SHARE

คัดลอกแล้ว

ประเด็นคือ – เหตุการณ์โศกนาฏกรรมรถบัสคว่ำจนมีผู้เสียชีวิต 18 คน ที่ จ.นครราชสีมา ล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พูดคุยกับคุณยายที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์นี้ แต่ต้องเสียคนในครอบครัวไปถึง 9 คน

จากกรณีอุบัติเหตุรถบัสของบริษัทกันเองทัวร์ นำเที่ยวจากจังหวัดกาฬสินธุ์ เสียหลักพลิกคว่ำขณะเดินทางกลับจากไปเที่ยวทะเลที่จันทบุรี บริเวณถนนสาย 304 กบินทร์บุรี-ราชสีมา ทางลงเขาวังน้ำเขียว ตำบลอุดมทรัพย์ อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 18 ราย บาดเจ็บอีก 32 คน เหตุเกิดเมื่อวานนี้ (เวลา 19.10 น. วันที่ 21 มี.ค. 61)

https://www.youtube.com/watch?v=sDmvPzf76tc

เบื้องต้นคนขับรถบัสคันเกิดเหตุชื่อ นายกฤษณะ จุฑาชื่น อายุ 44 ปี ได้หลบหนีไปแล้ว แต่ต่อมา พบว่า เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (22 มี.ค.) นายกฤษณะได้เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.วังน้ำเขียว ในสภาพมีบาดแผลถลอกตามแขนขา โดยได้รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา อ้างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงใช้อาศัยช่วงชุลมุนหลบหนี

ต่อมาสำนึกผิดประกอบกับบาดแผลเริ่มอักเสบ ทำให้เจ็บแผลมากจึงตัดสินใจเข้ามอบตัว ส่วนสาเหตุเกิดจากระบบห้ามล้อชำรุดในระหว่างลงเขาวังน้ำเขียว พยายามควบคุมรถแต่ความลาดชันของเส้นทางทำให้ความเร็วของรถเพิ่มขึ้นสุดวิสัยที่จะบังคับได้ ซึ่งตรงกับคำให้การของผู้โดยสาร ได้กลิ่นเหม็นไหม้ที่ใต้ท้องรถและรถส่ายไปมาก่อนจะเกิดเหตุ ทั้งนี้ ทางตำรวจได้ควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ล่าสุดวันนี้ ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ได้ลงพื้นที่ที่เกิดเหตุ บริเวณโค้งมะกุดหวาน ถนน 304 กบินทร์บุรี – ราชสีมา อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา พื้นที่ของ สภ.อุดมทรัพย์ พบว่า ถนนเส้นดังกล่าวเป็นเนินโค้งระยะทางยาว มีป้ายเตือนให้ผู้ขับขี่ใช้ความเร็วที่ 60 กม./ชม. และป้ายเตือนฝนตกถนนลื่น ทางข้างหน้าเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง แต่จากการสังเกตพบว่า ผู้ที่ขับขี่ใช้ความเร็วค่อนข้างสูง

ทีมข่าวได้เดินทางไปพูดคุยกับ นางสมจิต จำปาศรี อายุ 55 ปี ผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ เธอเล่าว่า เดินทางมากับครอบครัวรวม 14 คน นั่งอยู่ชั้นบนโซนหน้า เธอนั่งคู่กับหลานชาย มาถึงจุดเกิดเหตุได้ยินคนในรถตะโกนว่า เบรกแตกๆ จึงกอดหลานชายไว้และก้มตัวลง จากนั้นรถก็พุ่งข้่ามฝั่งถนนไปชนกับต้นไม้และร้านค้าริมทาง ซึ่งเธอกับหลานชายรอดตายได้อย่างปาฏิหาริย์ แต่จากเหตุการณ์นี้ทำให้เธอเสียสมาชิกคนในครอบครัวไปถึง 9 คน และบาดเจ็บอีก 5 คน

ส่วนอีกครอบครัวของ นายสมปอง ปรีวิลัย อายุ 51 ปี (เสื้อสีน้ำเงิน) ที่มาเที่ยวพร้อม นางทองสอน ปรีวิลัย อายุ 49 ปี ภรรยา เล่าว่า ตนนั่งอยู่ชั้นล่าง ก่อนเกิดเหตุคนในรถก็พูดคุยกันยังไม่หลับ จนเริ่มผิดสังเกตเพราะรู้สึกว่ารถบัสขับเร็ว และได้ยินคนตะโกนบอกว่า ให้โชเฟอร์ขับช้าๆ หน่อย รถเริ่มมีอาการส่ายไปมา จนรถพุ่งข้ามแผงปูนกั้นถนน จากนั้นก็ตะโกนเรียกนางทองสอน ปรีวิลัย ภรรยา แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ ตอนนั้นจึงทำใจไว้ว่าภรรยาคงเสียชีวิตแล้ว

ขณะเดียวกัน ญาติๆ ผู้ประสบอุบัติเหตุ ได้เดินทางมาจาก จ.กาฬสินธุ์ ทยอยเดินทางมารอรับศพ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังน้ำเขียว คอยอำนวยความสะดวก และตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ เพื่อยืนยันตัวบุคคล โดย น.ส.ชื่นจิต ขันธบูรณ์ อายุ 35 ปี ร้องไห้ด้วยความเสียใจ หลังต้องสูญเสียลูกสาว 2 คนพร้อมกัน รวมถึงต้องสูญเสียมารดา คนในครอบครัวอันเป็นที่รักพร้อมกันถึง 3 คน เธอเล่าว่า ลูกสาวอยากไปเที่ยวทะเลช่วงปิดเทอม จึงอนุญาตให้เดินทางไปกับยายพร้อมคณะทัวร์ และมีลางสังหรณ์ลูกสาวบอกไว้ว่า “รักแม่นะ แม่ดูแลตัวเองให้ดี”

เช่นเดียวกับ นายวิจิตร สุทธิชุม อายุ 59 ปี บอกว่า ครอบครัวสุทธิชุม เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้พร้อมกันถึง 8 คน เป็นหญิง 6 คน ชาย 2 คน ตนรู้สึกเสียใจมาก เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของครอบครัว ไม่คิดว่าจะเกิดอุบัติเหตุครั้งรุนแรงที่ต้องสูญเสียคนในครอบครัวพร้อมกันหลายคน หลังจากนี้จะนำศพญาติๆ ไปบำเพ็ญกุศลพร้อมกันที่บ้านเกิดต่อไป

รายงานสรุปตัวเลขอุบัติเหตุครั้งนี้ มีผู้เสียชีวิต 18 ราย โดยอยู่ รพ.วังน้ำเขียว 17 ราย อยู่ที่ รพ.มหาราช 1 ราย ขณะผู้บาดบาดเจ็บยังคงรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล 19 ราย ประกอบด้วย รพ.มหาราช 10 ราย, รพ.วังน้ำเขียว 3 ราย, รพ.เทพรัตน์ 1 ราย, รพ.ค่ายสุรนารี 1 ราย, รพ.ปักธงชัย 1 ราย, รพ.กรุงเทพ 3 ราย และกลับบ้านแล้ว 13 ราย

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า