Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ย้อนเรื่องราวที่มาที่ไปก่อนมาถึงการจับกุมและออกหมายจับ พระชั้นผู้ใหญ่ ในคดีที่พบความผิดปกติในการใช้เงินอุดหนุนจากสำนักงานพระพุทธศาสนา ที่ส่งไปยังวัดๆ แต่กลับมีการนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ รวมถึง “เงินทอน” ที่ไม่ได้ถูกส่งกลับเข้า “หลวง”

เงินทอนวัด” คือ เงินส่วนต่างที่วัดได้รับเงินอุดหนุนจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ซึ่งมีหน้าที่ในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา โดยได้จัดสรรงบประมาณที่เรียกว่า เงินอุดหนุน” ให้กับวัดต่าง โดยมีหลักสำคัญคือ เพื่อปฏิบัติ, เพื่อการศึกษาพระปริญัติธรรม, เพื่อการเผยแผ่และเพื่อบำรุงศาสนา

เมื่อกฎหมายมีช่องโหว่ การทุจริตเงินทอนวัดจึงเกิดขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ ของ พศ. เป็นผู้เดินสายไปตามวัดที่ขึ้นทะเบียนตามกฎหมาย และบอกว่าสามารถช่วยให้วัดได้รับเงินงบประมาณซ่อมแซมวัดได้ โดยวัดต้องเขียนโครงการเพื่อเสนอของบฯ เมื่อ พศ.อนุมัติงบฯ ทางวัดต้องเบิกเงินในอัตราร้อยละ 75 ให้เจ้าหน้าที่ พศ. อันเป็นที่มาของคำว่า “เงินทอน”

จุดเริ่มต้นของการตรวจสอบเงินทอนวัด” ย้อนกลับไปเมื่อเดือน มิ.ย.2560 สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เริ่มตรวจสอบทุจริตเงินทอนวัด โดยกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ส่งสำนวนคดีให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด 40 วัดดังทั่วประเทศไทย

วันที่ 3 มิ.ย.2560 : พระครูใบฎีกา อนันต์ เขมานนฺโท เจ้าอาวาสวัดห้วยตะแกละ จ.เพชรบุรี เข้าร้องเรียน ปปป.และ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) หลังพบพิรุธข้าราชการ พศ.ทอนเงินสร้างพระอุโบสถกลับไปถึง 10 ล้านบาท และวัดได้รับเงินจริงเพียง 1 ล้านบาท เท่านั้น

วันที่ 19 มิ.ย.2560 : ปปป.พบมูลค่าความเสียหาย 60 ล้านบาท และมีการทอนเงินกลับมายังผู้บริหารระดับสูง พศ.ถึงร้อย 75 จึงเริ่มลงตรวจสอบ 12 วัด ล็อตแรก ได้แก่ วัดพนัญเชิงวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา, วัดพระพุทธบาทตากผ้า จ.ลำพูน, วัดห้วยตาแกละ จ.เพชรบุรี, วัดราชบูรณะ (วัดนอก) จ.ชุมพร, วัดโพธิ์ศรี วัดโคกเลาะ วัดพระศรีเจริญ จ.อำนาญเจริญ, วัดวัฒนาราม วัดหาดปู่ด้าย วัดทุ่งต้ำ วัดบ้านอ้อ และวัดอุมลอง จ.ลำปาง โดยมีข้าราชการ พศ.และพลเรือนทุจริต 10 คน

วันที่ 26 ก.ย.2560 : ปปป.ลงพื้นที่ตรวจสอบ ล็อต 2 จำนวน 23 วัด ได้แก่ พบ 1 ใน 23 วัด มีการทอนเงินกลับไปยังผู้บริหารระดับสูง พศ. มากสุดจำนวน 30 ล้านบาท และน้อยสุดจำนวน 500,000 บาท ส่วนใหญ่เป็นวัดที่อยู้ในกรุงเทพมหานคร โดยมีข้าราชการ พศ.ทุจริต จำนวน 13 คน พระภิกษุสงฆ์ 4 รูป และพลเรือน 2 คน มูลค่าความเสียหาย 141 ล้านบาท

วันที่ 19 เม.ย.2561 : ปปป.ตรวจสอบพบทุจริตเงินทอนวัด ล็อต 3 จำนวน 10 วัด ในจำนวนนี้ พบคือ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร, วัดสัมพันธวงศาราม และวัดสามพระยา มี พศ.กลุ่มเดียวกันร่วมทุจริต นำมาซึ่งการตรวจสอบพระเถระชั้นผู้ใหญ่ 5 รูป คือ พระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรรมการมหาเถรสมาคม และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร, พระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม กรรมการ มส. และเจ้าคณะภาคที่ 4 -7, พระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กรรมการ มส. เจ้าคณะภาค 10, และ พระเมธีสุทธิกร และพระวิจิตรธรรมาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส, พระวิจิตรธรรมาภรณ์ เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสเช่นกัน

