เปิดใจ “ศุภชัย ใจเด็ด” ฮีโร่ และ ดาวยิงความหวังใหม่ของทัพ “ช้างศึกเอเชียนเกมส์”

ภาพจากเพจ ฟุตบอลทีมชาติไทย

ทันทีที่โขกประตูพาทีม “ช้างศึกเอเชียนเกมส์” ฟื้นคืนจากหลุม ตามตีเสมอ กาตาร์ ไปอย่างสนุก ในนัดประเดิมลูกหนังเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 18 ณ แดน “อิเหนา” อินโดนีเซีย ชื่อของ “อาร์ม” ศุภชัย ใจเด็ด ถูกพูดถึงเป็นวงกว้างจากแฟนลูกหนังชาวไทย

หลังจากถูกทีมแกร่งแห่งตะวันออกกลางนำห่างในครึ่งเวลาแรก ด้วยสัญชาตญาณดาวยิงที่ซ่อนเร้นอยู่ในตัวเจ้าของเสื้อหมายเลข 13 ทำให้ “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ ผู้เป็นเฮดโค้ชตัดสินใจส่งหัวหอกจากค่าย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ลงสนามก่อนออกสตาร์ทครึ่งหลัง แทนที่ สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ กองกลางเท้าชั่งทอง เพื่อปลุกจิตวิญญาณแห่งชัยชนะของทัพลูกหนังจากแดนสยามกลับมาอีกครั้ง

เมื่อปลายสตั๊ดย่ำสัมผัสฟลอร์หญ้า หัวหอกวัย 20 กะรัต สาวเท้าวิ่งไล่กดดันกองหลังคู่แข่ง พร้อมกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมเพื่อความหวังในการพา “ช้างศึกเอเชียนเกมส์” ทวงประตูตีเสมอให้ได้ จนประสบความสำเร็จในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของเกม

“อาร์ม” ศุภชัย ใจเด็ด นักฟุตบอลทีมชาติไทย (กองหน้า)

“ดีใจมากครับที่ทำประตูได้ ต้องขอบคุณเพื่อนร่วมทีมทุกคนและ “โค้ชโย่ง” ที่ไว้ใจ ให้โอกาสผมลงสนาม ถ้าผมได้รับโอกาสลงสนาม ไม่ว่าจะกี่นาที ผมจะทำมันให้ดี ทุกครั้งที่ลงสนามผมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องทำประตูให้ได้ ผมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ทีมได้รับชัยชนะ แค่นี้ผมก็มีความสุขแล้ว ที่เหลือถือเป็นโบนัสครับ” เจ้าอาร์ม เปิดใจด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น หลังทำประตูสำคัญพาพลพรรคแข้งใจเพชรจากสยามประเทศ คว้า 1 แต้ม ประเดิมศึกลูกหนังเอเชียนเกมส์สำเร็จ

ถึงจะออกสตาร์ทอย่างสวยงาม แต่เส้นทางการแข่งขันเอเชียนเกมส์และชีพจรลูกหนังของ “เจ้าอาร์ม” เพิ่งเริ่มต้น เนื่องจากยังมีเกมหนักรออยู่ถึง 2 นัด ในการพบกับ บังคลาเทศ และ อุซเบกิสถาน

ซึ่งเขาหวังทำผลงานที่ดีในสนามต่อไป และไม่หลงระเริงกับผลงานสวยหรูกับเกมแค่นัดเดียวเด็ดขาด

“เป้าหมายต่อไปเราต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ทุกคนต้องทำเต็มที่ และต้องพาทีมผ่านเข้ารอบต่อไปให้ได้” ดาวยิงความหวังใหม่ของชาวไทย กล่าวอย่างมุ่งมั่น

นอกจากนี้หัวหอกจาก จ.ปัตตานี ยังเผยเคล็ดลับสำคัญในการยิงประตูของตัวเองอีกว่า

“ผมชอบดู ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต้ และพยายามศึกษาการเคลื่อนที่ การหาช่องว่าง หรือ การวิ่งทำทาง เพื่อเปิดช่องว่างให้เพื่อนร่วมทีมสอดขึ้นไปทำประตู ที่สำคัญผมจดจำวิธีการยิงประตูของเขา เพราะในการฝึกซ้อมเขามักทำให้ผมตกตะลึงอยู่เสมอ”

เรียกได้ว่านอกจากจะทุ่มเทแรงกายและแรงใจให้กับเกมลูกหนังที่รัก ดาวยิงรายนี้ยังคงซึมซับการเล่นของนักเตะรุ่นพี่ เพื่อต่อยอดศาสตร์ลูกหนังของตัวเองให้แก่กล้าและก้าวขึ้นไปเป็นกำลังสำคัญบนแผงแนวรุกของทีม “ช้างศึก” ยุคใหม่ในอนาคต

ส่วนตัวเขาจะก้าวไปถึงจุดสูงสุดบนเส้นทางลูกหนังหรือนั้นหรือไม่ เวลาเท่านั้นที่จะพิสูจน์

แต่ตอนนี้ผมเชื่อว่า “เจ้าอาร์ม” ได้ก้าวไปอยู่ในใจแฟนบอลชาวไทยไม่มากก็น้อยแล้วละครับ

ขอบคุณภาพและข้อมูลจากเพจ ฟุตบอลทีมชาติไทย