อนาคตใหม่ขู่ กกต.คำนวณปาร์ตี้ลิสต์ให้พรรคเล็ก เตรียมเอาผิดตามกฎหมาย

“ปิยบุตร” แถลงย้ำ กกต.ต้องคำนวณปาร์ตี้ลิสต์ยึดตามรัฐธรรมนูญ พรรคที่ได้ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 7.1 หมื่นหมดสิทธิ์ ชี้หากใช้สูตรอื่นจนพรรคอนาคตใหม่ได้รับผลกระทบถูกดำเนินคดีแน่ ส่วนกรณีศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัย ไม่ว่าจะตัดสินอย่างไรเป็นแค่เรื่องกฎหมายขัดกันหรือไม่ ไม่ใช่การไฟเขียวให้ใช้สูตรคำนวณ 27 พรรคได้

วันที่ 7 พ.ค. นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลงถึงการที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เตรียมจะประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อในวันที่ 8 พ.ค. ว่า จากคะแนนเลืออกตั้งทั้งประเทศของพรรคกว่า 6.2 ล้านเสียง คำนวณแล้วจะได้ ส.ส. รวม 87 ที่นั่ง โดยมาจาก ส.ส.เขต 30 ที่นั่ง บัญชีรายชื่อ 57 ที่นั่ง ซึ่งเป็นการคำนวณตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 91

แต่หาก กกต.ประกาศผลโดยใช้สูตรการคำนวณแบบ 27 พรรค ที่จะแจก ส.ส.ให้พรรคเล็ก 11 พรรค จะทำให้ ส.ส.ของอนาคตใหม่ลดจาก 87 คน เหลือ 80 คน หายไป 7 คน คิดเป็นคะแนนดิบประมาณ 6 แสนคะแนน เท่ากับเสียงของประชาชนที่เลือกพรรคหายวับถูกทิ้งน้ำ แสดงให้เห็นว่า ระบบการเลือกตั้งที่ตอนร่างรัฐธรรมนูญออกแบบให้ความสำคัญกับทุกคะแนน แต่ในทางปฏิบัติ กกต. อาจจะทำอีกแบบด้วยการตีความและใช้สูตรคำนวณ 27 พรรค ซึ่งจะส่งผลตามมาคือ

1. เกิดความไม่เป็นธรรมกับทั้งพรรคอนาคตใหม่ที่คะแนนถูกทิ้งน้ำ รวมทั้งพรรคอื่นๆ ด้วย ที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อจะหายไป ทั้งพลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ เสรีรวมไทย แต่อนาคตใหม่ โดนเยอะที่สุด 7 คน

2. เกิดความไม่เป็นธรรมระหว่างผู้สมัคร เพราะมี 11 พรรค ที่ได้คะแนน 30,000-60,000 คะแนนทั้งประเทศได้ ส.ส. 1 คน ขณะที่บางเขตสู้เฉพาะในเขตตัวเองได้คะแนน 30,000-40,000 คะแนน จึงได้เป็น ส.ส.

3. ส่งผลต่อการจัดตั้งรัฐบาล ถ้าคำนวณตามสูตร 27 พรรค พรรคฝ่ายต่อต้านการสืบทอดอำนาจ คสช. ที่รวมกันเสียงหายไป จาก 250 กว่าๆ จะทำให้เสียงหายไปประมาณ 10 คน เสียงข้างมากจะเปลี่ยนไปทันที

ดังนั้นจึงเรียกร้อง กกต.ให้คำนวณ ส.ส. โดยยึดรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 เป็นหลัก เพราะนี่คือกติกาที่ประกาศไว้ล่วงหน้า เมื่อคำนวณตามกฎหมายยืนยันว่า จะได้ ส.ส.ก็ต่อเมื่อได้คะแนนเฉลี่ยประมาณ 71,000 คะแนน ก็ต้องเป็นไปตามนั้น

นายปิยบุตร กล่าวต่อไปว่า ส่วนการที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยตามที่ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นเรื่อง คือพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 128 ขัดกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 หรือไม่นั้น ไม่ว่าศาลจะวินิจฉัยอย่างไรก็จะไม่ส่งผลกระทบให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ เพราะเป็นคนละประเด็นกัน

และหากวินิจฉัยว่าไม่ขัดกัน ก็ไม่ได้หมายความว่าเปิดไฟเขียวให้นำสูตร 27 พรรคมาใช้ได้ เพราะ กกต.ไม่มีทางจะคำนวณสูตรแบบอื่นได้ ต้องทำโดยยึด รัฐธรรมนูญ มาตรา 91 เป็นหลัก ซึ่งสูตร 27 พรรคจะเกิดขึ้นไม่ได้ หรือหากวินิจฉัยว่าขัดกันก็ทำให้ พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 128 สิ้นผลไป แต่ กกต.ก็ยังต้องดำเนินการตาม รัฐธรรมนูญ มาตรา 91

เลขาธิการ พรรคอนาคตใหม่ กล่าวด้วยว่า การตีความ พ.ร.ป. เลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 128 มาคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นหน้าที่ของ กกต. แต่หากใช้ขัดกับรัฐธรรมนูญและทำให้พรรคอนาคตใหม่เสียหาย จะมีการดำเนินการกับ กกต.ต่อไป โดยมีทั้งกฎหมายอาญา มาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่จนเกิดผลกระทบ และความผิดตาม พ.ร.ป.คณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยพรรคอนาคตใหม่จะให้ทีมกฎหมายไปยื่นหนังสือต่อ กกต.เรียกร้องให้คำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อโดยยึดตามรัฐธรรมนูญเป็นหลัก