกรีมมาหาที่บ้าน เพื่อสอบถามว่าทำไมตนยังไม่ไปรับไอศกรีมมาขายตามปกติ เมื่อตนเดินออกมาหน้าบ้านก็พบว่านายเจริญตรงเข้าชกต่อยนายกำพลด้วยความหึงหวงอย่างรุนแรง และยังกระชากร่างนายกำพลจนพลัดตกจากรถขายไอศกรีมจนเกิดการชกต่อยกันนัวเนีย นายกำพลสู้ไม่ได้จึงวิ่งไปหยิบมีดแก้วหน้าม้าที่เหน็บข้างรถขายโอศกรีมออกมาไล่ฟันนายเจริญจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

ตำรวจจึงนำนายเจริญ ผู้บาดเจ็บ ส่งโรงพยาบาลมหาราช นครศรีธรรมราช ให้แพทย์ทำแผล ก่อนนำคู่กรณีทั้งสองพร้อมนางหน่อยมาเจรจาหาข้อยุติกันที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช โดยทั้งคู่ตกลงกันว่าจะไม่ติดใจเอาความกันแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่ทั้งสามคนจะแยกย้ายกันกลับ