Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

พล.ต.อ.อดุลย์  สั่งตั้งวอร์รูมประเมินสถานการณ์ ช่วยเหลือแรงงานไทยลี้ภัยสงครามในอิสราเอล พร้อมเตรียมแผนการอพยพไปยังจุดปลอดภัย 

วันที่ 25 ก.ย.2561 พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมระบบทางไกล (Video Conference) กับนายศักดินาถ สนธิศักดิ์โยธิน อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เพื่อหารือแนวทางการอพยพแรงงานไทยกรณีเกิดสงครามในอิสราเอลโดยอพยพจากอิสราเอลมายังสาธารณรัฐไซปรัสเพื่อส่งกลับมายังประเทศไทย ณ ห้องประชุม ศ.นิคม จันทรวิทุร ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้กำชับให้ฝ่ายแรงงานฯ ลงพื้นที่ให้ความรู้แก่แรงงานไทยเพื่อเตรียมความพร้อมและอำนวยความสะดวกในการอพยพเมื่อเกิดภัยสงคราม อาทิ แนะนำแนวทางการปฏิบัติตนเมื่อจำเป็นต้องมีการอพยพ โดยการเตรียมความพร้อมเรื่องเสื้อผ้า อาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรค เอกสารการเดินทาง แผนที่การเดินทาง การจัดแบ่งแรงงานเป็นหมวดหมู่เพื่อสะดวกในการอพยพ มีระบบการแจ้งเตือนไปยังแรงงานไทยที่อยู่ในสถานประกอบการแต่ละแห่ง กำหนดจุดรวมพลที่มีความปลอดภัย และชี้แจงแผนอพยพกลับประเทศไทยกรณีสถานการณ์มีความรุนแรงถึงระดับต้องอพยพแรงงานไทยออกมา รวมทั้งกำชับให้แรงงานไทยติดตามข่าวสารการแจ้งเตือนจากทางการอย่างใกล้ชิด เป็นต้น
พล.ต.อ.อดุลย์ กำชับให้ศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงแรงงาน (ศปก.รง.) ตั้งวอร์รูมเพื่อติดตามและประเมินสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล ทั้งนี้ จากการหารือระหว่างผู้แทนกรมการจัดหางานกับกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2561 ที่ประเทศไซปรัส พบว่า หากเกิดสงครามระหว่างอิสราเอลกับเลบานอน และซีเรีย และยกระดับความรุนแรงขึ้นจำเป็นต้องอพยพแรงงานไทยออกมานั้น ปัจจุบันแรงงานไทยที่ทำงานในภาคเหนือของอิสราเอลที่อยู่ในพื้นที่เสียงภัยประมาณ 1,000 คน และที่ทำงานกระจายในภาคเหนืออีก 4,500 คน ซึ่งฝ่ายแรงงานฯ ประเมินว่ามีแรงงานไทยที่สมัครใจเดินทางกลับประมาณ 2,000 คน
ส่วนที่เหลือไม่ประสงค์เดินทางกลับ ซึ่งจะเคลื่อนย้ายไปทางภาคกลางและภาคใต้ของอิสราเอลชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะสงบลง โดยแรงงานไทย 2,000 คน จะใช้เส้นทางเดินเรือจากท่าเรือ Haifa ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอิสราเอล มายังสาธารณรัฐไซปรัสที่ท่าเรือ Larnaca ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 10-12 ชั่วโมง และท่าเรือ Limassol ใช้เวลาเดินทางประมาณ 14-18 ชั่วโมง โดยใช้เรือที่จุผู้โดยสารได้เที่ยวละ 500 คน ซึ่งต้องใช้การเดินทาง 3-4 เที่ยว
กรณีที่มีเหตุฉุกเฉินที่ไม่สามารถอพยพแรงงานไทยทางเรือไปยังไซปรัสได้ ฝ่ายไทยได้เตรียมแผนที่จะอพยพแรงงานไทยมาทางตอนใต้ของอิสราเอลเพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศจอร์แดน โดยกำหนดจุดพักรอการอพยพ ณ เมืองเยรูซาเลม หรือทะเลเดดซี โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง ระยะทาง 300 กิโลเมตร ขณะเดียวกันทางการอิสราเอลได้มีบังเกอร์หลบภัยสงครามตามจุดที่กำหนดในทุกหมู่บ้าน ณ เมือง Haifa และทางการอิสราเอลจะกำหนดจุดให้ฝ่ายไทยรอรับแรงงานเพื่ออพยพต่อไป
นอกจากนี้ ทางการไทยจะเตรียมแผนรองรับการเคลื่อนย้ายคนจากสาธารณรัฐไซปรัสกลับไปยังประเทศไทย โดยอาจใช้เครื่องบินเช่าเหมาลำหรือเรือโดยสารพาณิชย์ การขอใช้อากาศยานราชการของกองทัพ หรือการขอใช้เรือรบของกองทัพเรือ เป็นต้น โดยทั้งสองฝ่ายจะพิจารณาการจัดทำบันทึกความเข้าใจและข้อตกลงร่วมกันในการดำเนินการอพยพแรงงานไทยต่อไป
ปัจจุบันมีแรงงานไทยที่ทำงานในอิสราเอลจำนวน 24,028 คน เป็นแรงงานถูกกฎหมายจำนวน 22,736 คน ในจำนวนนี้เป็นแรงงานเกษตร 22,361 คน ช่างเชื่อมและพ่อครัว 290 คน ผู้อนุบาล 45 คน และตำแหน่งอื่น ๆ เช่น ช่างแอร์ ช่างซ่อมรถยนต์ เป็นต้น จำนวน 40 คน ที่เหลือเป็นแรงงานผิดกฎหมายจำนวน 1,292 คน

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า