ก่อสร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรม (แฟ้มภาพ)

ส่วนอีก 7 วัดที่เหลือ ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพมหานคร ทั้งหมดได้เงินอุดหนุนโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญ ปี 2556 พระภิกษุสามเณร 2,500,000 รูป 72 ล้านบาท หรือ เฉลี่ยวัดละ 10 ล้านบาท

วันที่ 20 เม.ย.2561 :  ปปป.ส่งสำนวนคดีทุจริตเงินทอนวัด ตั้งแต่ล็อตที่ 1 ถึง ล็อตที่ 3 ให้ ป.ป.ช.พบมูลค่าความเสียหายกว่า 270 ล้านบาท

วันที่ 19 พ.ค.2561 : พบนอมินีเงินทอนพระผู้ใหญ่ 25 ล้านบาท เจ้าหน้าที่นำหมายค้นเข้าตรวจสอบที่บ้าน ร.ท.ฐิติทัศน์ นายทหารสังกัดศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) หลังตำรวจร่วมกับ ปปง. ตรวจสอบเส้นทางการเงินพบมีการโอนเงินงบเผยแพร่พระพุทธศาสนาวัด 12 แห่ง ไปยังแม่บ้านของ ร.ท.ฐิติทัศน์ และบัญชีของตัวเอง แต่วัดทั้ง 12 แห่งกลับไม่ได้รับเงิน

ทั้งยังพบเส้นทางการเงิน เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ได้โอนเงินจำนวน 25 ล้านบาท เข้าบัญชีแม่บ้านของ ร.ท.ฐิติทัศน์ เช่นกัน นอกจากนั้นยังพบปืนหลายชนิดกว่า 23 กระบอก เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาสอบสวนหาความเชื่อมโยง และออกหมายศาลเข้าตรวจค้นวัดสระเกศ

วันที่ 23 พ.ค.2561: ศาลอาญาอนุมัติหมายจับ พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) เจ้าอาวาส และเจ้าคณะภาค 10 และพระอีก 3 รูปของวัดสระเกศ ได้แก่ พระศรีคุนาภรณ์ หรือพระมหาบุญทวี คำมา, พระครูสิริวิหารการ และพระครูวิจิตร ธรรมาภรณ์ หรือเจ้าคุณเทิด ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ฐานร่วมความผิดคดีความผิดฟอกเงิน และยังออกหมายจับ น.ส.นุชรา สิทธินอก แม่บ้านที่บ้าน ร.ท.ฐิติทัศน์ นิพนธ์พิทยา

วันที่ 24 พ.ค.2561 : ตำรวจกองปราบนำหมายศาลอาญา เข้าตรวจค้นวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เพื่อนิมนต์พระ 4 รูปไปรับทราบข้อกล่าวหา ขณะที่ค้นวัดสระเกศ ฯ ในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน ไม่พบตัว พระพรหมสิทธิ หรือ เจ้าคุณธงชัย เจ้าอาวาสวัด ตร.ตรวจสอบพบพิรุธ ทำประตูหลบหนี และสอบปากคำลูกศิษย์ และผู้ช่วยเจ้าอาวาส 2 รูป โดยลูกศิษย์ บอกเจ้าคุณธงชัย ออกไปจากวัดตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค. จากการตรวจสอบเส้นทางเงินในบัญชีเจ้าอาวาส พบเงินกว่า 130 ล้านบาท และยังพบการโอนเงินให้ฆราวาส 69 ล้านบาท

และในวันเดียวกันนี้เอง ตำรวจกองปราบปรามได้บุกค้นวัดอีก 3 แห่ง ประกอบด้วย วัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร, วัดสามพระยา และวัดอ้อน้อย เพื่อนิมนต์พระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร, พระพุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย มาที่กองปราบปราม

สำหรับวัดที่จะขอเงินอุดหนุนบูรณปฏิสังขรณ์วัด ต้องเป็นวัดที่ได้รับอนุญาตให้ตั้งเป็นวัดตามกฎหมาย มีชื่อในทะเบียนวัด ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เจ้าอาวาสปกครองวัดให้เป็นไปตามกฎหมาย พระสงฆ์และประชาชนที่ขึ้นกับวัดเอาใจใส่ในการพัฒนาวัด และวัดมีเงินทุนในการบูรณะที่จะขอรับเงินอุดหนุนบูรณปฏิสังขรณ์วัด หรือจัดหาวัสดุก่อสร้าง หรือก่อสร้างไปแล้ว 1 ใน 3 ของงานก่อสร้าง และเจ้าอาวาสหรือรักษาการเจ้าอาวาสได้รับการแต่งตั้งถูกต้องตามกฎหมาย

 

ขอบคุณข้อมูล nacc.go.th และ Thaipbs

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า